ญาติกังขาลูกหนีทหาร ถูกตามกลับ ผูกคอดับในค่าย แถมไม่ให้ดูศพ!

ญาติกังขาบุกร้องสื่อ “พลทหาร” ผูกคอดับในค่าย หลังหนีออกจากหน่วยช่วงลอยกระทงเพื่อมาหาแฟน และถูกเจ้าหน้าที่ทหารมาถึงบ้านแล้วนำตัวกลับเข้าค่าย ก่อนได้รับแจ้งว่าได้ผูกคอตาย เมื่อขอดูศพกลับถูกบ่ายเบี่ยงไม่ให้เห็น จึงจะขอนำศพผ่าพิสูจน์เพื่อหาสาเหตุ

เมื่อวันที่ 6 พ.ย.63 ศูนย์รับแจ้งเหตุ 191 ตำรวจภูธรจังหวัดร้อยเอ็ดได้รับแจ้งมีทหารผูกคอตัวเองเสียชีวิต อยู่ภายในห้องน้ำกองรักษาการณ์ ค่ายประเสริฐสงคราม ตำบลเหนือเมือง อำเภอเมืองร้อยเอ็ด จังหวัดร้อยเอ็ด หลังรับแจ้งพนักงานสอบสวนพร้อมด้วย แพทย์เวร และหน่วยกู้ภัยอโสก ไปตรวจสอบ

จุดเกิดเหตุเป็นห้องคุมขัง ภายในห้องน้ำพบร่างอายุ 22 ปี ใช้เชือกไนลอนสีขาวผูกคอตัวเองติดกับลูกกรงเหล็ก สูงจากพื้นประมาณ 2 เมตร คาดเสียชีวิตมาประมาณ 1 ชั่วโมง ซึ่งขณะนั้นมีทหารเข้าเวรรัษาการณ์อยู่ด้านหน้าหลายนาย และไม่อนุญาตให้สื่อเก็บภาพทำข่าว จากนั้นหน่วยกู้ภัยนำศพส่งพิสูจน์ที่โรงพยาบาลร้อยเอ็ด

ต่อมาช่วงเย็นวันเดียวกัน ได้มีหญิงอายุ 27 ปี แฟนสาวผู้เสียชีวิต พร้อมญาติกว่า 10 คนเดินทางไปที่ห้องเก็บศพ โรงพยาบาลร้อยเอ็ดเพื่อขอดูศพ และขอให้พนักงานสอบสวน ส่งศพไปผ่าพิสูจน์ที่ รพ.ศรีนครินทร์จังหวัดขอนแก่น เนื่องจากยังติดใจในสาเหตุการผูกคอเสียชีวิตของแฟนหนุ่ม ซึ่งเข้ารับราชการทหารกองเกิน รุ่น ปี 2562 ผลัดที่ 1 และจะปลดประจำการวันที่ 1 พฤษภาคม 2564 โดยมีเจ้าหน้าที่ทหารมาคอยดูแล และหาทางไกล่เกลี่ย

สอบถามแฟนสาวพลทหารดังกล่าว เล่าว่า ก่อนหน้านี้ผู้ตายได้หนีค่ายออกไปช่วงวันลอยกระทง (31 ต.ค.) ไปหลบอยู่บ้านปู่ เพื่อออกมาหาตน โดยเมื่อวานมีทหารออกไปตามที่บ้านปู่ และพบผู้ตาย ซึ่งในระหว่างนั้นตนก็อยู่ด้วยและบอกแฟนหนุ่มให้กลับเข้าค่าย เพราะเดี๋ยวปีหน้าก็ปลดแล้ว ตนจึงเดินทางไปส่งผู้ตายกลับเข้าค่าย ประมาณ 21.30 น. ของวันที่ 5 พ.ย. ซึ่งผู้ตายได้บอกกับตนว่าไม่อยากกลับเข้าค่ายเพราะกลัวโดนลงโทษ และบอกว่าอยากได้โทรศัพท์มือถือ ตนก็บอกว่าเดี๋ยวออกงานช่วง 13.00 น. จะเอาเข้ามาให้ที่ค่าย แต่ก็ไม่ทันได้เจอหน้าแฟน

ก็ได้ทราบข่าวว่าแฟนผูกคอตายภายในค่าย ตนและญาติต่างรีบพากันเข้าไปดูสภาพศพ แต่ก็ไม่มีโอกาสได้เห็น เพราะเจ้าหน้าที่ทหารแจ้งว่าไม่สามารถให้ดูหรือแตะต้องศพ ต้องเป็นหน้าที่ของแพทย์และตำรวจเท่านั้น แม้กระทั่งศพมาถึงโรงพยาบาล ก็ยังมีเจ้าหน้าที่ทหารมายืนเฝ้าศพ ไม่ให้ญาติได้เข้าใกล้ศพแม้แต่น้อย โดยบอกเพียงว่าเป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่จะดำเนินการเอง

“ซึ่งทางญาติก็ติดใจว่า ก่อนหน้านี้แฟนไม่เคยบ่นปัญหาอะไรให้ฟัง วันที่กลับเข้าค่ายก็ยังพูดคุยกันปกติ แต่สงสัยว่าเมื่อกลับเข้าค่ายจะโดนลงโทษอย่างไร อยากให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องช่วยไขข้อข้องใจ ว่าทำไมไม่ให้ญาติเห็นศพหากผูกคอตายจริง ซึ่งญาติได้ตกลงกันว่า จะนำศพไปทำการผ่าพิสูจน์ เพื่อหาสาเหตุการเสียชีวิตที่โรงพยาบาลศรีนครินทร์ จ.ขอนแก่น” แฟนพลทหารผู้เสียชีวิตกล่าว

เมื่อสอบถามญาติผู้ตาย มีบ้านอยู่ติดกันกับบ้านผู้ตาย เผยว่า ก่อนหน้านี้ก็ทราบผู้ตายเคยหลบออกจากค่ายมาก่อนหน้านี้ครั้งหนึ่ง ด้วยสาเหตุที่มีภาวะปอดติดเชื้อ และมีปอดข้างเดียว แต่ก็กลับไปในค่าย โดยล่าสุดเมื่อวันที่ 31 ต.ค. ก็ได้หลบออกมาโดยหลบอยู่บ้านยาย ซึ่งส่วนตัวทราบข่าวว่าได้ผูกคอตาย ซึ่งก็ยังไม่เชื่อ เพราะผู้ตายไม่น่าจะมีปัญหาอะไร ซึ่งการกลับเข้าค่ายอาจจะถูกกดดันหรือลงโทษ จนอาจจะเป็นสาเหตุให้ลงมือฆ่าตัวตายในครั้งนี้หรือไม่.

ต้นฉบับ