“พ่อท่านหีต ปภังกโร วัดคีรีรัตนาราม (วัดเผียน) อ.ร่อนพิบูลย์ จ.นครศรีธรรมราช พระผู้มีความศักดิ์สิทธิ์ ผู้เลิศด้วยบารมีญาณแห่งขุนเขาแดง”
หลวงพ่อหีต พระเถระอาจารย์ผู้ทรงกิตติคุณลือชารูปนี้มีรูปร่าง “ผอมสูง” ผิวดำแดงกร้านแกร่งแฝงไว้ด้วยความทรหดอดทน มือเท้าใหญ่โตที่แสดงถึงการออกธุดงค์รอนแรมตามป่าเขาลำเนาไพรมาหนักโดย สังเกตได้ที่ “ตาตุ่ม” ข้อเท้าทั้งสองของท่านด้านหนาอันเป็นสิ่งที่บ่งบอกให้ทราบว่าท่าน “นั่งสมาธิ” มานานมากแล้ว
สายตาของท่านแข็งกล้ามีขอบสีฟ้ารอบตาดำเป็นประกายแวววาว ตบะเดชะเข้มข้นใครสบตากับท่านเมื่อคราวออกจากญาณสมาบัติเป็นต้องผงะซึ่งแสดง ถึง “ภาวนาสมาธิ” จากอำนาจบารมีญาณของท่านสูงส่งมีอำนาจในตัวเอง การเจรจาแฝงไว้ด้วยเมตตาเป็นที่ตั้ง ศีลาจารวัตรสังเกตดูบริสุทธิ์ผุดผ่อง
เพราะไม่มีสมบัติมากมายมีเพียง “เสื่อเก่า ๆ และหมอนไม้แข็ง” เป็นที่พำนักหลับนอนเท่านั้นซึ่งท่านบอกว่า “ความสบายกายทำให้เกิดทุกข์ เกิดกิเลส เกิดตัณหา มีอุปาทาน ไม่สามารถหลุดพ้นจากสภาวจิต เข้าสู่สภาวธรรมได้”
บารมีญาณของ “พ่อท่านหีต” นับได้ว่าเป็นผู้ล่วงรู้ “กาลเวลาอนาคต” อีกท่านหนึ่งใน “ภาคใต้” เพราะ “พระอธิการหีต ปภงฺกโร ”เคยชี้แนะ “ผู้ทุกข์ยาก” ที่ดั้นด้นไปขอเลขแห่งความร่ำรวยว่า “ให้ไปเอาเลขจากเถ้าแก่หว่าซานแห่งทุ่งสง ตามนั้นแหละจะถูกต้อง” ปรากฏว่าเลขงวดนั้นออกตามคำประกา ศิตของ “พ่อท่านหีต” ทุกประการรวยกันทั้งผู้ให้และผู้ขอตาม ๆ กัน
ทั้งที่เกิดมา “เถ้าแก่หว่าซาน” ก็ไม่เคยรู้จัก “พ่อท่านหีต” มาก่อนเลยโดยเรื่องนี้มีเรื่องเล่ากันว่า “ชาวบ้านตำบลสามร้อยกล้า” ไปนิมนต์พ่อท่านไปงานทำบุญบ้านแต่พ่อท่านไม่นิยม “นั่งรถ” รถทุกชนิดจึงบอกให้กลับไปก่อนแล้วท่านจะตามไปเอง ชาวบ้านตำบลสามร้อยกล้าจึงกลับไปพอถึงบ้านที่มีงานกลับเห็น “พ่อท่านหีต” นั่งอยู่ในพิธีแล้วเป็นที่อัศจรรย์ยิ่ง
ทั้งนี้ก็เพราะท่านย่นหนทางได้ทุกกาลเวลานั่นเองและ “นายสว่าง รัตนมณี” ก็เป็นอีกผู้หนึ่งที่เห็น ปาฏิหาริย์ของ “หลวงพ่อหีต” ด้วยสายตาตัวเองที่สามารถเดิน “บนผิวน้ำข้ามลำธาร” ในป่าซึ่งเชี่ยวกรากและสามารถย่นย่อตัวท่านเอง “สรงน้ำในกา” ขนาดเล็กได้อย่างเหลือเชื่อยิ่ง
