ผวาอาถรรพณ์ ม่านรูดเมืองปากน้ำ ห้อง 38 ตายมาแล้ว 3 ราย

จ.สมุทรปราการ – ผวาอาถรรพณ์ ม่านรูดเมืองปากน้ำ ห้อง 38 ตายมาแล้ว 2 ราย ล่าสุดหนุ่มสุราษฎร์ วัย 53 ปี นัดสาวก๊งเบียร์น็อกดับ เผยเจอกันทั่วหน้า “ผู้ช่วยโรงพักเข้าฉีดฆ่าเชื้อโควิดเห็นเงาดำ-นักข่าวถ่ายรูปศพไม่ติด-พนักงานเคยเห็นผู้หญิงนั่งหวีผม”

เมื่อวันที่ 21 มิ.ย. ร.ต.อ.นิพนธ์ คงพูล รอง สว.(สอบสวน) สภ.สำโรงเหนือ จ.สมุทรปราการ รับแจ้งเหตุผู้เสียชีวิตในห้องพักโรงแรมม่านรูดแห่งหนึ่ง ย่านสำโรงเหนือ อ.เมืองสมุทรปราการ จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมด้วย แพทย์เวร รพ.สมุทรปราการ และเจ้าหน้าที่มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง

ที่เกิดเหตุเป็นห้องเลขที่ 38 บนพื้นข้างเตียงพบศพ นายสายันต์ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 53 ปี ชาว จ.สุราษฎร์ธานี สภาพสวมเสื้อยืดแขนสั้นสีเทา นุ่งกางเกงขายาวสีดำ นอนเสียชีวิตอยู่บนพื้นข้างเตียงนอน ตรวจสอบตามร่างกายไม่พบบาดแผลถูกทำร้าย มีเพียงขวดเบียร์ถูกเปิดดื่มแล้ว 2 ขวด อีก 4 ขวดยังไม่เปิดอยู่ในถุง โดยมี น.ส.เอ (นามสมมุติ) อายุ 42 ปี เพื่อนผู้ตายอยู่ในห้องจึงบันทึกไว้เป็นหลักฐาน

สอบสวน น.ส.เอ เบื้องต้นเล่าว่า เพิ่งรู้จักผู้ตายได้เพียง 2 วันทางเฟซบุ๊ก ทราบเพียงว่าผู้ตายเป็นช่างรับเหมาก่อสร้าง หลังพูดคุยไม่นานผู้ตายบอกว่าอยากรู้จักกันให้มากกว่านี้ และหากได้เจอจะขอแต่งงานด้วย โดยนัดตนให้มาพบที่โรงแรมดังกล่าว โดยผู้ตายมาเปิดห้องแล้วติดต่อมาพร้อมบอกเบอร์ห้องจึงเดินทางมาหา นั่งดื่มเบียร์คุยกันกระทั่งเบียร์ขวดสองหมด ผู้ตายบ่นว่าปวดศีรษะ

ก่อนจะค่อยๆทรุดล้มลงนอนกับพื้นหมดสติไป พยายามเรียกแต่ไม่มีเสียงตอบรับจึงรีบตามพนักงานโรงแรมแจ้งเจ้าหน้าที่ช่วยเหลือแต่ไม่ทันเสียชีวิตแล้วดังกล่าว เจ้าหน้าที่จึงนำศพส่งชันสูตรหาสาเหตุอย่างละเอียดอีกครั้ง ก่อนดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมายต่อไป

ด้าน นายสุภชัย วันเดียยา อายุ 43 ปี ผู้ช่วยเจ้าพนักงาน สภ.สำโรงเหนือ ซึ่งได้รับการประสานให้มาฉีดยาพ่นฆ่าเชื้อในห้องเกิดเหตุ เปิดเผยว่า เคยเข้ามารับร่างผู้เสียชีวิตที่ห้องนี้มาแล้วถึง 2 ครั้ง ซึ่งเป็นห้องเดียวกัน และวันนี้ระหว่างที่เข้าพ่นยาฆ่าเชื้อโควิดก็พบเรื่องแปลกๆ โดยระหว่างพ่นยาก่อนให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าตรวจสอบ ระหว่างนั้นเห็นเงาปริศนาสีดำนั่งอยู่ที่เตียง จึงสอบถามฝ่ายหญิงว่า

ก่อนเกิดเหตุผู้ตายนั่งอยู่ตรงไหน ฝ่ายหญิงบอกว่านั่งอยู่บนเตียงตรงจุดที่ตนเห็นเงาดำ เลยเชื่อว่าน่าจะเป็นวิญญาณของผู้ตาย ขณะเดียวกันมีผู้สื่อข่าวคนหนึ่งเจอเรื่องประหลาดเหมือนกัน โดยได้เข้าไปถ่ายรูปทำข่าวด้วยโทรศัพท์มือถือ แต่ออกมาจากห้องตรวจสอบรูปกลับไม่พบภาพศพที่ถ่าย ต้องกลับเข้าไปถ่ายใหม่ และพนักงานม่านรูดยังบอกว่าก่อนหน้านี้เคยเห็นผู้หญิงนั่งหวีผมอยู่ในห้องดังกล่าวอีกด้วย ตนจึงเชื่อว่าห้องเกิดเหตุมีอาถรรพณ์ที่ไม่สามารถพิสูจน์ได้.

บทความต้นฉบับ