รากกัญชา (cannabis root) มีสรรพคุณที่สามารถนำมาใช้ในการดูแลสุขภาพได้ งานวิจัยพบว่า รากกัญชาไม่มีส่วนผสมของสาร THC ที่ทำให้ร่างกายเกิดผลข้างเคียงต่าง ๆ เช่น อาการเมา เวียนศีรษะ คลื่นไส้ อาเจียน เป็นต้น ประโยชน์ในรากกัญชา หากนำมาต้มเป็นน้ำ จะได้ยาที่มีฤทธิ์ในการลดไข้ หากนำมาสกัดกับน้ำมันนวดเพื่อใช้กับผิว จะได้ยาที่มีฤทธิ์ในการลดอาการอักเสบ ลดรอยไหม้จากผิวหนังได้

Cannabis Roots System
ระบบรากกัญชาเป็นระบบรากแก้ว (Tap root system) มีรากแขนงจำนวนมาก
สรรพคุณของ รากกัญชา
Triterpenoids เช่น Friedelin Epifriedelanol
ต้านการอักเสบ ลดไข้ ต้านมะเร็ง ป้องกันแผล
ในกระเพาะอาหาร ต้านอนุมูลอิสระ ต้านเชื้อรา
และแบคทีเรีย
Monoterpenes เช่น Carvone Dihydrocarvone
ต้านแบคทีเรีย ต้านเชื้อรา ต้านปรสิต ต้านอนุมูลอิสระ
ต้านการอักเสบ ต้านมะเร็ง ต้านเบาหวาน ต้านไวรัสไข้หวัดใหญ่
ป้องกันระบบประสาท ป้องกันโรคอ้วน
Alkaloids เช่u Cannabisativine Anhydrocannabisativine
ลดไข้ ต้านปรสิต ต้านอาเจียน ต้านเนื้องอก
ใช้เป็นยาขับปัสสาวะ และยาแก้ปวด
Cannabis Root
Sterols เช่น Sitosterol Campesterol Stigmasterol
ลดระดับคอเลสเตอรอลในผู้ป่วยโรคหัวใจ ลดอาการต่อมลูกหมากโต (BPH)
ลดอาการข้ออักเสบรูมาตอยด์ (RA) ชะลอการเติบโตของเซลล์มะเร็งลำไส้ใหญ่
ช่วยทำลายเซลล์มะเร็งเต้านม
Choline
มีความสำคัญต่อระบบประสาทและพัฒนาการของสมอง
ให้เป็นปกติช่วยลดอาการบวมและการอักเสบของโรคหอบหืด
Atropine
ยาต้านฤทธิ์การทำงานของระบบประสาท parasympathetic
ลดการหลั่งน้ำลาย น้ำเมือก สารคัดหลั่งในหลอดลม ต้านการหดเกร็ง
ของหลอดลม ลุดการเคลื่อนไหวของลำไส้

ที่มา – กระทรวงสาธารณสุข
กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก
Ⓜ️ เรื่องที่น่าสนใจ |

อัญชัน นิยมนำมาปลูกไว้ตามรั้วบ้านเพื่อความสวยงาม อัญชัน เป็นพืชที่มีต้นกำเนิดในแถบอเมริกาใต้ ปลูกทั่วไปในเขตร้อน ลักษณะของดอกอัญชัน จะมีสีขาว สีฟ้า สีม่วง ส่วนตรงกลางดอกจะมีสีเหลือง และรูปทรงคล้ายหอยเชลล์ มีสรรพคุณที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว เพราะมีสารที่ชื่อว่า “แอนโทไซยานิน” (Anthocyanin) ซึ่งมีหน้าที่ไปช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของโลหิต ทำให้เลือดไปเลี้ยงส่วนต่าง ๆ ได้ดีมากขึ้น เช่น ไปเลี้ยงบริเวณรากผม ซึ่งช่วยทำให้ผมดกดำ เงางาม หรือไปเลี้ยงบริเวณดวงตาจึงช่วยบำรุงสายตาไปด้วยในตัว หรือไปเลี้ยงบริเวณปลายนิ้วมือ ซึ่งก็จะช่วยแก้อาการเหน็บชาได้ด้วย และที่สำคัญสารนี้ยังมีความโดดเด่นที่ใครหลาย ๆ คนยังไม่ทราบ นั่นก็คือช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดเส้นเลือดอุดตันได้ และการ “กินดอกอัญชันทุกวัน...วันละหนึ่งดอก” จะช่วยป้องกันโรคเส้นเลือดสมองตีบได้อีกด้วย เนื่องจากดอกอัญชัน นั้นมีฤทธิ์ในการละลายลิ่มเลือด สำหรับผู้มีเลือดจางห้ามรับประทานดอกอัญชันเด็ดขาด หรืออาหารเครื่องดื่มที่ย้อมสีด้วยอัญชันก็ไม่ควรรับประทานบ่อย ๆ น้ำอัญชัน มีส่วนช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระในร่างกาย เครื่องดื่มน้ำอัญชันช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระในร่างกาย เสริมสร้างภูมิต้านทานให้ร่างกายและเพิ่มพลังงานให้ร่างกาย วิธีทานก็ง่ายๆ คั้นสด ผสมน้ำดื่ม จะใส่น้ำผึ้ง หรือมะนาวเพื่อเพิ่มรสชาติลงไปบ้างก็ได้ แต่อย่าใส่น้ำตาลมากจนเกินไปนะคะ เพราะไม่อย่างนั้น แทนที่ดอกอัญชันจะช่วยลดน้ำตาลในเลือด อาจกลายเป็นเพิ่มน้ำตาลในเลือดแทน…