“พ่อท่านหีต” เกิดในสกุล “บุญมา” เมื่อวันพฤหัสบดีที่ ๑๘ มกราคม ๒๔๕๙ ที่ ต.ถ้ำทอง อ.ทับปุด จ.พังงา โยมบิดา-มารดา ชื่อ นายนอง และนางเหลื่อม บุญมา ด้วยความที่เป็นบุตรชายคนเดียว จึงเป็นกำลังหลักของครอบครัว ที่ต้องช่วยพ่อ-แม่ทำนา จนอายุได้ ๑๙ ปี จึงไปอยู่ที่วัดโคกลอย บิดาพาไปฝากเป็นศิษย์ของ ‘พ่อท่านรักษ์ วัดโคกลอย’ แล้วให้บวชเป็นสามเณร
โดยพระครูภาณีศรีระวัฒน์ แล้วจำพรรษาศึกษาธรรมและอักขระเลขยันต์ทางวิทยาคม ตลอดจนวิปัสสนาธุระกับ “พ่อท่านรักษ์” ได้ ๒ ปีจนกระทั่งมีอายุครบ ๒๑ ปีบริบูรณ์ ได้เข้าพิธีอุปสมบท เมื่อวันที่ ๒๖ มิถุนายน ๒๔๗๙ ณ อุโบสถวัดชนาธิการาม (สำนักปรุ) ต.นพปริง อ.เมือง จ.พังงา โดยมี พระปฏิภาณพังงารัฏฐ์ เจ้าคณะจังหวัดพังงา วัดประภาสประจิมเขต เป็นพระอุปัชฌาย์, พระวินัยธรรักษ์ (รักษ์ สิริวัฑฒโน) เป็นพระกรรมวาจาจารย์ ได้ฉายาว่า ปภังกโร
หลังจากอุปสมบทแล้ว กลับไปจำพรรษาที่วัดโคกลอยอีก ๑ พรรษา จึงออกธุดงค์ไปจนถึงภูเก็ต ในปี พ.ศ.๒๔๘๐ และเข้าจำพรรษาที่วัดโฆษิตวิหาร เพื่อศึกษาธรรมะกับพระครูสีลรัตนสมณคุณ วัดมงคลนิมิตร ครั้นถึงปี พ.ศ.๒๔๘๓
จึงย้ายไปจำพรรษาที่วัดพิชิตสังฆาราม ต.สินไนย อ.เมือง จ.ภูเก็ต จนสามารถสอบนักธรรมเอกได้ในปี พ.ศ.๒๔๘๖ เมื่อศึกษาธรรมะจนมีความรู้แจ้งแตกฉานดีแล้ว จึงออกธุดงค์เรื่อยไปเพื่อฝึกฝนการปฏิบัติตามขุนเขาลำเนาไพรระหว่างทางพบถ้ำ เขาแดง สงบวังเวงเหมาะแก่การปฏิบัติธรรมจึงเข้าพักปฏิบัติภาวนาอยู่นาน ๑๒ ปี
กระทั่งถึงปี พ.ศ.๒๕๐๐ ชาวบ้านมาพบท่าน เห็นมีศีลาจารวัตรน่าศรัทธาเลื่อมใส ปฏิบัติธรรมอยู่ในถ้ำอย่างวิเวก จึงร่วมกันนิมนต์ให้ท่านลงจากถ้ำมาอยู่ วัดเผียน ตรงบริเวณเชิงเขาแห่งนั้นแล้วช่วยกันจัดแจงปรับปรุงวัดร้าง ให้มีสภาพคืนมาสู่วัดอีกครั้งตั้งแต่ พ.ศ.๒๕๐๐ เป็นต้นมา
เคยมีคำร่ำลือกันจากศิษย์ผู้ใกล้ชิดท่าน ว่า ครั้งหนึ่ง พ่อท่านหีตได้รับกิจนิมนต์ ตอนขากลับ ฝนกำลังจะตกลงมา ลูกศิษย์จึงได้ชวนพ่อท่านขึ้นรถจะไปส่ง แต่พ่อท่านหีตจะขอเดินกลับกุฏิเอง หลังจากพ่อท่านหีตเดินลับทางโค้งไปแล้ว
ลูกศิษย์ได้ขึ้นรถสตาร์ตเครื่องแล้วรีบขับตามทันที แต่พอขับรถไปถึงทางโค้ง ชั่วเวลาเพียงลัดนิ้วมือเดียว ปรากฏว่าไม่เห็นร่างพ่อท่านแม้แต่เงาจึงขับรถตามไปยังกุฏิ ปรากฏว่าเห็นพ่อท่านนั่งอยู่ที่กุฏิแล้ว ศิษย์คนนั้นรีบทักพ่อท่าน ว่า “พ่อท่านเดินเร็วจังเลย”
