พ่อแม่สุดช็อก! พบลูกชายเพิ่งขายสวนยางและปาล์ม ได้ไม่ทันไรพบอีกทีเป็นศพสภาพแขวนคอในบ้านพัก

จังหวัดตรัง – ชายอายุ 34 ปี เพิ่งบอกพ่อว่าจะขายสวนยางพาราและปาล์มน้ำมันได้ไม่ทันไร พบอีกทีเป็นศพสภาพแขวนคออยู่ในบ้านที่จังหวัดตรัง โดยพ่อเชื่อว่าลูกชายน่าจะถูกฆาตกรรม

ตำรวจ สภ.กันตัง พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่กู้ภัยเข้าตรวจสอบภายในบ้านหลังหนึ่ง เขตหมู่ 2 ตำบลบางสัก อำเภอกันตัง จังหวัดตรัง พบผู้เสียชีวิตเป็นชายอายุ 34 ปี สภาพศพมีเชือกไนล่อนแขวนคอโยงไว้กับคานบ้าน ส่งกลิ่นคละคลุ้ง คาดว่าเสียชีวิตไม่ต่ำกว่า 3 วัน จากการตรวจสอบโดยรอบบ้านพบพิรุธหลายอย่าง ทั้งที่ประตูบ้านมีร่องรอยคล้ายถูกฟันด้วยอาวุธมีคม ปรากฏอยู่จำนวนหลายรอย

นอกจากนี้ยังพบบานกระจกหน้าต่างของห้องนอนที่พบร่างผู้เสียชีวิตถูกทุบกระจกแตกเสียหายแทบทุกบาน ส่วนที่นอนมีร่อยรอยถูกจุดไฟเผาเป็นวงกว้าง

พ่อผู้เสียชีวิต เล่าว่า ที่ผ่านมาแม้ว่าลูกชายจะมีเหตุให้ต้องหย่าขาดจากภรรยาและต้องพาลูกชาย 1 คน ย้ายไปอยู่ที่บ้านในอำเภอนาโยง ทำให้ลูกชายต้องอยู่บ้านหลังนี้เพียงลำพังมาได้ 1 ปีแล้ว แต่ไม่เคยทำตัวมีปัญหา ยังคงขยันทำมาหากิน ซึ่งจากร่องรอยต่าง ๆ ที่พบในบ้าน ทำให้ผู้เป็นพ่อไม่เชื่อว่าลูกชายจะคิดสั้นปลิดชีพตัวเองจากไปแบบนี้ แต่เชื่อว่าลูกชายน่าจะถูกฆาตกรรมอย่างแน่นอน

สำหรับมูลเหตุจูงใจที่ทำให้พ่อผู้เสียชีวิตเชื่อว่าลูกชายน่าจะถูกฆาตกรรม เพราะคนในครอบครัวมีประวัติติดยาเสพติด ที่ผ่านมาคอยแต่สร้างปัญหาให้และมักจะมาขอเงินจากผู้เสียชีวิตเป็นประจำ ทำให้ลูกชายที่เสียชีวิตรู้สึกอึดอัดใจ

และก่อนหน้านี้ประมาณ 2-3 วัน เพิ่งจะมาบอกกับตนเองว่าจะขายสวนยางพาราและสวนปาล์มน้ำมัน ที่มีอยู่จำนวน 40 ไร่ เนื่องจากต้องการย้ายไปอยู่ที่อื่น เพราะไม่ยากยุ่งเกี่ยวกับพี่สาวและน้องชายที่ติดยาเสพติดอีกแล้ว อย่างไรก็ตามเรียกร้องให้ตำรวจเร่งสืบสวนทำคดีนี้ให้เกิดความกระจ่างโดยเร็ว

บทความต้นฉบับ

พ่อเชื่อลูกชายถูกฆาตกรรม ร้องตำรวจเร่งสอบสวน จ.ตรัง