อ.ชะอวด จ.นครศรีธรรมราช – (11 ธ.ค.) พ.ต.ท.ศุภกร ตังคะประเสริฐ สว. ส.ทล.4 กก.7 บก.ทล. (ตำรวจทางหลวงนครศรีธรรมราช) ได้รายงานผลการปฏิบัติหน้าที่ให้ พ.ต.อ.จิรประภาพ สุทธปรีดา ผกก. 7 บก.ทล. ทราบว่าเมื่อเวลา 14.00 น.วันที่ 10 ธ.ค. 2562 ที่ผ่านมา
ได้สั่งการให้ ร.ต.อ.แสงโรจน์ สมโรจน์รัตน์ รอง สว.ส.ทล.4. ร.ต.ท.ปัญจธรรม สันตจิตร รอง สว.(ป)ส.ทล.4 และ ด.ต.วรรณชัย ชุมขวัญ ผบ.หมู่ ส.ทล.4 ตั้งด่านตรวจบนถนนสายเอเซีย 41 ระหว่างหลัก กม.348-349 ต.เกาะขันธ์ อ.ชะอวด จ.นครศรีธรรมราช เพื่อกวดขันจับกุมการลักลอบขนถ่ายยาเสพติดและสิ่งผิดกฎหมายในช่วงก่อนเทศกาลปีใหม่
จนกระทั้งมีรถยนต์ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นวีออส สีเทา หมายเลขทะเบียน ศน 3210 กทม. มีผู้ชายสูงอายุเป็นผู้ขับขี่วิ่งผ่านมาทางท่ามีพิรุธ จึงส่งสัญญาณให้จอดเพื่อขอตรวจค้น ในเบื้องต้นพบว่ารถคันดังกล่าวติดป้ายแสดงการเสียภาษีเป็นรถทะเบียน กจ 9866 เพชรบูรณ์ ระบุวันสิ้นอายุ 1 ก.พ. 2562 สำเนารายการจดทะเบียนรถหมายเลขทะเบียน กจ 9866 เพชรบูรณ์ จำนวน 1ชุด ส่วนภายในรถเครื่องแบบตำรวจประดับยศพันตำรวจเอก
โดยระบุชื่อคมกฤษ วงศ์สวัสดิ์ พร้อมเข็มขัดและรองเท้าประกอบเครื่องแบบ จำนวน 1 ชุด วิทยุสื่อสารยี่ห้อ ไอคอม รุ่น ไอซี-900 พร้อมอุปกรณ์ส่วนควบ จำนวน 1 เครื่อง โดยคนขับอ้างว่าเป็นนายตำรวจระดับ พ.ต.อ. ดำรงตำแหน่ง ผกก.สภ.แห่งหนึ่ง เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงขอดูบัตรประจำตัวข้าราชการตำรวจ ปรากฏว่าชายคนดังกล่าวไม่สามารถแสดงบัตรประจำตัวให้ดู เจ้าหน้าที่จึงได้ตรวจสอบชื่อตามที่ปรากฏตามหน้าอกเสื้อปรากฏว่าชื่อ “พ.ต.อ.คมกฤษ วงศ์สวัสดิ์” ไม่มีชื่อนายตำรวจดังกล่าวในสารบบของสำนักตำรวจแห่งชาติ
จึงนำตัวคนขับมาทำการเค้นสอบสวนจนทราบชื่อจริงว่าชื่อ นายปราโมทย์ มณีโรจน์ อายุ 65 ปี อยู่บ้านเลขที่ 88/1 หมู่ 3 ต.กระดังงา อ.สทิงพระ จ.สงขลา ซึ่งไม่ได้เป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจแต่อย่างใด และจากการตรวจสอบประวัตินายปราโมทย์ พบว่ามีประวัติเคยถูกจับกุมมาแล้วหลายครั้ง เนื่องจากชอบแต่งชุดนายตำรวจยศ พ.ต.อ.ปลอมไปหลอกลวงชาวบ้านและพระสงฆ์ตามวัดต่าง ๆทั่วภาคใต้
อ้างว่าจะขอเป็นเจ้าภาพทอดกฐินหรือทอดผ้าป่า ก่อนจะหลอกเอาเงินจากทางวัดหรือเจ้าอาวาสอ้างว่าจะนำไปใช้เตรียมงานและเชิดเงินหนีหายไป สร้างความเดือดร้อนให้กับวัดและเจ้าอาวาสและชาวบ้านทั่วภาคใต้ จนถูกผู้เสียหายแจ้งความจับกุมมาแล้วหลายครั้งตั้งแต่อายุ 40 ปีเศษ
“แต่เมื่อพ้นโทษก็ออกมาแต่งชุดตำรวจยศ พ.ต.อ.ออกตระเวนหลอกเจ้าอาวาสและชาวบ้านอีกและถูกจับกุมอีกหลายครั้ง เข้า ๆ ออก ๆคุกต่อเนื่อง แต่ไม่เข็ดหลาบจนกระทั้งปัจจุบันอายุ 65 ปีก็ยังไม่เลิกพฤติกรรมในการแอบอ้างเป็นนายตำรวจยศพันตำรวจเอกตระเวนหลอกลวงไปทั่ว จนมาถูกตำรวจทางหลวงนครศรีธรรมราชจับกุมอีกครั้งดังกล่าว ซึ่งล่าสุดมีผู้เสียหายเป็นหญิงสาวหลายที่ทราบข่าวเดินทางคนมารุมชี้ตัวว่าถูกนายปราโมทย์ หลอกหลวงเป็นนายตำรวจยศ พ.ต.อ.หลอกลวงเอาเงินไปเป็นจำนวนมาก
และจากการตรวจสอบป้ายทะเบียนที่ติดรถเก๋งคันดังกล่าวพบว่าเป็นป้ายทะเบียนปลอม ในขณะที่นายปราโมทย์ สอบสวนผู้ต้องหาให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงคุมตัวพร้อมของกลางนำส่งพนักงานสอบสวน สภ.ชะอวด จ.นครศรีธรรมราช ดำเนินคดีในข้อหา แสดงตนเป็นเจ้าพนักงาน และกระทำการเป็นเจ้าพนักงานโดยตนเองมิได้เป็นเจ้าพนักงานที่มีอำนาจ มีวิทยุคมนาคมไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต ปลอมแปลงและใช้เอกสารราชการโดยผิดกฎหมาย และควบคุมตัวนายปราโมทย์ เดินคอตกเข้าห้องควบคุมตัวบนโรงพักเพื่อดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมายต่อไป.