พ่อท่านตอบว่า “ต้องเดินเร็วๆ เพราะเดี๋ยวฝนจะตกแล้ว”เรื่องราวทำนองนี้ ผู้ที่เคยเป็นศิษย์ใกล้ชิดของพ่อท่าน ยังมีเรื่องราวอัศจรรย์ของท่าน ที่เล่าขานไม่รู้จบ จนกลายเป็นความศรัทธาของคณะศิษย์ที่มีต่อพ่อท่านหีต ได้ละสังขารจากไปด้วยวัย ๗๔ ปี ในปี พ.ศ.๒๕๓๓ เป็นปูชนียบุคคลที่ชาวนครศรีธรรมราชกราบไหว้บูชาสืบมาจนทุกวันนี้
เรียบเรียง
หลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ มีชาติกำเนิดในสกุล “หนูศรี” เดิม ชื่อ ดู่ เกิดเมื่อวันที่ ๒๙ เมษายน พ.ศ. ๒๔๔๗ ตรงกับวันศุกร์ขึ้น ๑๕ ค่ำ… อ่านเพิ่มเติม..
วันที่ 18 กุมภาพันธ์ของทุกปี เขาถือว่าเป็น "วันดื่มไวน์แห่งชาติ" (National Drink Wine Day) วันสำคัญเพื่อเฉลิมฉลอง ผ่อนคลายให้กับเครื่องดื่มที่สุดแสนละมุนนี้ เตรียมตัวเฉลิมฉลอง มนุษย์ได้เพลิดเพลินกับไวน์มาเป็นเวลาหลายพันปีแล้ว ความคล้ายคลึงตามธรรมชาติของเครื่องดื่มนี้ไม่เพียงเพราะมีรสชาติที่ยอดเยี่ยมเท่านั้น แต่ยังเป็นเพราะคุณค่าทางโภชนาการและผลต่อจิตประสาท… อ่านเพิ่มเติม..
ขอเชิญพุทธศาสนิกชน เข้าสักการะ พระบรมสารีริกธาตุ องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า และพระอรหันตธาตุของ พระสารีบุตร และโมคคัลนะ อัญเชิญประดิษฐานเป็นการชั่วคราว ณ วัดมหาธาตุวชิรมงคล จังหวัดกระบี่ ระหว่างวันที่ 15 – 18… อ่านเพิ่มเติม..
ท่านพระฉันนะ เป็นผู้ที่เกิดวันเดียวกับพระพุทธเจ้า เป็นสหชาติทั้ง ๗ คือเป็น ๑ ใน ๗ ที่เกิดพร้อมกับพระพุทธเจ้า เติบโตมาด้วยกัน และก็เป็นสหายเพื่อนเล่น และก็ทำหน้าที่คอยรับใช้พระโพธิสัตว์มาตลอด ในวันที่พระโพธิสัตว์ออกมหาภิเนษกรมณ์ คือออกบวช นายฉันนะก็ติดตามไปด้วย… อ่านเพิ่มเติม..
ตำรวจไซเบอร์ – บช.สอท. ออกมาเตือนภัย คนใช้ iPhone ต้องอ่าน ‼️ ⚙️วิธีตั้งค่าเพื่อป้องกันแอปฯ ดูดเงิน 📱ทำได้ง่าย ๆ เพียงแค่ 2 ขั้นตอน… อ่านเพิ่มเติม..
เขตห้ามล่าสัตว์ป่าอ่างเก็บน้ำสนามบิน แจ้งข่าวดี! พบ นกกระเรียนพันธุ์ไทย จับคู่ทำรังวางไข่ 5 คู่ หลังจากสูญพันธุ์ไป 50 ปี เขตห้ามล่าสัตว์ป่าอ่างเก็บน้ำสนามบิน ระบุ "ฤกษ์งามยามดี เดือนมกราคม ปี… อ่านเพิ่มเติม..
This website uses cookies.