บ้านตระ (เมืองลับแลแห่งเทือกเขาบรรทัด)
“ประวัติความเป็นมาของชุมชนบ้านตระ และการตั้งถิ่นฐาน”
บ้านตระ เป็นชุมชนเก่าแก่มากว่า 300 ปี เป็นเขตรอยต่อ 3 จังหวัด ระหว่าง ตรัง พัทลุง และสตูล เป็นเส้นทางการค้าโบราณในยุคสมัยอยุธยาตอนกลาง เดิม มีชื่อเรียกว่าบ้านสระ และในตระ มีผู้ปกครองคนแรกที่ได้รับการแต่งตั้งจากเจ้าเมืองปะเหลียน ซึ่งเป็น เมืองขึ้นของเมืองพัทลุง คือหมื่นเสนาะคีรี หรือ ”ทวดเล็ก” มีหน้าที่ดูแลบ้านตระและบ้านหัวช้าง หมื่นเสนาะคีรี หรือทวดเล็ก เสียชีวิตและฝังศพที่บ้านตระมีสุสาน(กุโบร์) ของท่านจนถึงปัจจุบัน
• ต่อมาพ.ศ.2435 ในสมัยรัชกาลท่ี 5 ทางราชการมีนโยบายจัดเก็บภาษี รัชชูปการหรือภาษี 4 บาท จากผู้ชายที่มีครอบครัวแล้ว นโยบายนี้สร้างความเดือนร้อนให้แก่ชาวบ้านจานวนมากเนื่องจากไม่มีการสะสม เงินตรานอกจากคนที่ค้าขายเท่านั้น จึงทาให้เกิดโจรปล้นทรัพย์สินและขโมยวัวควายมากข้ึนในหลายพื้นที่ นอกจากการเปลี่ยนแปลงนโยบายทางเศรษฐกิจแล้ว นโยบายการเมืองการปกครองต้องผูกขาดอานาจรัฐไว้ท่ี ส่วนกลางอีกด้วย
• พ.ศ. 2457 บ้านตระมีผู้ใหญ่บ้านคนแรกคือนายมูสา การะนิล ชาวบ้านประมาณ 100 ครัวเรือน นับ ถือศาสนาอิสลาม การปกครองจึงได้นำหลักการของศาสนามาใช้ในการปกครองด้วย ในช่วงการปกครองนี้ มี เหตุการณ์สาคัญๆ 2 เหตุการณ์ คือมีโจรจากพัทลุงเข้ามาปล้นทรัพย์สินของชาวบ้านตระอยู่บ่อยๆและ เกิดโรคไข้น้าหรือไข้ทรพิษระบาดทาให้ชาวบ้านตระเสียชีวิตเป็นจำนวนมาก ชาวบ้านหลายคนได้อพยพไปตั้งถิ่นฐานชั่วคราวในหลายอำเภอของจังหวัดตรัง พัทลุง และสตูล
• ต่อมา พ.ศ. 2466 ผู้ใหญ่มูสา การะนิล ล้มป่วยจากไข้น้ำและได้เสียชีวิต ศพของนายมูสาได้ฝังไว้ที่ กุโบร์ในบ้าน ที่บ้านตระ เมื่อนายมูสาเสียชีวิต นายอำเภอทุ่งหว้าได้แต่งตั้ง “นายระหมาน กะปุก” เป็น ผู้ใหญ่บ้านคนต่อมา โดยกำนันตาบลทุ่งหว้าเป็นผู้เสนอช่ือ
โรคไข้น้ำยังคงระบาดและโจรชุกชุม ผู้ใหญ่บ้านและชาวบ้านจึงลงความเห็นว่าควรอพยพไปตั้งชุมชน ใหม่ที่บ้านลำแครง (อยู่ในพื้นท่ีหมู่ที่ 6 ตำบลปะเหลียน จังหวัดตรัง) และบ้านควนไม้ดำ (อยู่ในพื้นท่ีหมู่ท่ี 2 ตำบลปะเหลียน จังหวัดตรัง) แต่ชาวบ้านจำนวนหนึ่งยังคงยืนยันท่ีจะอยู่บ้านตระเหมือนเดิม ในส่วนคนที่ย้าย ไปอยู่บ้านลำแครงและบ้านควนไม้ดำยังคงทากินในที่ดินบ้านตระตามเดิม
