ชาวบ้าน จ.แพร่เริ่มถอดใจ หลัง ผญบ.ฉีดวัคซีนวันเดียวดับ หมอไม่สามารถยืนยันเป็นผลข้างเคียง?

ลือผู้ใหญ่บ้านฉีดวัคซีนแล้วเสียชีวิต ทำเอาชาวบ้านถอดใจ

จ.แพร่ – เรื่องราวเหตุการณ์มีผู้เสียชีวิตจากข่าวลือสะพัดว่าผู้ใหญ่บ้านคนหนึ่ง ในเขต ตำบลห้วยม้า เสียชีวิตจากการฉีดวัคซีนรายนี้เกิดเมื่อเวลา 10.00 น.วันที่ 19 พฤษภาคม 2564 ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่า มีผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 6 บ้านทุ่งล้อม ต.ห้วยม้า อ.เมือง จ.แพร่ เสียชีวิตอันเนื่องมาจากผลข้างเคียงจากการฉีดวัคซีน ป้องกันโควิด-19 จึงเดินทางไปที่ทำการบ้าน หมู่ 6 ใหญ่บ้าน พบกับกลุ่มชาวบ้านที่ทราบข่าวได้เดินทางมายังบ้านผู้ใหญ่บ้าน และยืนยันว่า ผู้ใหญ่บ้าน ชื่อ นายอุดร (สงวนนามสกุล) อายุ 47 ปี ได้เสียแล้ว ขณะนี้ศพอยู่ที่ ร.พ.แพร่

โดยกลุ่มชาวบ้านเล่าให้ ผู้สื่อข่าวฟังว่า นายอุดร อายุ 47 ปี เพิ่งรับตำแหน่งผู้ใหญ่บ้านมาได้ประมาณ 4 เดือน ที่ผ่านมา เมื่อวันจันทร์ที่ 17 พฤษภาคม 2564 ได้ไปฉีดวัคซีนป้องกันโควิด 19 เข็มแรกที่ผ่านมา วันอังคารทำงาน และเข้านอน ตอนกลางคืนและมีอาการแน่นหน้าอก ญาติๆนำส่งร.พ.แพร่และเสียชีวิต จากการเสียชีวิตของนายอดุร ครั้งนี้ ทำเอาชาวบ้านในเขตตำบลห้วยม้าต้องหวาดผวาคนที่ลงชื่อจะฉีดวัคซีน มีการพูดปากต่อปากว่าจะไม่ไปฉีดกัน กลัวเป็นอะไรลงไป

เมื่อบ่ายวันนี้ เวลา 15.00 น.ที่สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดแพร่ ถนนบ้านใหม่ ต.ในเวียง อ.เมือง จ.แพร่ น.พ.ขร วินัยพานิช สาธารณสุขจังหวัดแพร่ ร่วมกับ น.พ.ดนัย ภัทรเธียรสกุล ผอ.ร.พ.แพร่ร่วมกันแถลงข่าวกับสื่อมวลชนและมีการไลฟ์สดผ่านเพจสำนักงานธารณสุขจังหวัดแพร่ โดยสาธารณสุขจ.แพร่ กล่าวว่า การเสียชีวิตของผู้ป่วย ไม่สามารถยืนยันได้ว่าเกิดจากการฉีกวัคซีน เป็นช่วงเวลาที่ผ่านไปเป็นวันแล้ว หากเกิดจากการฉีดวัคซีนก็จะเกิดขึ้นในช่วงเวลา 30 นาที่ วัคซีนยังมีความสำคัญสำหรับคนไทย เหมือนกับวัคซีนทั่วไปที่เราเคยฉีดกัน

น.พ.ดนัย ภัทรเธียรสกุล ผอ.ร.พ.แพร่ กล่าวว่า จากการสอบสวนโรคจากทางญาติ เมื่อเวลา 22.00 น. เข้านอนตามปกติไม่มีอาการอะไร จากนั้นเวลา 22.40 น. ญาติได้ยินเสียงร้องลักษณะคล้ายสำลัก จึงเข้าไปดูพบว่าลิ้นจุกปากไม่มีอาการชักเกร็ง หายใจติดขัด เรียกไม่รู้สึกตัว ญาติจึงเรียกเจ้าหน้าที่กู้ชีพกู้ภัยนำส่งโรงพยายาล จากนั้นทาง รพ.ได้ทำการกู้ชีพ พบว่าผู้ป่วยไม่หายใจ จึงได้ใส่เครื่องช่วยหายใจและทำการ CPR แต่ก็ไม่มีสัญญาณชีพ และเสียชีวิต ซึ่งในเบื้องต้นทางโรงพยาบาลได้นำร่างผู้เสียชีวิตส่งชันสูตรที่โรงพยาบาลรามาธิบดี แล้ว และปลายสัปดาห์จะทราบถึงผลของการเสียชีวิตแท้จริงต่อไป

