ตะลึง! พบซากฉลามวาฬหนักกว่า 2 ตัน ลอยตายใกล้กับเกาะลิบง จ.ตรัง

ครั้งแรกในรอบ 8 ปี พบฉลามวาฬ น้ำหนักกว่า 2 ตัน ลอยตายใกล้กับเกาะลิบง เขตห้ามล่าสัตว์ป่าหมู่เกาะลิบง จ.ตรัง รอทีมสัตวแพทย์ผ่าพิสูจน์สาเหตุตายพรุ่งนี้ (16 พ.ย.) ขณะที่ยังพบปัญหาขยะทะเลปะปนในแปลงหญ้าทะเล

วันนี้ (15 พ.ย.2562) ไทยพีบีเอสออนไลน์ สัมภาษณ์ นายชัยพฤกษ์ วีระวงศ์ หัวหน้าเขตห้ามล่าสัตว์ป่าหมู่เกาะลิบง จ.ตรัง กล่าวว่า ช่วงสายวันนี้ เจ้าหน้าที่เขตห้ามล่าสัตว์ป่าหมู่เกาะลิบง หน่วยเเหลมจูโหย ได้รับเเจ้งจากนายแบบ หมาดหลี อายุ 50 ปี ชาวบ้าน ต.เกาะลิบง อ.กันตัง จ.ตรัง พบซากฉลามวาฬขนาดใหญ่ บริเวณนอกหินกอง ซึ่งทีแรกชาวบ้านจะพยายามช่วยกันลาก แต่เนื่องจากมีขนาดใหญ่

ขณะนี้เจ้าหน้าที่และชาวบ้านยังอยู่ระหว่างการลากซากฉลามวาฬ ซึ่งเบื้องต้นประเมินว่าน่าจะมีความยาวมากกว่า 6 เมตร น้ำหนักกว่า 2 ตัน ซึ่งมีขนาดใหญ่ และสภาพซากยังค่อนข้างสมบูรณ์ เท่าที่เจ้าหน้าที่ตรวจสอบไม่พบมีบาดแผล โดยกำลังลากมาที่บริเวณหาดยาว

เพื่อให้ทีมสัตวแพทย์ กรมอุทยานฯ และสัตวแพทย์ กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง (ทช.) ร่วมกับผ่าชันสูตรหาสาเหตุการตาย คาดว่าจะลงมือผ่าวันพรุ่งนี้ (16 พ.ย.)

“เป็นครั้งแรกในรอบ 8 ปีที่เจอซากฉลามวาฬตายในทะเลเกาะลิบง ที่ผ่านมาปีก่อน เคยมีนักดำน้ำเจอฉลามวาฬในแนวปะการัง บ่งชี้ว่าพื้นที่มีความสมบูรณ์ ”

ต่อมาในช่วงเย็นซากฉลามวาฬ ถูกลากเข้ามาที่ชายหาดยาว เพื่อเตรียมพิสูจน์หาสาเหตุการตายท่ามกลางความสนใจของชาวบ้านในพื้นที่ ที่มาดูซากฉลามวาฬ

สำหรับฉลามวาฬตัวที่เจอซาก ยังไม่สามารถสรุปสาเหตุการตายได้ ต้องรอผลการผ่าชันสูตรก่อน แต่ถือว่าเป็นความสูญเสียเพราะเป็นฉลามวาฬที่มีขนาดใหญ่ที่ตายเป็นครั้งแรกในรอบ 8 ปีของเกาะลิบง

ขณะที่สถานการณ์พะยูน หลังการตายของมาเรียมจากปัญหาการกินขยะเข้าไปนั้น ที่ผ่านมามีเยาวชน ชาวบ้านและเจ้าหน้าที่ ยังร่วมกันเก็บขยะออกจากแปลงหญ้าทะเลอย่างต่อเนื่อง เพื่อไม่ให้เกิดอันตรายกับพะยูน และสัตว์ทะเลตัวอื่นๆ เนื่องจากในช่วงมรสุม ยังมีขยะทะเลพัดเข้ามามาก

ซากฉลามวาฬ ที่ตายใกล้กับเกาะลิบง จ.ตรัง ถูกลากเข้ามาที่ชายหาดยาว เพื่อเตรียมพิสูจน์หาสาเหตุการตายวันพรุ่งนี้ (16 พ.ย.) ท่ามกลางความสนใจของชาวบ้านในพื้นที่

#ThaiPBSnews