ปัญหาผมหงอก ที่บั่นทอนความมั่นใจ ไม่อยากดูแก่เพราะผมขาว บอกเลยสมุนไพรเหล่านี้เป็นทางเลือกที่น่าสนใจสุด 5 สมุนไพรรักษาผมร่วง แก้ผมหงอก กำจัดผมขาวได้อยู่หมัด รักษาผมร่วงผมบางด้วยผลิตผลจากธรรมชาติให้เพื่อนๆ ได้รู้จักกันค่ะ อย่างไรก็ตาม เพื่อนๆ ควรทดสอบการแพ้ก่อนการใช้งานจริงด้วยนะคะ เพราะผลิตภัณฑ์ทุกอย่างไม่อาจใช้ได้กับทุกคน แม้กระทั่งผลิตผลจากธรรมชาติเองก็เช่นกัน ส่วนสมุนไพรรักษาผมร่วงจะมีอะไรบ้างนั้น ไปดูกันค่ะ 1. น้ำมันมะพร้าว น้ำมันมะพร้าว (Virgin Coconut Oil) น้ำมันที่อุดมไปด้วยกรดลอริก (Lauric Acid) และวิตามินอี ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระในปริมาณที่สูง มีคุณสมบัติในการบำรุงเส้นผม หนังศีรษะ สามารถซึมซาบลงสู่ผิวได้อย่างรวดเร็ว ทำให้รากผมแข็งแรง ไม่หลุดร่วง 2. น้ำมันงา น้ำมันงา (Sesame Oil) มีสรรพคุณเด่นในการต้านเชื้อรา เชื้อแบคทีเรีย เชื้อไวรัส มีส่วนประกอบของกรดไขมันจำเป็นไลโนเลอิก (Linoleic Acid) สารต้านอนุมูลอิสระ ลดความเสี่ยงการเกิดมะเร็งผิวหนัง ช่วยปรับสภาพเส้นผมให้เนียนนุ่ม ดกดำเป็นประกาย 3. น้ำมันมะรุม…

ฟักทอง ผักที่อุดมไปด้วยสารอาหารและมีสรรพคุณทางยามากมาย ราคาถูก ไขมันต่ำ และให้พลังงานน้อย ฟักทอง มีคุณสมบัติเป็นยา แต่ละส่วนของฟักทองนั้นมีประโยชน์อย่างไม่น่ามองข้าม เนื้อ อุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุมากมายที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย อาทิ มีวิตามินเอสูง มีฟอสฟอรัส แคลเซียม วิตามินซี แป้ง เบต้าแคโรทีน ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ สามารถช่วยลดการเกิดมะเร็ง โรคหลอดเลือดหัวใจ และโรคหัวใจได้ อีกทั้งช่วยต้านความชรา ป้องกันโรคผิวหนัง บรรเทาอาการปวดเมื่อยของข้อเข่า และบั้นเอวได้ เปลือก สามารถกระตุ้นการหลั่งอินซูลินในร่างกาย ซึ่งช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด ป้องกันการเกิดเบาหวาน ความดันโลหิต บำรุงตับ บำรุงไต บำรุงดวงตา และสร้างเซลล์ใหม่ทดแทนเซลล์ที่ตายไปให้สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ใบอ่อน มีวิตามินเอสูงเท่ากับเนื้อฟักทอง แต่มีแคลเซียมและฟอสฟอรัสสูงกว่าในเนื้อ ดอก มีวิตามินเอ แคลเซียม ฟอสฟอรัส และมีวิตามินซีเล็กน้อย เมล็ด ประกอบด้วยแป้ง ฟอสฟอรัส โปรตีน และวิตามิน รวมทั้งสารที่ชื่อว่า “คิวเคอร์บิติน” ซึ่งมีฤทธิ์ในการฆ่าพยาธิตัวตืดได้ดี…