นักโทษแหกคุกกระบี่ ยอมรับคิดสู้แต่โดนจู่โจมสายฟ้าแลบ เผยแผนการหลบหนี อ้างพ่อป่วย-อยากไปเยี่ยม

คุม “น.ช.มณฑล” 1 ในนักโทษแหกคุก ถูกจับที่ทุ่งสง ถึงกระบี่แล้ว ตำรวจคุมสอบเข้ม เจ้าตัวรับคิดต่อสู้หากถูกจับกุม แต่โดนตำรวจจู่โจมสายฟ้าแลบ พร้อมเปิดเผยแผนการหลบหนี อ้างพ่อป่วย เตรียมผ่าตัด อยากกลับไปเยี่ยม

เมื่อวันที่ 11 ต.ค.63 ภายหลังตำรวจกองปราบปราม และ ตชด.42 ร่วมจับกุมตัว นักโทษชายมลฑน ขันสมาน อายุ 47 ปี 1 ใน 2 นักโทษแหกคุกเรือนจำกระบี่ ได้ที่ ต.เขาโร อ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช เมื่อวันที่ 10 ต.ค.ที่ผ่านมา

ล่าสุดเวลา 01.00 น.วันที่ 11 ต.ค.63 พ.ต.อ.พิษณุ พ่วงพร้อม ผกก.สส.ภ.จ.กระบี่ พร้อมชุดสืบสวนภูธร จ.กระบี่ นำตัวนักโทษชายมลฑน มาสอบสวนที่ บก.สส.ภ.จ.กระบี่ โดยการจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องมาจาก เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการสอบสวน นักโทษชายอานนท์ เด็นหมาด

นักโทษที่ร่วมหลบหนีจากเรือนจำจังหวัดกระบี่อีกราย ที่ถูกจับกุมได้ในพื้นที่ อ.สิเกา จ.ตรัง เมื่อวันที่ 9 ต.ค.ที่ผ่านมา จนสามารถติดตามจับกุมตัวนักโทษชายมลฑน ได้ในที่สุด โดยได้ให้การช่วงจับกุมว่า ตั้งใจจะต่อสู้หากถูกจับกุม แต่ถูกตำรวจจู่โจมจับโดยไม่ทันตั้งตัว

เมื่อถามถึงพฤติกรรมการแหกคุก นักโทษชายมณฑล ให้การว่า เหตุที่คิดหลบหนี เนื่องจากถูกชักชวนจาก นักโทษชายอานนท์ ซึ่งเพิ่งรู้จักกันในเรือนจำ แล้ววางแผนช่วยกันถอดลูกกรง และช่วยกันง้างโซตรวนที่ล่ามขาไว้ ก่อนปีนกำแพงความสูง 5 เมตรออกมา ยอมรับว่ากลัวไฟฟ้าช็อต แต่ก็ยอมเมื่อตัดสินใจหนีแล้ว

โดยหลังหลบหนีได้เดินลัดเลาะผ่านริมแม่น้ำสวนสาธารณะธารา ต.ปากน้ำ อ.เมือง จ.กระบี่ ลอยคอล่องริมทะเล บางช่วงเดินริมหาด ออกไปยังหมู่บ้านแหลมโพธิ์ ต.ไสไทย อ.เมือง จ.กระบี่ ห่างออกไปราวกว่า 20 กิโลเมตร จากตัวเมืองกระบี่ และไปขึ้นรถยนต์กระบะ ซึ่ง นักโทษชายอานนท์ นัดให้คนนำรถกระบะมาทิ้งไว้ให้ ที่บ้านแหลมโพธิ๋ โดยนักโทษชายอานนท์ เป็นคนขับรถไปส่งตนที่ อ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช ก่อนแยกย้ายกันหลบหนี ส่วนตนไปพักอาศัยบ้านของน้องภรรยา ที่ถูกจับด้วยในข้อหาช่วยหลบหนี

“สาเหตุที่ตัดสินใจหนี เพราะเห็นว่าแผนการของนักโทษชายอานนท์ น่าจะออกไปได้ง่าย จึงตัดสินใจหลบหนีออกมาด้วย โดยขั้นตอนแรกจะใช้ช้อนแคะไม้วงกบในเรือนนอน เพื่อดึงเอาเหล็กลูกกรงออก จากนั้นก็ใช้ผ้ามัดต่อกันโยนขึ้นไปพาดไว้กับกำแพงสูง 5 เมตร เพื่อปีนหนี ตนกระโดดลงมาได้รับบาดเจ็บที่ขา คาดว่ากระดูกน่าจะร้าว

หากมีโอกาสคิดว่าคงจะไม่แหกคุกอีกแล้ว เหตุจูงใจอีกอย่างที่ตนอยากออกมา เพราะอยากไปเยี่ยมพ่อ ที่กำลังจะผ่าตัดกระดูกสันหลังที่ รพ.มอ.หาดใหญ่ ในวันที่ 11 ต.ค.นี้ หากตนไม่ถูกจับก่อน ตนตั้งใจจะไปเยี่ยมพ่อแน่นอน แม้จะถูกจับที่โรงพยาบาล เพราะตั้งใจแล้วว่า ยังไงก็ถูกจับอยู่แล้ว” นักโทษชายมณฑล ให้การ

ส่วน นักโทษชายอานนท์ นักโทษอีกรายที่ร่วมกันหลบหนีและถูกจับกุมได้ก่อนหน้านี้นั้น ยังคงถูกควบคุมตัวอยู่ใน จ.ตรัง ในคดีมียาเสพติดและมีอาวุธปืนไว้ในครอบครอง ส่วนผู้ที่มีส่วนช่วยผู้ต้องหาทั้ง 2 รายหลบหนีและให้ที่ซ่อนตัวนั้น ตำรวจกำลังรวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อจับกุมมาดำเนินคดีด้วย คาดว่ามีอยู่ 2-3 คน ต่อมาตำรวจได้คุมตัว นักโทษชายมลฑน ส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองกระบี่ ดำเนินคดีในข้อหาหลบหนีการคุมขังตามอำนาจศาล เตรียมนำตัวส่งเรือนจำกระบี่ต่อไป

ดูต้นฉบับ