ไม้ง่ามสยบลุงคลั้งยา คลุ้มคลั่ง มีอาวุธมีด ไม้ อาละวาด ด่ากราด

เมือง จ.นครศรีธรรมราช – เมื่อเวลา 12.30 น. วันที่ 3 ก.พ. 63 พ.ต.ท.ก่อเกียรติ ทองนุ่น รอง ผกก.ป.สภ.เมืองนครศรีธรรมราชได้รับแจ้งจากศูนย์วิทยุ 191 สภ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช

ได้รับแจ้งเหตุคนคลุ้มคลั่งถืออาวุธมีดและไม้ อยู่กลางถนน พื้นที่หมู่ 6 ซอยหัวท่า ต.มะม่วงสองต้น อ.เมืองนครศรีธรรมราช จึงนำกำลังตำรวจสายตรวจรถจักรยานยนต์และรถยนต์สายตรวจ 191 เข้าตรวจสอบระงับ เมื่อถึงที่เกิดเหตุพบชายอายุประมาณ 50 – 55 ปี สวมเสื้อยืดคอปกสีเหลือง กางเกงขายาวสีน้ำตาล สวมหมวกแก๊ปสีส้ม

อยู่ในอาการคลุ้มคลั่งที่มือถือมีดทำครัวยาวประมาณ 8 นิ้ว และเศษกิ่งไม้เหวี่ยงไปมาท่ามกลางแสงแดด ชาวบ้านละแวกที่เกิดเหตุวิ่งหนีกระเจิงเข้าบ้านปิดประตู เพราะเกรงว่าจะได้รับอันตราย เจ้าหน้าที่ตำรวจ และเพื่อนผู้ก่อเหตุพยายามพูดจาเกลี้ยกล่อมให้วางอาวุธมีและไม้ ยอมมอบตัว แต่ไม่เป็นผล

ผู้ก่อเหตุยังคงอยู่ในอาการคลุ้มคลั่งพูดจาด่าทอตำรวจและนักข่าวตลอดเวลา ก่อนจะให้ตำรวจและนักข่าวถอยห่างออกไปไม่เช่นนั้นจะใช้อาวุธมีดทำร้าย ผ่านไป 10 นาที ผู้ก่อเหตุ ยังไม่ยอมสงบสติและให้จับกุม

เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงใช้มาตรการเด็ดขาดโดยใช้ด้ามเหล็กง่ามอุปกรณ์ควบคุมคนคลุ้มคลั่ง เข้าจับกุมผู้ก่อเหตุ และสามารถจับผู้ก่อเหตุได้อย่างทุลักทุเล ตรวจสอบในตัวพบเอกสารบัตรประจำตัวประชาชนระบุชื่อนายประเสริฐ เมราช อายุ 59 ปี อยู่บ้านเลขที่ 5/1 ถนนท่าชี ต.ในเมือง อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช

นอกจากนี้ยังพบยาบ้าจำนวน 1 เม็ดซุกซ่อนอยู่ในกระเป้าเงิน จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน อย่างไรก็ตามตำรวจและนักข่าวพยายามสอบถามสาเหตุคลุ้มคลั่ง แต่ผู้ก่อเหตุ ไม่ให้ความร่วมมือ แต่กลับด่าทอด้วยคำหยาบคาย จึงคุมตัวไปสอบสวนและสงบสติอารมณ์ที่โรงพัก ก่อนจะดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ชาวบ้านละแวกเกิดเหตุ ให้ข้อมูลว่า นายประเสริฐ มีบ้านพักอยู่ไม่ไกลจากที่เกิดเหตุ ไม่มีอาชีพและงานทำเป็นหลักแหล่ง แต่ชอบกินเหล้าเป็นประจำ เมื่อเมาเหล้าจะชอบนอนกลางถนน สร้างความเดือดร้อนให้กับชาวบ้านและรถที่สัญจรผ่านถนนเส้นดังกล่าว ต้องขับรถหลบกันวุ่นวาย แต่ผู้ก่อเหตุจะไม่มีอาวุธ

นอกจากนี้ที่ผ่านมาเมื่อผู้ก่อเหตุ เมานอนกลางถนน ชาวบ้านรายหนึ่งที่รู้จักผู้ก่อเหตุจะใช้รังมดโยนใส่ผู้ก่อเหตุที่นอนอยู่กลางถนนจนต้องลุกขึ้นออกจากกลางถนน แต่ครั้งนี้ผู้ก่อเหตุ เกิดอาการคลุ้มคลั่งอีก และมีอาวุธมีด ไม้ ชาวบ้านพยายามห้ามปราบ แต่ไม่เป็นผลและด่าทอชาวบ้าน สุดท้ายจึงต้องแจ้งตำรวจ คาดว่าน่าจะเกิดอาการเมาเหล้าและเสพยา จึงเกิดอาการคลุ่มคลั่ง

อ่านต้นฉบับ