เครดิตแหล่งข้อมูล : www.chiangmainews.co.th

admin

Recent Posts

อัตตชีวประวัติ “หลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ” วัดสะแก จังหวัดพระนครศรีอยุธยา

หลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ มีชาติกำเนิดในสกุล “หนูศรี” เดิม ชื่อ ดู่ เกิดเมื่อวันที่ ๒๙ เมษายน พ.ศ. ๒๔๔๗ ตรงกับวันศุกร์ขึ้น ๑๕ ค่ำ… อ่านเพิ่มเติม..

5 days ago

วันดื่มไวน์แห่งชาติ

วันที่ 18 กุมภาพันธ์ของทุกปี เขาถือว่าเป็น "วันดื่มไวน์แห่งชาติ" (National Drink Wine Day) วันสำคัญเพื่อเฉลิมฉลอง ผ่อนคลายให้กับเครื่องดื่มที่สุดแสนละมุนนี้ เตรียมตัวเฉลิมฉลอง มนุษย์ได้เพลิดเพลินกับไวน์มาเป็นเวลาหลายพันปีแล้ว ความคล้ายคลึงตามธรรมชาติของเครื่องดื่มนี้ไม่เพียงเพราะมีรสชาติที่ยอดเยี่ยมเท่านั้น แต่ยังเป็นเพราะคุณค่าทางโภชนาการและผลต่อจิตประสาท… อ่านเพิ่มเติม..

3 months ago

เชิญร่วมสักการะ “พระบรมสารีริกธาตุ “พระอรหันตธาตุ ณ วัดมหาธาตุวชิรมงคล จ.กระบี่ 15–18 มี.ค.67

ขอเชิญพุทธศาสนิกชน เข้าสักการะ พระบรมสารีริกธาตุ องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า และพระอรหันตธาตุของ พระสารีบุตร และโมคคัลนะ อัญเชิญประดิษฐานเป็นการชั่วคราว ณ วัดมหาธาตุวชิรมงคล จังหวัดกระบี่ ระหว่างวันที่ 15 – 18… อ่านเพิ่มเติม..

3 months ago

พระฉันนะ ผู้ว่ายากสอนยากกลายเป็นพระสงฆ์ ผู้ยิ่งใหญ่ที่สุด

ท่านพระฉันนะ เป็นผู้ที่เกิดวันเดียวกับพระพุทธเจ้า เป็นสหชาติทั้ง ๗ คือเป็น ๑ ใน ๗ ที่เกิดพร้อมกับพระพุทธเจ้า เติบโตมาด้วยกัน และก็เป็นสหายเพื่อนเล่น และก็ทำหน้าที่คอยรับใช้พระโพธิสัตว์มาตลอด ในวันที่พระโพธิสัตว์ออกมหาภิเนษกรมณ์ คือออกบวช นายฉันนะก็ติดตามไปด้วย… อ่านเพิ่มเติม..

3 months ago

ตำรวจไซเบอร์ แนะวิธีตั้งค่า iPhone เพื่อป้องกันแอปฯ ดูดเงิน

ตำรวจไซเบอร์ – บช.สอท. ออกมาเตือนภัย คนใช้ iPhone ต้องอ่าน ‼️ ⚙️วิธีตั้งค่าเพื่อป้องกันแอปฯ ดูดเงิน 📱ทำได้ง่าย ๆ เพียงแค่ 2 ขั้นตอน… อ่านเพิ่มเติม..

3 months ago

ข่าวดี! พบ นกกระเรียนพันธุ์ไทย จับคู่ทำรังวางไข่ 5 คู่ หลังจากสูญพันธุ์ไป 50 ปี

เขตห้ามล่าสัตว์ป่าอ่างเก็บน้ำสนามบิน แจ้งข่าวดี! พบ นกกระเรียนพันธุ์ไทย จับคู่ทำรังวางไข่ 5 คู่ หลังจากสูญพันธุ์ไป 50 ปี เขตห้ามล่าสัตว์ป่าอ่างเก็บน้ำสนามบิน ระบุ "ฤกษ์งามยามดี เดือนมกราคม ปี… อ่านเพิ่มเติม..

3 months ago

This website uses cookies.