ระยอง | เพื่อนสนิทช้ำ! เฒ่าวัย 85 ปี ถามวิธีรมควัน ก่อนพบศพขึ้นอืดคารถกว่า 5 วัน

สลด!ผู้เฒ่าวัย 85 ปี รมควันฆ่าตัวตายในรถยนต์ บุตรสาวเผยโทรหาไม่ติดเลยกลับจาก กทม.มาดูพบเป็นศพ ส่วนเพื่อนสนิทเผยคนตายมาถามวิธีฆ่าตัวตาย เลยบอกว่ารมควันง่ายสุด เสียใจไม่คิดว่าจะลงมือทำจริง

วันที่ 25 ส.ค. พ.ต.ต.ชัยกฤต เตารัตน์ สารวัตร (สอบสวน) สภ.เมืองระยอง ได้รับแจ้งเหตุพบผู้เสียชีวิตในรถยนต์ จอดอยู่ภายในบ้านหลังหนึ่ง พื้นที่ ต.ท่าประดู่ อ.เมือง จ.ระยอง จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมแพทย์เวร ร.พ.ระยอง และเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยสว่างพรกุศล

ที่เกิดเหตุเป็นบ้าน 2 ชั้น พบรถเก๋งเปอร์โย สีขาว จอดอยู่ จากการตรวจสอบภายในรถบนเบาะที่นั่งคนขับพบศพ นายตี๋ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 85 ปี คาดว่าเสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 5 วัน บนที่วางเท้าเบาะนั่งข้างคนขับพบอุปกรณ์รมควันวางอยู่ นอกจากนี้ที่ด้านหน้ารถพบเสษกระดาษวางอยู่มีข้อความว่า “ใครมาพบให้โทรหาบุตรสาว” พร้อมเขียนเบอร์โทรไว้

จากการสอบสวน น.ส.ศิวพร อายุ 52 ปี ลูกสาวของผู้เสียชีวิต ให้การว่า ตนติดต่อกับพ่อทางโทรศัพท์ครั้งสุดท้ายเมื่อวันที่ 19 ส.ค.ที่ผ่านมา โดยไม่มีลางบอกเหตุใดๆ มีแต่เรื่องที่พ่อได้เซ็นโอนมรดกทรัพย์สินทั้งหมดให้กับตน ซึ่งก็ไม่คาดคิดว่าพ่อจะมาคิดสั้น ตนพยายามติดต่อพ่อหลายครั้งแต่ไม่สามารถติดต่อได้ จึงรีบเดินทางมาจาก กทม. เมื่อเปิดประตูเข้าไปก็พบว่าพ่อเสียชีวิตแล้ว ส่วนสาเหตุน่าจะเกิดจากความเหงา เนื่องจากพ่อไม่มีปัญหาเรื่องการเงิน รวมถึงเรื่องสุขภาพ เสียใจมากที่ไม่มีเวลามาดูแลพ่อเพราะต้องไปอยู่ที่ กทม.กับครอบครัว

ด้าน นายเอ (นามสมมติ) เพื่อนของผู้เสียชีวิต กล่าวว่า ตนกับผู้เสียชีวิตเป็นเพื่อนสนิท เล่นหมากรุกด้วยกันทุกวัน โดยก่อนหน้าที่ผู้เสียชีวิตจะหายตัวไป ได้มาเล่นหมากรุกกัน แต่จู่ๆ ก็ได้สอบถามแบบทีเล่นทีจริงว่า ถ้าคนจะฆ่าตัวตายใช้วิธีไหนทรมานน้อยที่สุด ตนจึงบอกไปโดยไม่คิดอะไรว่า ต้องใช้วิธีรมควันในรถ แล้วก็กินยานอนหลับ ก็จะหลับไปเลยโดยไม่รู้สึกตัว ซึ่งตนบอกไปก็ไม่คาดคิดว่าจะเป็นการบอกวิธีตายให้กับเพื่อน รู้สึกเสียใจ และไม่ทราบสาเหตุการฆ่าตัวตาย เพราะผู้เสียชีวิตไม่มีปัญหาชีวิต จะมีก็เพียงความเหงาเพราะอาศัยอยู่คนเดียว

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจ ตรวจสอบหลักฐานในที่เกิดเหตุ ไม่พบร่องรอยการฆาตรกรรม จึงคาดว่าเป็นการฆ่าตัวตาย แต่ก็ต้องรอผลการตรวจพิสูจน์จากแพทย์ก่อน จึงสรุปสาเหตุการเสียชีวิตที่แท้จริง ส่วนทางลูกสาวผู้เสียชีวิตไม่ติดใจสาเหตุการเสียชีวิต เตรียมติดต่อขอรับศพไปบำเพ็ญกุศลตามประเพณีต่อไป

อ่านต้นฉบับ >