ส ล ด ! แม่เฒ่าเมืองคอนวัย 85 พลาด! เดินเก็บผักริมสระน้ำหน้าบ้าน ลื่นจมดับอนาถ

1662
views
เดินเก็บผักริมสระน้ำหน้าบ้าน

นครศรีธรรมราช – เมื่อเวลา 19.30 น.ของวันที่ 7 ธันวาคม 2562 หน่วยกู้ภัยมูลนิธิประชาร่วมใจ ตรวจสอบเหตุพบศพหญิงชราจมน้ำอยู่ในสระน้ำหน้าบ้านเลขที่ 110 หมู่ที่ 1 ตำบลไชยมนตรี เมืองนครศรีธรรมราช

สระน้ำอยู่ในสวนผลไม้หน้าบ้านนางสาวประพิณ จุลอมร อายุ 85 ปี จมน้ำอยู่ในสระเต็มไปด้วยแหนเต็มสระ โผล่เพียงช่วงหลังเพียงเล็กน้อยตรวจสอบบริเวณรอบสระไม่พบร่องรอยผิดปกติใดๆ

เก็บผักในสระขาย จมน้ำดับ

รวบรวมข้อมูลพยานหลักฐานพบว่านางสาวประพิน อาศัยอยู่ในบ้านห่างจากสระน้ำไปประมาณ 50 เมตรเพียงคนเดียวมีลูกหลานจะแวะเวียนเข้ามาดูแลทุกวัน หลานตามหานางสาวประพิณตั้งแต่ช่วงบ่าย

เนื่องจากลูกค้ามาซื้อผักพื้นบ้านที่นางประพิณปลูกไว้แต่ไม่พบตัว จึงออกตามหาจนทั่วบริเวณแต่ไม่พบจนกระทั่งช่วงค่ำ ระดมค้นหาจนพบว่านางประพินจมอยู่ในสระน้ำหน้าบ้านแล้ว

เดินเก็บผักริมสระน้ำหน้าบ้าน

หลานของนางสาวประพิณระบุว่าทุกคนพยายามห้ามไม่ให้นางประพินเดินไปใกล้สระน้ำ แต่ได้รับคำตอบว่า “ไม่ต้องห่วงกูว่ายน้ำเป็นไอ้หลาน” ด้วยที่ชอบปลูกผัก เก็บผัก พยายามเก็บผักบุ้งริมสระแล้วเกิดพลาดตกลงไปด้วยที่อากาศเย็นและสระน้ำมีความลึกน้ำเย็นจัด ประกอบกับความชราภาพไม่มีแรงจึงทำให้ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้จมน้ำเสียชีวิตจนกระทั่งถูกค้นหาจนพบ

จากการที่ จนท.ได้ทำการชันสูตรพลิกศพพร้อมตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุในเบื้องต้นไม่พบร่องรอยหรือบาดแผลใดๆตามร่างกาย ที่อาจเกิดจากการถูกทำร้ายหรือเกิดจากการปองร้ายเพื่อหวังทำให้เสียชีวิตแต่อย่างใด แต่จะต้องนำร่างไปทำการชันสูตรอย่างละเอียดอีกครั้งหนึ่งเพื่อความชัดเจน

เก็บผักในสระขาย จมน้ำดับ

ส่วนสาเหตุการจมน้ำในครั้งนี้คาดว่าน่จะเกิดจากความประมาท ที่ผู้ตายซึ่งอยู่ในวัยชราภาพมาก โดยได้เดินมาเก็บผักที่ตนเองปลูกไว้เพื่อนำไปขายตามคำให้การของญาติๆ เนื่องจากพื้นที่โดยรอบมีพืชผักสวนครัวหลายชนิดปลูกอยู่ ประกอบกับพื้นดินบริเวณดังกล่าวมีความอ่อนนุ่มและเปียกชื้น

เนื่องจากในพื้นที่ช่วงนี้มีฝนตกชุก ผู้ตายอาจเกิดพลาดลื่นตกลงไป บวกกับน้ำในสระที่มีความเย็นตะคริวอาจจับจนไม่สามารถตะเกียกตะกายช่วยเหลือตนเองได้จึงหมดเรี่ยวแรงจนจมน้ำเสียชีวิตในที่สุด ซึ่งทางญาติเองไม่ติดใจในสาเหตุการเสียชีวิตครั้งนี้ ซึ่งหลังจากที่ จนท.ได้ชันสูตรอย่างละเอียดเสร็จสิ้นแล้วก็จะมอบศพให้กับทางญาติๆเพื่อนำกลับไปดำเนินการจัดงานตามประเพณีต่อไป

ข่าวต้นฉบับ