หนุ่มอุบลฯเมาคลั่ง!! ชัก .38 ก่อเหตุยิงเจ้าของร้านมินิมาร์ท ดับ 2

อุบลราชธานี 13 มี.ค. – ชายวัย 40 ปี เมาคลั่งก่อเหตุยิงเจ้าของร้านมินิมาร์ท เสียชีวิต 2 ราย ตำรวจปิดล้อมกล่อมอยู่นานนับชั่วโมง จึงยอมมอบตัว สภาพเมา พูดจาไม่รู้เรื่อง แต่ยอมรับก่อเหตุจริง

(13 มี.ค.65) เมื่อคืนนี้ ร .ต.อ .วัชระ นิลวงษ์ชัย รองสารวัตร สอบสวน สภ.เดชอุดม รับแจ้งจากศูนย์ 191 มีเหตุยิงกันภายในซอยแสนคำ ตำบลเมืองเดช อำเภอเดชอุดม มีผู้บาดเจ็บสาหัส 2 คน จึงได้รายงานผู้คับบัญชาทราบพร้อม พ.ต.อ.อดุลย์ สุรำไพ ผู้กำกับการสถานีตำรวจเดชอุดม เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สายตรวจ 191 เข้าตรวจสอบ

ที่เกิดเหตุอยู่ภายในร้านมินิมาร์ทแห่งหนึ่ง ภายในร้านพบผู้บาดเจ็บ 2 คน คือนายนราวุฒิ (สงวนนามสกุล) ถูกยิงเป็นแผลฉกรรจ์บริเวณท้ายทอยและคิ้วขวา และ นางจิตติมา (สงวนนามสกุล) ถูกยิงมีแผลฉกรรจ์บริเวณท้ายทอย นอนจมกองเลือดหายใจรวยริน เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยมูลนิธิการกุศลอุบลราชธานี (จุดเดชอุดม) พร้อมหน่วยกู้ชีพโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชเดชอุดม ทำการปฐมพยาบาลเบื้องต้นก่อนนำส่งโรงพยาบาล และเสียชีวิตในเวลาต่อมา

จากการสอบสวนชาวบ้าน ขณะเกิดเหตุไม่มีใครเห็นเหตุการณ์ ได้ยินแค่เสียงปืนจำนวนหลายนัด ก่อนจะมีชายต้องสงสัยเดินออกจาร้านที่เกิดเหตุเข้าไปยังบ้านพักฝั่งตรงข้าม เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้กระจายกำลังปิดล้อมบ้านต้องสงสัยจนแน่ใจว่าผู้ก่อเหตุคือนายธีระพร จอมหงษ์ อายุ 40 ปี หลบซ่อนตัวอยู่ในบ้าน เจ้าหน้าที่พยายขามเกลี้ยกล่อมกว่า 1 ชั่วโมง นายธีระพร จึงยอมมอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจพร้อมตรวจยึดอาวุธปืนขนาด .38 ซุกซ่อนอยู่หลังเครื่องซักผ้า 1 กระบอก

สอบถามนายธีระพร เบื้องต้นยังให้การวกวนคล้ายคนเมาพูดจาสับสนไม่รู้เรื่องแต่ยอมรับว่าเป็นผู้ก่อเหตุจริง สาเหตุยังไม่ทราบว่าเกิดจากเรื่องใดจึงต้องลงมือยิงทั้ง 2 คน ล่าสุดเจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวนายธีระพร ไปตรวจสอบคราบเขม่าที่สำนักงานพิสูจน์หลักฐานจังหวัดอุบลราชธานี เพื่อประกอบสำนวน

ด้าน พ.ต.อ.อดุลย์ เปิดเผยว่า หลังรับแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าที่เกิดเหตุพร้อมทั้งแบ่งชุดปิดกันที่เกิดเหตุและหาพยานที่เห็นเหตุการณ์ จนทราบตัวผู้ต้องสงสัยและสามารถดำเนินการควบคุมตัว ผู้ต้องสงสัยไว้ได้ 1 คน ซึ่งในเบื้องต้นผู้ต้องสงสัยรายนี้ได้ให้การรับสารภาพแต่ยังไม่ทราบสาเหตุแรงจูงใจต้องรอสอบสวนอย่างละเอียดและสรุปอีกครั้ง

บทความต้นฉบับ

หนุ่มคลั่งชักปืน .38 ยิงเจ้าของร้านมินิมมาร์ต ดับ 2