สาวผมยาวสุดในตรัง 1.5 เมตร เชื่อ “ผมผีช่อ” เป็นของดี ห้ามตัด ถ้าตัด ‘ป่วย-บ้า-เสียชีวิต’ ได้
หญิงวัย 57 ปี ชาวบ้านตำบลน้ำผุด อ.เมือง จ.ตรัง มีผมเป็นปมขมวดกันเองโดยธรรมชาติ ซึ่งชาวบ้านทั่วไปเรียกว่า “ผมผีช่อ” มีความยาวถึงพื้นดิน เจ้าตัวเชื่อห้ามตัด ตัดแล้วป่วยทันทีเป็นของดีที่ต้องรักษาไปจนชั่วชีวิต

เมื่อวันที่ 2 มิ.ย. ที่บ้านเลขที่ 93 หมู่ที่ 3 บ้านห้วยเร็จ ต.น้ำผุด อ.เมือง จ.ตรัง ซึ่งเป็นบ้านของนางเจียม ศรีสุข อายุ 57 ปี วันนี้มีชาวบ้านมาขอดู “ผมผีช่อ” ของนางเจียม ซึ่งมีความยาวเท่ากับความสูงของเธอคือ 1.50 เมตร ลักษณะเส้นผมเหมือนกับผมที่พันกัน เป็นปมขมวดกันแน่น ไม่สามารถสางหรือแกะให้หลุดออกจากกันได้ โดยเกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ

ชาวบ้านบางคนเรียกว่า เกล้านางธรณี หากเส้นผมลักษณะดังกล่าวเกิดขึ้นกับใครแล้ว ห้ามตัดทิ้งโดยเด็ดขาด มิเช่นนั้นจะเกิดการเจ็บป่วย เป็นบ้าหรือเสียชีวิตได้ ทำให้คนที่มีเส้นผมลักษณะดังกล่าวไม่มีใครตัดผม ยกเว้นจะได้ครูหมอมโนราห์หรือผู้มีอาคมเก่งกล้าจึงจะสามารถตัดผมผีช่อได้

แต่ก็น้อยคนนักที่คิดจะตัด เพราะส่วนมากเชื่อว่าเป็นของดีที่สิ่งที่มองไม่เห็นให้มา เพื่อคุ้มครองและปกปักรักษาตนให้แคล้วคลาดและปลอดภัย ซึ่งวิธีการสระผมไม่ยุ่งยาก แห้งเร็ว ไม่เคยมีกลิ่นเหม็นอับและไม่เคยเข้าร้านตัดผมแม้แต่ครั้งเดียว

โดยนางเจียม เล่าว่า ตนมีผมปกติเหมือนกับคนอื่น ๆ มาตั้งแต่เกิด แต่เมื่ออายุประมาณ 30 ปีมีผู้หญิงนุ่งชุดขาวมาเข้าฝันแล้วถามตนว่า จะให้ของดีจะเอามั้ย ตนตอบว่าเอา พอรุ่งเช้าจึงพบว่าเส้นผมขมวดกันเป็นก้อนจนแกะไม่ออก ก่อนจะค่อย ๆ ขมวดกันแน่นขึ้น ซึ่งก็รู้ว่าเป็นผมผีช่อ และปล่อยให้ยาวมาเรื่อย ๆ จนถึงพื้นดินโดยไม่คิดจะตัด

ซึ่งไปไหนมาไหนมีคนสนใจขอถ่ายรูปเป็นจำนวนมาก ซึ่งตนก็เชื่อว่าเป็นของดีแม้จะไม่เคยมีโชคลาภก้อนใหญ่สักครั้งในชีวิตก็ตาม โดยที่ผ่านมาก็ยังไม่เคยเห็นใครมีผมผีช่อที่ยาวกว่าตนแม้แต่คนเดียว

ดูข่าวต้นฉบับ
Ⓜ️ เรื่องที่น่าสนใจ |

๑๐ ความเชื่อของชาวโนรา...ความเชื่อมีความหมายอยู่หลายความหมาย ซึ่งนักวิชาการและผู้รู้ได้ให้ความหมายของ ความเชื่อไว้ในแง่มุมต่าง ๆ ว่า ความเชื่อ คือ การยอมรับว่าสิ่งใดสิ่งหนึ่งเป็นความจริงหรือเป็นสิ่งที่เราไว้ใจ ความจริงหรือความไว้วางใจที่เป็นรูปของความเชื่อนั้น ไม่จำเป็นว่าจะต้องเป็นความจริงที่ตรงตามหลัก เหตุผลหรือ หลักวิทยาศาสตร์ใด ๆ คนที่เชื่อในฤกษ์ยามก็จะถือว่า วันเวลาการโคจรของดวงดาวจะก่อให้เกิดผล ต่อตัวมนุษย์ คนที่เชื่อเครื่องรางของขลังก็จะมีความยึดมั่นว่า เครื่องรางของขลังให้คุณให้โทษแก่ตนได้จริง ตัวอย่างของความเชื่อ ได้แก่ ไสยศาสตร์ โหราศาสตร์ โชคลาง ของขลัง ผีสาง นางไม้ ความเชื่ออำนาจ ลึกลับ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ อิทธิฤทธิ์ปาฏิหาริย์ เหล่านี้เป็นต้น สำหรับความเชื่อของชาวโนราที่มีผลต่อจิตวิญญาณของคนในชุมชนผ่านการสืบสาน ส่งต่อจากรุ่นสู่รุ่นมีความเชื่ออยู่หลากหลายประการ ดังนี้ ๑.ความเชื่อเกี่ยวกับครูหมอโนรา บางแห่งเรียกว่า ตายายโนรา คือบูรพาจารย์โนราและบรรพบุรุษของโนราที่ล่วงลับไปแล้ว โดยโนราเชื่อว่าครูหมอเหล่านี้ยังมีความผูกพันกับลูกหลานและผู้มีเชื้อสายโนรา หากลูกหลาน เพิกเฉยไม่เคารพบูชาไม่เซ่นไหว้ ก็จะได้รับการลงโทษจากครูหมอโนราด้วยวิธีการต่าง ๆ เช่น ทำให้ เจ็บป่วยจะแก้ได้ด้วยการบนบวงสรวง อนึ่ง ถ้าจะให้ครูหมอโนราช่วยเหลือในกิจบางอย่างก็ทำได้โดย การบนบานหรือบวงสรวงเช่นกัน…

