สืบสวนเมืองสุราษฎร์ฯ ยึดรถยนต์ รถจักรยานยนต์ กว่า 50 คัน ที่บ้านนายทุนเงินกู้นอกระบบ

จ.สุราษฎร์ธานี – เมื่อวันที่ 10 ก.ค.2564 พล.ต.ต.สาธิต พลพินิจ ผบก.จว.สุราษฎร์ธานี พร้อมด้วย พ.ต.อ.นิพล ชาตรี ผกก.สภ.เมืองสุราษฎร์ธานี เข้าตรวจสอบและเคลื่อนย้านรถยนต์และรถจักรยานยนต์ของกลาง จำนวน 56 คัน ที่ตำรวจ สภ.เมืองสุราษฎร์ธานี นำโดย พ.ต.ท.พรณรงค์ การอรชัย รอง ผกก.สส.ภ.จว.เมืองสุราษฎร์ธานี พ.ต.ท.ชุมพล คุ้มภิรมย์ สว.สอบสวนพร้อมชุดสืบสวนนำหมายค้นของศาลแขวงจังหวัดสุราษฎร์ธานี ลงวันที่ 9 ก.ค. 64

เข้าตรวจค้น ที่บ้านเลขที่ 56/14 หมู่บ้านบรรจงเฮ้าส์ ถ.เลี่ยงเมือง หมู่ 5 ต.มะขามเตี้ย อ.เมือง จ.สุราษฎร์ธานี ของ นายปรีชา อุดมวรรธนะกุล อายุ 44 ปี หลังชุดสืบสวนสืบทราบว่า นายปรีชา มีพฤติการณ์ที่ส่อว่ากระทำผิดเกี่ยวกับหนี้นอกระบบ

จากการตรวจค้นพบว่า ภายในรั้วบ้านเลขที่ดังกล่าวพบรถจักรยานยนต์ยี่ห้อต่างๆ จอดอย่างเป็นระเบียบ จำนวน 44 คัน และบริเวณลานดินที่ว่างนอกรั้วหลังบ้าน พบรถยนต์ทั้งเก๋ง กระบะและแวน สภาพพร้อมใช้งานอยู่อีก 12 คัน จึงได้ทำการตรวจยึด และจากการตรวจค้นภายในบ้านพัก พบสมุดคู่มือจดทะเบียนรถ 16 เล่ม เอกสาร สัญญากู้ยืมเงิน สัญญาซื้อขายรถ และสัญญาการจำนำรถ จำนวน 1 ลัง จึงตรวจยึดเอกสารทั้งหมดเพื่อทำการตรวจสอบ

พล.ต.ต.สาธิต กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ตำรวจได้รับร้องเรียนจากประชาชน ว่านายปรีชา มีพฤติกรรมที่ส่อว่ากระทำผิดเกี่ยวกับหนี้นอกระบบ และมีการรับจำนำรถโดยไม่ได้รับอนุญาต จึงได้ทำการสืบสวนมานานกว่า 1 เดือน

โดยระหว่างการสืบสวน เจ้าหน้าที่ได้พบข้อมูลซึ่งนายปรีชา ได้โพสต์ผ่านสื่อโซเชียล เชิญชวนโฆษณาให้ประชาชนนำรถมาจำนำกับตนโดย ปราศจากเงื่อนไขใดๆ

ชุดสืบสวน จึงเชื่อว่านายปรีชาฯ อาจมีส่วนเกี่ยวข้องกับการกระทำ ความผิดในข้อหา ให้บุคคลอื่นกู้ยืมเงินหรือกระทำการใดๆอันมีลักษณะเป็นการอำพรางการให้กู้ยืมเงิน โดยมีลักษณะเรียกดอกเบี้ยเกินอัตราที่กฎหมายกำหนดไว้ หรือ ประกอบธุรกิจสินเชื่อส่วนบุคคล โดยไม่ได้รับอนุญาต หรือตั้งโรงรับจำนำโดยไม่ได้รับอนุญาต หรือ และ รับของโจร

จึงได้รวบรวมพยานหลักฐานเพื่อขอหมายค้นจากศาลแขวงสุราษฎร์ธานี และเข้าทำการตรวจค้นและสามารถตรวจยึดรถได้จำนวนมากดังกล่าว โดยในขณะนี้ได้เร่งรัดให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งประสานข้อมูลกับขนส่งจังหวัด เพื่อติดตามหาผู้ครอบครองรถที่ตรวจยึดได้ มาสอบสวนปากคำ และหาที่ไปที่มาของรถทั้งหมด

และหากผู้ใดสงสัยว่าอาจจะเป็นทรัพย์สินของท่านก็ขอให้นำเอกสารประจำรถติดต่อพนักงานสอบสวน สภ.เมืองสุราษฎร์ธานี โดยด่วน!!

เครดิตแหล่งข้อมูล : ชมรมนักข่าว สุราษฎร์ธานี / บุญพิพัฒน์ มากมี