ด่วน ตัดสินประหาร ‘ผอ.กอล์ฟ’ คดีชิงทองลพบุรี สารภาพไร้ประโยชน์

ศาลสั่ง “ประหารชีวิต” ผอ.กอล์ฟ คดีชิงทองลพบุรี คดีหลักคือฆ่าผู้อื่นโดยตระเตรียมการไว้ก่อน และความผิดตาม พ.ร.บ.อาวุธปืน รวมแล้ว 9 ข้อหา

วันที่ 27 สิงหาคม 2563 เจ้าหน้าที่กรมราชทัณฑ์คุมตัว นายประสิทธิชัย เขาแก้ว หรือ “ผอ.กอล์ฟ” อดีต ผอ.โรงเรียนประถมแห่งหนึ่ง ในจังหวัดสิงห์บุรี จากเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร เดินทางมาศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ตามที่ศาลได้นัดอ่านคำพิพากษา คดีฆ่าชิงทองจากร้านทองออโรร่า ภายในห้างสรรพสินค้าโรบินสัน จังหวัดลพบุรี คดีหมายเลขดำ อ.409/2563 ซึ่ง ผอ.กอล์ฟ ยกมือไหว้ทุกคนตลอดเวลาขณะถูกคุมตัวเข้าห้องพิจารณาคดี

ต่อมาศาลชั้นต้น มีคำพิพากษา ประหารชีวิต ผอ.กอล์ฟ ปรับ 1 พันบาท ริบทรัพย์ หลายรายการ ทั้งนี้แม้เจ้าตัวสารภาพ แต่ไม่มีประโยชน์ เพราะสารภาพเนื่องจากจำนนต่อหลักฐาน ศาลมีคำสั่งให้ชดใช้ค่าสินไหมผู้เสียหาย พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อปี รายละเอียดจะรายงานให้ทราบต่อไป

คดีนี้พนักงานอัยการคดีอาญา 6 เป็นโจทก์ฟ้อง ผอ.กอล์ฟ ในความผิด 9 ข้อหา ประกอบด้วย ฐานฆ่าผู้อื่นเพื่อตระเตรียมการ หรือเพื่อความสะดวกในการที่จะกระทำความผิดฯ, พยายามฆ่าผู้อื่นเพื่อตระเตรียมการ หรือเพื่อความสะดวกในการที่จะกระทำความผิดอย่างอื่น, ชิงทรัพย์ในเวลากลางคืน โดยใช้อาวุธปืน และใช้ยานพาหนะ เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย และได้รับอันตรายสาหัส, ยิงปืนซึ่งใช้ดินระเบิด โดยใช่เหตุในเมือง หมู่บ้าน หรือที่ชุมนุมชน, พาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยเปิดเผย โดยไม่มีเหตุสมควร และโดยไม่ได้รับใบอนุญาตให้มีอาวุธปืนติดตัว, มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับใบอนุญาต, มีและใช้อาวุธปืนที่นายทะเบียนไม่สามารถออกใบอนุญาตให้ได้, ใช้อาวุธปืนที่นายทะเบียนไม่สามารถออกใบอนุญาตให้ได้ในการกระทำความผิดฐานฆ่าผู้อื่น ฐานชิงทรัพย์ และมียุทธภัณฑ์ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับใบอนุญาต

คดีนี้ อัยการ โจทก์ ยื่นฟ้องเมื่อวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2563 บรรยายพฤติการณ์ความผิด สรุปว่า เมื่อวันที่ 9 มกราคม 2563 นายประสิทธิชัย จำเลย ซึ่งมีอาวุธปืน ออโตเมติก ขนาด 9 ม.ม. ทะเบียน กท 5027346 เลขหมาย A 300638 ติดท่อเก็บเสียง 1 อัน ซองกระสุนปืนพร้อมเครื่องกระสุน ได้นำอาวุธ พร้อมเครื่องกระสุนเข้าไปภายในห้างสรรพสินค้าโรบินสัน สาขาลพบุรี แล้วยิง นายธีระฉัตร นิ่มมา พนักงานรักษาความปลอดภัย (รปภ.) ของห้างฯ

รวมทั้งประทุษร้ายบุคคลทั่วไปจนเป็นเหตุให้ เด็กชายภาณุวิชญ์ วงศ์อยู่ และนางสาวธิดารัตน์ ทองทิพย์ พนักงานร้านทองโอโรร่า จนถึงแก่ความตาย และจำเลยยังได้ยิงบุคคลอื่นอีก 4 คนได้รับบาดเจ็บสาหัส ก่อนชิงเอาสร้อยคอทองคำ น้ำหนักเส้นละ 1 บาท จำนวน 22 เส้น น้ำหนักเส้นละ 2 สลึง อีก 11 เส้น รวม 33 เส้น เป็นเงินทั้งสิ้น 664,470 บาท ของบริษัท ออโรร่าดีไซน์ จำกัด ก่อนขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีไป

ต่อมา ตำรวจได้ติดตามจับกุมตัว นายประสิทธิชัย ได้พร้อมของกลางหลายรายการ และนายประสิทธิชัย ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหาท้ายคำฟ้อง อัยการโจทก์ ขอคัดค้านการประกันตัวนายประสิทธิชัย เนื่องจากคดีมีอัตราโทษสูงเกรงว่าจะหลบหนี และขอให้ศาลพิพากษาลงโทษจำเลยตามความผิด ทั้งให้ นายประสิทธิชัย จำเลย คืนสร้อยคอทองคำ น้ำหนัก 2 สลึง จำนวน 1 เส้น มูลค่า 12,300 บาท และจี้ทองคำรูปหัวจรวด น้ำหนัก 1 กรัม ราคา 1,565 บาท หรือใช้ราคาทรัพย์รวมเป็นเงิน 13,955 บาท แก่ผู้เสียหาย บริษัท ออโอร่าดีไซน์ จำกัด ด้วย

อ่านต้นฉบับ >