บ้านวังใหม่ ต.วังมะปราง วังวิเศษ จ.ตรัง - เกิดเหตุงูบองหลายักษ์ "งูจงอาง” บุกเข้าบ้านของ2 ตายายชาวจังหวัดตรัง หลังจากที่ทั้งสองกำลังนั่งรับประทานข้าวอยู่ ถือเป็นงูบองหลาขนาดใหญ่ที่สุดตั้งเเต่2ตายายเกิดมาเคยเจอกว่า80ปี ร้อนถึงเจ้าหน้าที่กู้ภัยบรรเทาวังวิเศษ ต้องเข้าจับงูยักษ์ดังกล่าว เชื่อกันว่าพญางูตัวนี้เป็นงูทวดหรืองูเจ้าที่ โดยเมื่อวันที่ 20 ม.ค.63 นายกิจ จีนประชา อายุ 80 ปี และนางลาภ จีนประชา อายุ 78 ปี 2 สามีภรรยา อยู่บ้านเลขที่ 80 ม.8 บ้านวังใหม่ ต.วังมะปราง อ.วังวิเศษ จ.ตรัง ได้แจ้งไปยัง สภ.วังวิเศษ และหน่วยกู้ภัยบรรเทาวังวิเศษ ว่า ให้ช่วยมาจับงูบองหลายักษ์ ซึ่งเลื้อยเข้ามานอนขดยังบริเวณเสากลางบ้าน ขณะที่สองตายายกำลังนั่งรับประทานอาหารเย็นอยู่กันเพียงลำพัง ใช้เวลาประมาณ 15 นาที ก็สามารถจับงูจงอางยักษ์ตัวดังกล่าวได้สำเร็จ ซึ่งมีความยาวกว่า 5 เมตร…

เงินเดือนออกแล้ว อย่าลืมทำบุญกับพระอรหันต์ที่บ้าน คือ ”พ่อแม่”กันบ้างนะ “การทำบุญกับพ่อแม่ ย่อมได้อานิสงส์ผลบุญ ทันตาในชาติปัจจุบันไม่ต้องรอไปถึงชาติหน้า” ** สมเด็จโต ** “ความกตัญญเป็นเครื่องหมายของคนดี” “บุคคลที่กตัญญูกับพ่อแม่ย่อมไม่มีวันตกต่ำ” ถ้าเงินเดือนออกแล้วอย่าลืมทำบุญกับพระอรหันต์สองท่านที่บ้านคือ”พ่อแม่”กันบ้างนะ “การทำบุญกับพ่อแม่ย่อมได้อานิสงส์ผลบุญทันตาในชาตินี้ไม่ต้องรอไปถึงชาติหน้า วันนี้ก็มีเรื่องมาบอกต่อเพื่อประเทืองปัญญาอีกเช่นเคย เป็นเรื่องที่ได้รับการบอกเล่ามาแล้วทำให้นึกถึงพ่อและแม่ของตัวเองมากๆเลยค่ะ (เหตุการณ์เมื่อหลายสิบปีที่ผ่านมา ) ... กราบคุณย่าเสร็จ คุณทองคำก็หันมาคุยกับอาจารย์ “...อาจารย์กำลังทำอะไรครับ ” อาจารย์ : “ผมกำลังตัดรายจ่ายอยู่…คุณทองคำ….ผมต้องจ่าย..ค่าแม่ครัวคนขับรถ คนสวน ค่าใช้จ่ายในบ้านและให้แม่อีกเดือนละ ๓๐๐ บาท ตอนนี้ รายได้กับรายจ่ายมันไม่ค่อยสัมพันธ์กันต้องตัดรายจ่ายลงบ้าง ” คุณทองคำ : " เงินเดือนที่ให้แม่ ๓๐๐ นี่ตัดได้นี่ครับ" อาจารย์ (หันหน้ามามองแล้วยิ้ม) : “ทำไมล่ะ?” คุณทองคำ : “อาหาร ๓ มื้อ อาจารย์ก็จัดให้..เรียบร้อย เสื้อผ้า..อาจารย์ก็ซื้อให้ใหม่…