“หนังน้องเดียว ลูกทุ่งวัฒนธรรม” โร่แจ้ง ตร.สกัดจับเมียหอบสมุดคิวงาน-บช.ธนาคารหนีกลางดึก

11058
views
หนังน้องเดียว

“หนังน้องเดียว ลูกทุ่งวัฒนธรรม” นายหนังตะลุงชื่อดังของภาคใต้โร่แจ้งความตำรวจช่วยสกัดเมียและญาติขับรถยนต์ 2 คันออกจากบ้านกลางดึก เพื่อขอสมุดคิวงานแสดงและสมุดบัญชีธนาคารคืน หวั่นไม่สามารถไปเล่นหนังตะลุงตามคิวนัดกับลูกค้าได้ เกรงจะถูกลูกค้าฟ้องร้องว่าเบี้ยวงานแสดง ด้านคนใกล้ชิดเผย “น้องเดียว”กับภรรยามีปัญหามาร่วม 2 ปีแล้ว

หนังน้องเดียว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อกลางดึกคืนวันที่ 3 ธันวาคม 2562 นายบัญญัติ สุวรรณแว่นทอง นายหนังตะลุงตาบอดเจ้าของคณะ “หนังน้องเดียว ลูกทุ่งวัฒนธรรม” นายหนังตะลุงชื่อดังของภาคใต้ เดินทางเข้าพบ พ.ต.ท.สัมพันธ์ วัฒนสงค์ สว (สอบสวน) สภ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช เพื่อลงบันทึกประจำวันและแจ้งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจสกัดรถยนต์เก๋งยี่ห้อโตโยต้า ยารีส สีขาว ทะเบียน กล 8007 นครศรีธรรมราช และรถยนต์นั่งส่วนบุคคลยี่ห้อโตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ วีขาว ทะเบียน กว 3262 นครศรีธรรมราช ซึ่งมีภรรยาและญาติฝ่ายภรรยาขับออกจากบ้านพัก

โดยร้องขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจสกัดและเจรจาขอสมุดรับคิวงานเล่นหนังตะลุง และสมุดบัญชีธนาคารคืน เนื่องจากตอนนี้ได้รับความเดือดร้อน เพราะไม่สามารถไปเล่นหนังตะลุงตามคิวนัดกับลูกค้าได้ เกรงว่าจะถูกลูกค้าฟ้องร้องว่าเบี้ยวงานแสดง แต่ปรากฏว่าตลอดทั้งคืนไม่มีวี่แววรถยนต์ทั้ง 2 คันที่นายบัญญัติ หรือ หนังน้องเดียว แจ้งขอความช่วยเหลือแต่อย่างใด

หนังน้องเดียว

ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า สำหรับเรื่องที่เกิดขึ้นคนสนิทของนายบัญญัติ หรือ หนังน้องเดียว ได้ให้ข้อมูลว่า เหตุการณ์หนังน้องเดียวกับภรรยา มีปัญหาเรื่องภายในครอบครัวมา 1-2 ปีแล้ว แต่ไม่ทราบว่าเรื่องอะไร ส่วนเหตุการณ์เมื่อคืนที่ผ่านมา หนังน้องเดียว กับภรรยา เกิดมีปากเสียงทะเลาะกันรุนแรง แต่ครั้งนี้มีญาติๆ ทั้งฝ่ายหนังน้องเดียว และญาติฝ่ายภรรยา อยู่ในเหตุการณ์ด้วย และไม่สามารถตกลงพูดคุยปัญหาที่เกิดขึ้นได้

สุดท้ายภรรยาและญาติได้ขับรถยนต์ทั้ง 2 คันออกจากบ้านพักหายไป หนังเดียว จึงมาแจ้งตำรวจให้ช่วยสกัดรถยนต์ทั้ง 2 คัน เพื่อต้องการสมุดรับงานแสดงหนังตะลุง เพราะเกรงว่าลูกค้าจะได้รับความเดือดร้อน เพราะน้องเดียว ไม่รู้ว่าจะไปเล่นงานที่รับไว้ที่ไหน วันเวลาไหน อย่างไรก็ตาม เรื่องราวที่เกิดขึ้นทางคนสนิทหนังน้องเดียว ได้แจ้งว่า หนังน้องเดียว จะมีการชี้แจ้งเรื่องที่เกิดขึ้นอีกครั้ง

ดูข่าวต้นฉบับ