ลือสะพัด!! ‘ฌอน’ หนีออกนอกประเทศแล้ว!

มีข่าวลือออกมาพูดถึงหนุ่ม ฌอน บูรณะหิรัญ ที่ก่อนหน้านี้มีประเด็นเรื่องเงินบริจาคช่วยดับไฟป่า ที่ จ.เชียงใหม่ จนมีสื่อหลายสำนักตามประโคมข่าวในหลายแง่มุม แต่ ฌอน ก็ไม่ออกมาเคลื่อนไหวใดใด จนล่าสุด สื่อท้องถินอย่าง เชียงใหม่ นิวส์ รายงานว่า

เมื่อเวลา 12.30 น วันที่ 3 ก.ค. 2563 ที่สำนักงานตำรวจภูธรภาค 5 ได้รับการเปิดเผยจาก พล.ต.ต.บัณฑิต ตุงคะเศรณี รอง ผบช.ภาค 5 ว่า เรื่องที่มีบุคคลที่อาศัยช่วงวิกฤตการณ์ตามสถานการณ์ต่าง ๆ และสถานการณ์ความเดือดร้อนของชาวบ้าน และเจ้าหน้าที่ ออกมาเปิดบัญชีเรี่ยไรรับบริจาค เพื่อผลประโยชน์ของตนเอง โดยอ้างจะไปช่วยเหลือ ว่า เรื่องนี้การบริจาคต่าง ๆ คนไทยเรานั้นมีจิตใจที่เป็นกุศลอยู่แล้ว ก็อยากฝากว่าหากจะช่วยเหลือด้วยความบริสุทธิ์ใจ ก็ควรจะผ่านช่องทางที่ดูแล้วจะถูกต้องเช่น หน่วยงานการกุศล หรือหน่วยงานราชการ ให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ ของคนที่อยากจะบริจาค หรือให้เป็นประโยชน์กับผู้ที่ได้รับตรง ๆ จริง ๆ

ก็อยากจะฝากเตือนถึงพวกที่เปิดรับบริจาคเพื่อช่วยเหลือบุคคลสังคม ตามสถานการณ์ต่าง ๆ ตอนนี้ทางนายกรัฐมนตรี ทางท่านผบ.ตร. รวมทั้ง ผู้บังคับบัญชาภาค 5 ท่านก็ห่วงใยในตรงนี้ว่า ในภาวะปัจจุบันเรามีผลกระทบจาก โควิด 19 เรื่องไฟป่า หมอกควัน ที่ผ่านมา รวมทั้งเรื่องอาชญากรรมต่าง ๆ ก็ยังมีการไปซ้ำเติมประชาชนที่ได้รับผลกระทบทางเศรษฐกิจอยู่แล้วก็ไม่อยากจะให้เกิดเหตุการณ์ที่ไปหลอกลวงประชาชนหรือไปซ้ำเติมประชาชน ก็ฝากเตือนไปยังพวกที่คิดกระทบแบบนี้ และหากมีการกระทำในลักษณะแบบนี้ ก็ขอให้มีการแจ้งมาทางเราก็จะไปตรวจสอบและทำให้เรื่องให้ถูกต้อง

“กรณีที่เป็นกระแสข่าวในตอนนี้ ก็อยากจะบอกว่า หากจะมีการเปิดรับบริจาค ก็ขอแนะนำว่า ควรผ่านองค์กรการกุศล หรือหน่วยงานราชการก็จะดีกว่า และก็ใจเย็น ๆ กันนิดหนึ่ง และดูว่าช่องทางที่บริจาคเป็นช่องทางที่ถูกต้องและตรงตามวัตถุประสงค์ที่ตรงตามที่บริจาค อย่าไปซ้ำเติมประชาชน เพราะประชาชนเองในขณะนี้ก็มีภาวะที่แย่อยู่แล้ว ปัญหาต่าง ๆ แล้วมาเกิดพวกหาผลประโยชน์ในลักษณะแบบนี้เท่ากับเป็นการซ้ำเติมประชาชน”

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ฝ่ายปกครอง ได้พยายามติดต่อ ฌอน ทางโทรศัพท์มือถือของฌอน ซึ่งปรากฏว่า ฌอน ได้ปิดเครื่องแล้ว ส่วนการเคลื่อนไหวของเพจ ของฌอน ก็ไม่ได้มีการเคลื่อนไหวอะไรทั้งสิ้น โดยมีกระแสข่าวว่า ฌอน ได้ออกไปต่างประเทศด้านชายแดนเขมร แล้ว เพื่อไปตั้งหลัก

ขอบคุณข้อมูล : chiangmainews