• ในช่วง พ.ศ.2508 – พ.ศ.2513 เจ้าหน้าที่เริ่มเข้ามาสำรวจพื้นที่สร้างเขื่อนขนาดใหญ่ในพื้นที่บ้าน ตระ บริเวณคลองตระ ที่ไหลลงสู่แม่น้ำละงู ทำให้ชาวบ้านบางส่วนก็มีรายได้เพิ่มเติมจากการรับจ้างแบกท่อ เหล็กและเครื่องปั่นไฟขึ้นไปบนบ้านตระ ระยะทางในการแบกเหล็กประมาณ 25 กิโลเมตร จากบ้านผู้ใหญ่ หลุบ ชูอ่อน ถึงบริเวณท่ีจะวัดน้ำ ชาวบ้านได้รับค่าจ้างแบกเหล็กกิโลกรัมละ 3 บาท
• ต่อมา พ.ศ.2514 ได้เกิดความขัดแย้งอย่างรุนแรงระหว่างรัฐกับประชาชน ประชาชนจำนวนหนึ่งได้ เข้าป่าจัดตั้งกองกาลังเพื่อต่อสู้กับรัฐบาล เรียกว่า “กองทัพปลดแอกประชาชนแห่งประเทศไทย ” (ท.ป.ท.) หลังจากนั้น ท.ป.ท. ได้ขยายฐานทัพมาในเขตป่าเทือกเขาบรรทัด และเข้ามาตั้งฐานทัพระดับกองพันในป่า บริเวณบ้านตระ การสารวจพื้นที่เพื่อสร้างเขื่อนก็ยุติลงในช่วงนี้
• หลังจากน้ัน พ.ศ. 2516-พ.ศ. 2518 ราชการได้เข้ามาปราบปรามคอมมิวนิสต์อย่างหนัก ทำให้ ชาวบ้านส่วนใหญ่ต้องอพยพออกจากหมู่บ้านโดยย้ายไปอยู่ในพื้นท่ีอำเภอปะเหลียน อำเภอย่านตาขาว จังหวัดตรัง และในพื้นที่อำเภอตะโหมด จังหวัดพัทลุง
• หลังจากนั้น พ.ศ.2534 ชาวบ้านได้ร่วมกันพัฒนาเส้นทางจากบริเวณควรเณรมีขึ้นไปบ้านตระ โดยใช้จอบขุดเพื่อให้สามารถนาผลผลิตทางการเกษตรไปขายได้สะดวกข้ึน
• ในปีเดียวกัน “นายชวน หลีกภัย ” ได้เข้ามาดูสภาพพื้นที่บ้านตระ ในขณะนั้นนายชวนเป็นรัฐมนตรี กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ดูแลกรมป่าไม้ ซึ่ง “นายผ่อง เฮ่งลี้ ” เป็นอธิบดีกรม หลังจากนั้น 3 เดือนก็มี นโยบายอพยพชาวบ้านตระออกจากพื้นที่ โดยจะจัดท่ีอยู่ใหม่ให้ ในพื้นที่อำเภอควนกาหลง จังหวัดสตูล และ ในพื้นที่อำเภอวังวิเศษ จังหวัดตรัง เม่ือชาวบ้านจำนวนหนึ่งไปดูพื้นที่ก็พบว่าไม่ใช่ที่ดินว่างเปล่า แต่เป็นท่ีทำ กินของชาวบ้านในพื้นท่ีดังกล่าว ชาวบ้านตระส่วนหนึ่งจึงไม่เห็นด้วยกับการอพยพ
• ช่วง พ.ศ. 2535-2537 ราชการยังคงผลักดันให้ชาวบ้านอพยพออกจากพื้นที่ เจ้าหน้าท่ีป่าไม้ขึ้นมา สำรวจจำนวนชาวบ้านและจานวนอาสิน เพื่อเตรียมอพยพ โดยจะจ่ายค่าชดเชยอาสินและจัดหาท่ีอยู่ให้ใหม่ มีการกาหนดค่าชดเชย 2 กลุ่ม คือ กลุ่มที่
1) ทากินในพื้นที่อาศัยในพื้นที่ จะจ่ายค่าชดเชยไร่ละ 30,000 บาท
2) ทากินในพื้นที่ อาศัยนอกพื้นที่ จะจ่ายค่าชดเชยไร่ละ 5,000 บาท เม่ือทางราชการเรียกประชุม ชาวบ้านที่บริเวณน้าตกโตนเต๊ะ ก็มีชาวบ้านเข้าร่วมประมาณ 700 คน ชาวบ้านส่วนใหญ่มีมติอพยพออก จากบ้านตระ รัฐบาลจัดสรรงบประมาณประมาณ 72 ล้านบาทเพื่อจ่ายค่าชดเชยให้ชาวบ้าน แต่ในช่วงนั้นไม่มีงบประมาณ จึงไม่ได้อพยพชาวบ้านออกจากพื้นท่ี
