จับแล้วลูกทรพีคลั่งยา คว้าจักรยานฟาดหัวแม่เลือดอาบ อ้างแค่ผลัก

1882
views
จับแล้วลูกทรพี คลั่งยา

อ.ท่าศาลา จ.นครศรีธรรมราช – กรณีเหตุการณ์คดีสะเทือนใจนางเราะปิฉะ ใบแหล้ อายุ 65ปี แม่วัยชราถูกนายสมชาย สันเตะหรือชื่อเล่นว่า”บังเลาะ” ลูกชายแท้ๆวัย40ปี ซึ่งเสพยาเสพติดจนติดขั้นรุนแรงได้เมายาคลุ้มคลั่งอาละวาดทะเลาะกับแม่แล้วยกรถจักรยานสองล้อถีบขนาดเล็กของเด็กยกฟาดศีรษะนางรอปีฉะ ผู้เป็นแม่จนหัวแตกเลือดอาบแผลยาว 8 ซม.แล้วหลบหนีหายไป ที่บ้านเลขที่ 129/2 หมู่ 7 ต.ท่าศาลา อ.ท่าศาลา จ.นครศรีธรรมราช เมื่อค่ำวันที่26มค.ที่ผ่านมา

เมายานรก ทุบหัวแม่

หลังเกิดเหตุทางญาติๆได้แจ้งจนท.มูลนิธิประชาร่วมใจ อ.ท่าศาลา รีบมาช่วยเหลือปฐมพยาบาลห้ามเลือดและรีบนำส่ง รพ.ท่าศาลา เพื่อให้แพทย์รักษานอน รพ.จนอาการพ้นขีดอันตรายแล้ว โดยหลังเกิดเหตุทาง พ.ต.อ.อนันต์ หริกจันทร์ ผกก.สภ.ท่าศาลา พร้อมด้วย พ.ต.ท.เกษมสิทธิ์ จำปาทอง รอง ผกก.(สอบสวน)และพ.ต.ท.เมธี พาชื่นใจ สว.(สอบสวน) พร้อมด้วยด.ต.สุทธิศักดิ์ พิทักษ์ทองคำ หน.สายตรวจป้อมตำรวจสี่แยกหน้าทับ นำกำลังตำรวจสายตรวจและชุดสืบสวนไปตรวจสอบที่เกิดเหตุและเร่งไล่ล่าตัวนายสมชายหรือเลาะ ลูกชายทรพีทาสยานรกรายนี้มาดำเนินคดีตามกม.ต่อไปแล้วตลอดทั้งคืนแต่ก็ยังไม่ได้ตัว

เมายานรก ทุบหัวแม่

ล่าสุดวันที่ 27 ม.ค. 63 ด.ต.สุทธิศักดิ์ พิทักษ์ทองคำ หน.สายตรวจป้อมตำรวจสี่แยกหน้าทับ ได้สืบทราบว่านายสมชายหรือเลาะ ลูกชายทรพีทาสยานรกรายนี้ ได้ไปหลบซ่อนพักของอดีตแม่ยายในหมู่บ้านเดียวกัน ห่างจากบ้านที่เกิดเหตุ500เมตร ด.ต.สุทธิศักดิ์ ได้นำกำลังตำรวจไปจับกุมตัวนายสมชายหรือบังเลาะ ได้อย่างละม่อมขณะหลบซ่อนตัวในบ้านอดีตแม่ยาย โดยยอมให้จับกุมตัวโดยดี ก่อนคุมตัวมาสอบสวนที่โรงพัก สภ.ท่าศาลา โดยเบื้องต้นตรวจพบฉี่สีม่วงด้วย

จากการสอบสวนปากคำนายสมชายหรือบังเลาะ ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหาว่าก่อนเกิดเหตุได้ไปเสพยาบ้าจำนวน 2เม็ดซึ่งมีเพื่อนคนหนึ่งเอามาให้เสพฟรีไม่ได้ซื้อมา หลังเสพยาจนมีอาการเมายาแล้วเดินเข้าไปในบ้าน

แล้วค้นหาสิ่งของภายในบ้านไม่เจอตนสงสัยแม่จะเอาซ่อนไว้ ทำให้ตนโมโหจึงสอบถามแม่ จนมีปากเสียงทะเลาะกับแม่อย่างรุนแรง ด้วยความโมโห มีการผลักกันไปมาและตนได้เผลอผลักแม่จนเซล้มไปโดนรถจักรยานสองถีบขนาดเล็กของเด็ก ศีรษะแม่ไปโดนรถจักรยานอย่างจังทำให้ศีรษะแตกเลือดอาบดังกล่าวแล้วตนได้หลบหนีออกไปจากบ้านทันที

