เผยคลิป! หนุ่มแฉตำรวจบงการค้ายา ผู้การเมืองคอนสั่งย้ายด่วน “ดาบวิทย์” ตั้งกรรมการสอบสวนใน 7 วัน

นครศรีธรรมราช – เผยคลิปผู้ต้องหายาเสพติดรับสารภาพโยง “ตำรวจ” สั่งให้ค้ายา ล่าสุด ผบก.นครศรีธรรมราช สั่งย้าย “ดาบวิทย์” ไปช่วยราชการที่ศูนย์ปฏิบัติการฯ ให้รายงานตัวใน 24 ชม. พร้อมตั้งคณะกรรมการสอบสวนให้แล้วเสร็จใน 7 วัน

ภายหลังมีการแชร์คลิปการสารภาพของผู้ต้องหาจำหน่ายยาเสพติด และโยงไปถึงเจ้าหน้าที่ตำรวจนายหนึ่งของ สภ.เฉลิมพระเกียรติ จ.นครศรีธรรมราช ถูกแชร์อย่างต่อเนื่องตั้งแต่วานนี้ (23 มิ.ย.) ทำให้สร้างความเสื่อมเสียให้แก่ชื่อเสียงของเจ้าหน้าที่ตำรวจอย่างมาก

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังจากที่มีการเผยแพร่คลิปออกไป พล.ต.ต.สนธิชัย อาวัฒนกุลเทพ ผู้บังคับการตำรวจภูธรนครศรีธรรมราช ได้เร่งสอบสวนหาข้อเท็จจริงในเบื้องต้น และได้ออกคำสั่งให้ “ดาบวิทย์” หรือ ด.ต.ศัตวิทย์ ทองรักจันทร์ ผบ.หมู่งานสืบสวน สภ.เฉลิมพระเกียรติ จ.นครศรีธรรมราช ไปช่วยราชการที่ศูนย์ปฏิบัติการตำรวจภูธรนครศรีธรรมราช และให้รายงานตัวภายใน 24 ชั่วโมง พร้อมกันนั้น ยังได้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงให้แล้วเสร็จภายใน 7 วัน

สำหรับกรณีการจับกุมผู้ต้องหารายนี้ สืบเนื่องจากฝ่ายปกครองอำเภอเฉลิมพระเกียรติ จ.นครศรีธรรมราช ได้สืบสวน และล่อซื้อยาเสพติดจาก นายปิยะพงศ์ อินทร์ศวร อยู่บ้านเลขที่ 480 หมู่ 3 ต.สวนหลวง อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.นครศรีธรรมราช โดยมีของกลางเป็นยาบ้า 56 เม็ด เงินสด 1,800 บาท เหตุเกิดเมื่อวันที่ 17 มิ.ย.ที่ผ่านมา โดยมีการบันทึกคำรับสารภาพของนายปิยะพงศ์ เอาไว้โดยเจ้าหน้าที่ชุดจับกุม แต่ภายหลังคลิปนี้ได้หลุดออกมา แล้วถูกส่งต่อโดยไม่ทราบต้นตอ จนเป็นที่มาของการสั่งให้มีการสอบสวนอย่างเร่งด่วน

โดยในวันนี้ (24 มิ.ย.) พล.ต.ต.สนธิชัย อาวัฒนกุลเทพ ผู้บังคับการตำรวจภูธรนครศรีธรรมราช ได้สั่งการให้ พ.ต.อ.รังสรรค์ สุขเกื้อ ผู้กำกับการกองกำกับการสืบสวนตำรวจภูธรนครศรีธรรมราช ออกปฏิบัติการตรวจค้นเป้าหมายต้องสงสัยที่เกี่ยวข้องอย่างต่อเนื่อง เพื่อค้นหาหลักฐานเชื่อมโยง รวมทั้งเส้นทางการเงิน โดยพบข้อมูลว่านอกจากตำรวจที่ถูกผู้ต้องหายาเสพติดรายนี้ซัดทอดแล้วนั้น

ยังมีตำรวจอย่างน้อยอีก 1 นาย คือ “ดาบ ม.” ซึ่งเป็นตำรวจที่ใกล้ชิดกับ ด.ต.ศัตวิทย์ ทองรักจันทร์ เข้ามาเกี่ยวข้องกับขบวนการด้วย แต่ยังไม่มีคำสั่งให้ดำเนินการต่อ “ดาบ ม.” โดยขณะนี้เจ้าหน้าที่ได้เร่งสืบสวนอย่างต่อเนื่อง โดยหลังจากมีการสอบสวนข้อเท็จจริงแล้ว กรรมการจะมีการชี้มูลเพื่อนำไปสู่การสอบสวนดำเนินการทางวินัยอีกชั้น

เนื้อหาต้นฉบับ