• พ.ศ.2545 ชาวบ้านตระจึงจัดต้ังองค์กรข้ึนเพื่อร่วมกันแก้ปัญหาและสร้างความมั่นคงให้ชุมชน ชาว บ้านตระเป็นสมาชิกเครือข่ายองค์กรชุมชนรักเทือกเขาบรรทัด ต่อมาเปลี่ยนช่ือเป็นเครือข่ายปฏิรูปท่ีดิน เทือกเขาบรรทัดบ้านตระ
• พ.ศ. 2551-พ.ศ.2553 ร่วมกับเครือข่ายปฏิรูปที่ดินเทือกเขาบรรทัด และเครือข่ายปฏิรูปที่ดินแห่ง ประเทศไทยเจรจากับรัฐบาลภายใต้ คณะกรรมการอานวยการแก้ปัญหาเครือข่ายปฏิรูปท่ีดินแห่งประเทศ ไทย พร้อมทั้งเสนอให้รัฐบาลรับรองพื้นที่นาร่องโฉนดชุมชน จานวน 75 ครัวเรือน ประมาณ 340 คน มีเนื้อท่ี 3,000 ไร่
#อยู่บ้านเราไม่ขึ้นเขาก็ลงเล
ขอบคุณภาพ/ข้อมูล : อยู่บ้านเรา ไม่ขึ้นเขา ก็ลงเล
หลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ มีชาติกำเนิดในสกุล “หนูศรี” เดิม ชื่อ ดู่ เกิดเมื่อวันที่ ๒๙ เมษายน พ.ศ. ๒๔๔๗ ตรงกับวันศุกร์ขึ้น ๑๕ ค่ำ… อ่านเพิ่มเติม..
วันที่ 18 กุมภาพันธ์ของทุกปี เขาถือว่าเป็น "วันดื่มไวน์แห่งชาติ" (National Drink Wine Day) วันสำคัญเพื่อเฉลิมฉลอง ผ่อนคลายให้กับเครื่องดื่มที่สุดแสนละมุนนี้ เตรียมตัวเฉลิมฉลอง มนุษย์ได้เพลิดเพลินกับไวน์มาเป็นเวลาหลายพันปีแล้ว ความคล้ายคลึงตามธรรมชาติของเครื่องดื่มนี้ไม่เพียงเพราะมีรสชาติที่ยอดเยี่ยมเท่านั้น แต่ยังเป็นเพราะคุณค่าทางโภชนาการและผลต่อจิตประสาท… อ่านเพิ่มเติม..
ขอเชิญพุทธศาสนิกชน เข้าสักการะ พระบรมสารีริกธาตุ องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า และพระอรหันตธาตุของ พระสารีบุตร และโมคคัลนะ อัญเชิญประดิษฐานเป็นการชั่วคราว ณ วัดมหาธาตุวชิรมงคล จังหวัดกระบี่ ระหว่างวันที่ 15 – 18… อ่านเพิ่มเติม..
ท่านพระฉันนะ เป็นผู้ที่เกิดวันเดียวกับพระพุทธเจ้า เป็นสหชาติทั้ง ๗ คือเป็น ๑ ใน ๗ ที่เกิดพร้อมกับพระพุทธเจ้า เติบโตมาด้วยกัน และก็เป็นสหายเพื่อนเล่น และก็ทำหน้าที่คอยรับใช้พระโพธิสัตว์มาตลอด ในวันที่พระโพธิสัตว์ออกมหาภิเนษกรมณ์ คือออกบวช นายฉันนะก็ติดตามไปด้วย… อ่านเพิ่มเติม..
ตำรวจไซเบอร์ – บช.สอท. ออกมาเตือนภัย คนใช้ iPhone ต้องอ่าน ‼️ ⚙️วิธีตั้งค่าเพื่อป้องกันแอปฯ ดูดเงิน 📱ทำได้ง่าย ๆ เพียงแค่ 2 ขั้นตอน… อ่านเพิ่มเติม..
เขตห้ามล่าสัตว์ป่าอ่างเก็บน้ำสนามบิน แจ้งข่าวดี! พบ นกกระเรียนพันธุ์ไทย จับคู่ทำรังวางไข่ 5 คู่ หลังจากสูญพันธุ์ไป 50 ปี เขตห้ามล่าสัตว์ป่าอ่างเก็บน้ำสนามบิน ระบุ "ฤกษ์งามยามดี เดือนมกราคม ปี… อ่านเพิ่มเติม..
This website uses cookies.