กองทุนความมั่งคั่งแห่งชาติของรัสเซียเปิดเผยว่า วัคซีนสปุตนิก-วี ของรัสเซียมีประสิทธิภาพในการปกป้องผู้คนจากไวรัสโควิด-19 ถึง 92% ตามผลการทดลองขั้นต้นเป็นผลการทดลองขั้นสุดท้ายในมนุษย์ ผลการทดลองที่สองต่อจากผลการทดลองของไฟเซอร์และไบโอเอ็นเทคที่เผยแพร่ไปเมื่อวันจันทร์ว่า ได้ผลมากกว่า 90% เช่นกัน ขณะที่ผู้เชี่ยวชาญระบุว่า ข้อมูลของรัสเซียชี้ให้เห็นว่าการระบาดของไวรัสโควิด-19 สามารถหยุดได้ด้วยวัคซีน แต่ก็เตือนว่า ผลการทดลองยังอิงจากอาสาสมัครเพียงจำนวนน้อยเท่านั้น

ด้านผู้อำนวยการสถาบันกามาเลยา ผู้พัฒนาวัคซีนกล่าวว่า ผลการทดลองขั้นต้นแสดงให้เห็นว่า สปุตนิก-วี ได้ผล และจะมีการระดมฉีดวัคซีนในรัสเซียในอีกไม่กี่สัปดาห์
ข้างหน้า โดยคาดว่า จะฉีดให้ประชาชนอย่างน้อย 1.5 ล้านคน ในรัสเซียภายในสิ้นปีนี้ จากที่มีชาวรัสเซียได้รับการฉีดวัคซีนไปแล้วประมาณ 40,000 ถึง 45,000 คน


วัคซีนโควิด-19 รัสเซียเจ๋ง (กว่า)
ต้นฉบับ
Ⓜ️ เรื่องที่น่าสนใจ |

29 สิงหาคม 2563 นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา หัวหน้าศูนย์วิทยาศาสตร์สุขภาพโรคอุบัติใหม่ คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ ได้โพสต์ข้อความลงบนเพจเฟซบุ๊ก "ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา Thiravat Hemachudha" ระบุว่า "บริษัทใบยาประสบความสำเร็จวัคซีนโควิด-19 สร้างภูมิคุ้มกันในลิงทั้งระบบแอนติบอดีและการกระตุ้นระบบเซลล์ บริษัทสตาร์ทอัพสัญชาติไทย โดยนักวิจัยไทย บริษัทใบยา ไฟโตฟาร์ม สามารถพัฒนาวัคซีนโควิด-19 ซึ่งเป็นโปรตีนที่ทำจากใบยาพืช โดยการใส่รหัสพันธุกรรมที่กำหนดการสร้างโปรตีนของไวรัสและภายใน”หนึ่ง”สัปดาห์ พืชจะทำการสร้างโปรตีนที่ต้องการ ทั้งนี้ลักษณะโครงสร้างและลำดับของโปรตีนไม่ได้ผิดเพี้ยนไปเมื่อเทียบกับการสร้างวัคซีนด้วยกลวิธีอื่นๆ วัคซีนใบยาผ่านการทดสอบในหนูและในที่สุดในลิง ด้วยการฉีดสองเข็มห่างกันสามสัปดาห์ และลิงมีความปลอดภัยไม่ปรากฏมีผลข้างเคียง ผลเลือดในลิง ค่าเอนไซม์ตับปกติ เม็ดเลือดแดง เม็ดเลือดขาวปกติ สิ่งที่น่ายินดีก็คือ ลิงมีระดับภูมิคุ้มกันสูงมาก ที่เรียกว่าNeutralizing antibody ซึ่งสามารถยับยั้งไวรัสได้ ทั้งนี้ทำการตรวจสอบด้วยการวัดระดับจากการตรวจทางElisa surrogate isotype independent virus neutralizing antibody และจากการทดสอบในการยับยั้งไวรัสจริงในเซลล์ นอกจากนั้น เชลล์ของลิง จากการกระตุ้นด้วยเปปไทด์พบว่ามี ค่าการสร้าง IFN…

ศิริราชพยาบาล ทำการศึกษาระดับภูมิคุ้มกัน ในซีรั่มของคนที่ได้รับวัคซีนโควิด-19 สลับเข็ม ผลความคืบหน้างานวิจัยวัคซีนโควิด พบการฉีดวัคซีนแบบเข็มสลับ ซิโนแวคก่อน แล้วตามด้วยแอสตร้าเซเนก้าใน 3-4 สัปดาห์ ภูมิขึ้นสูงเฉลี่ย 1,355 หน่วย ใกล้เคียงกับการฉีดไฟเซอร์ 2 เข็มที่มีภูมิขึ้นเฉลี่ย 1,900 หน่วย “ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยคลินิก” ไม่แนะนำให้แอสตร้าเซเนก้าเป็นเข็มหนึ่งและตามด้วยซิโนแวคเป็นเข็มสอง เพราะสร้างภูมิคุ้มกันได้ต่ำกว่า ส่วนการฉีดวัคซีนเข็ม 3 ในผู้ที่ฉีดซิโนแวคแล้วสองเข็ม พบว่าแอสตร้าเซนเนก้าเป็นวัคซีนกระตุ้นที่สูงกว่าซิโนฟาร์ม 19 สิงหาคม 2564 ศ.พญ.กุลกัญญา โชคไพบูลย์กิจ ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยคลินิก (SICRES) กล่าวถึงความคืบหน้างานวิจัยวัคซีนโควิด ว่า งานวิจัยที่เกี่ยวข้องกับวัคซีนโควิดในช่วงแรกเป็นการศึกษาในอาสาสมัครบุคลากรทางการแพทย์ ที่ได้รับการฉีดวัคซีนซิโนแวค 2 เข็ม และวัคซีนแอสตร้าเซเนก้า 2 เข็ม ใช้การทดสอบด้วยวิธีเดียวกัน ในผู้ที่มีคุณสมบัติคล้ายกัน พบว่า หลังฉีดวัคซีนซิโนแวค 2 เข็ม มีภูมิคุ้มกันขึ้นสูงสู้การฉีดวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า 2 เข็มไม่ได้…

สำนักข่าวไทย 19 ส.ค.- กรมวิทย์แจงผลศึกษาทดลองประสิทธิภาพสูตรฉีดวัคซีนกับสายพันธุ์เดลตา ในห้องปฏิบัติการระดับ 3 พบวัคซีนไขว้สลับชนิดให้ผลดีสุด และภูมิขึ้นเร็ว เพียง 5 สัปดาห์ รองลงมาแอสตราฯ 2 เข็ม ส่วนการฉีดแบบบูสเตอร์ แอสตราฯ เป็นเข็ม 3 หลังรับซิโนแวค พบให้ผลดีเช่นกัน แต่ไม่สนับสนุนฉีดแอสตราฯ เข็ม 1 และซิโนแวค เข็ม 2 นพ.ศุภกิจ ศิริลักษณ์ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กล่าวถึงผลการศึกษาการฉีดวัคซีนโควิด-19 ไขว้สลับชนิด ว่า จากการศึกษาทดลอง ตรวจระดับภูมิคุ้มกันของประชาชนอาสาสมัคร จำนวน 125 คน อายุเฉลี่ย 18-60 ปี แบ่งเป็น ชาย 61 คน, หญิง 64 คน ในพื้นที่กทม. และปริมณฑล ในผู้รับวัคซีนแบบซิโนแวค…