จับแล้วลูกทรพี คลั่งยา

นายสมชายหรือบังเลาะ ให้การอีกว่า ตนยอมรับว่าแอบเสพยาบ้ามานานแล้วเคยถูกจับมาหลายครั้งและถูกส่งตัวไปบำบัดรักษา แต่ก็กลับมาเสพยาบ้าอีก โดยไม่ได้ซื้อเองแต่มีเพื่อนใจดีคนหนึ่งในหมู่บ้านเอามาให้เสพวันละ2-3เม็ดแต่ละวัน โดยไม่ได้ทำงานอะไร

เคยมีครอบครัวแล้วลูก3คนแต่เลิกกับเมียคนดังกล่าวไปแล้วประมาณ5ปีและทุกครั้งที่ตนเสพยาบ้าจนเมาก็มักจะมีเรื่องทะเลาะกับแม่เป็นประจำเกือบทุกวัน จนครั้งนี้เผลอผลั้งมือหนักไปหน่อยจนแม่บาดเจ็บ ซึ่งตนก็ขอโทษแม่ด้วย นายสมชาย กล่าวกับผู้สื่อข่าวแบบฝืนใจตอบขอโทษแม่วัยชรา

ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยังบ้านเลขที่ 129/2 หมู่7 ต.ท่าศาลา ซึ่งเป็นบ้านเกิดเหตุ บ้านปูนชั้นเดียว พบกับนายอะสาร สันเตะ อายุ 65ปี บิดาของนายสมชาย ได้นำผู้สื่อข่าวชี้จุดที่เกิดเหตุและร่องรอยที่เกิดเหตุและรถจักรยานสองล้อเด็กที่ยังจอดในบ้าน

พร้อมทั้งเผยว่า ครอบครัวตนเอือมระอาของบรรดาญาติๆกับลูกชายคนนี้เป็นอย่างมาก ตนมีลูกทั้งหมด 8คน ซึ่งนายสมชายเป็นคนที่ 2 ซึ่งนายสมชาย จะเสพยาบ้าเป็นประจำทุกวันและทุกครั้งเมื่อเมายาก็จะอาละวาดทำร้ายแม่และคนในครอบครัวเป็นประจำ

จับแล้วลูกทรพี คลั่งยา

เคยถูกจับกุมไปบำบัดหลายครั้งแล้วก็ยังไม่หาย ลูกคนนี้กลับมาเสพยาอีก จนตนและญาติไม่รู้จะทำยังไงดี งานการก็ไม่ยอมทำ และมักจะเข้ามาขโมยข้าวของในบ้านแม้กระทั่งไก่ที่เลี้ยงไว้ไปขายจนหมดเพื่อนำเงินไปซื้อยาบ้ามาเสพวันหนึ่งหลายเม็ดประมาณ2-5เม็ดแล้วจะกลับมาอาละวาดทำร้ายแม่และคนในบ้านเป็นประจำเพื่อจะขอเงินไปซื้อยาบ้ามาเสพ ในรอบ2เดือนที่ผ่านมา อาละวาดทำร้ายแม่มาแล้ว4ครั้ง

จนล่าสุดมาก่อเหตุหนักหน่อยใช้รถจักรยานสองล้อเด็กฟาดทุบหัวแม่จนแตกเลือดอาบ แล้วหลบหนีบ้านอดีตแม่ยาย และช่วงตี4ที่ผ่านมานายสมชายหรือเลาะ ยังย้อนกลับมาบ้านอีกเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น และจะอาละวาดทำร้ายคนในบ้านอีก แต่กลับถูกตนและญาติๆในบ้าน ไล่หนีออกจากบ้านไปอีก

จนทราบว่าหลบหนีไปซ่อนตัวบ้านอดีตแม่ยายซึ่งทราบว่าตำรวจจับกุมตัวได้แล้วก็อยากให้ตำรวจดำเนินคดีลูกชายคนนี้ให้ถึงที่สุดอย่าปล่อยออกมาเลย และอยากให้จนท.นำไปบำบัดอาการติดยาเสพติดของลูกชายคนนี้อย่างจริงจังให้หายเสียที นายอะสาร กล่าวกับผู้สื่อข่าวในที่สุด

ด้าน พ.ต.อ.อนันต์ หริกจันทร์ ผกก.สภ.ท่าศาลา เผยว่า คดีนี้ทางตำรวจจะได้ดำเนินคดีนายสมชายในข้อหาทำร้ายร่างกายบุพการีและเสพยาเสพติด แม้จะเคยบำบัดรักษายาเสพติดใน รพ.ก็ตาม แต่เมื่อบำบัดแล้วยังไม่เลิกเสพยาและยังอาละวาดหนักกว่าเดิมอีกก็จะต้องหามาตรการดำเนินคดีให้หนักขึ้นไปอีกเพื่อให้เข็ดหลาบต่อไป.

อ่านข่าวต้นฉบับ