รวบ “เท่ห์ ห้วยไทร”ขาใหญ่วัยโจ๋ มือยิงถล่มบ้านคู่อริ ทำด.ญ.วัย 14 ปีเสียชีวิต และหนูน้อยวัย 4 ขวบ บาดเจ็บ ยังปากแข็ง ปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา
ตำรวจเมืองคอนรวบ “ไอ้เท่ห์ ห้วยไทร”ขาใหญ่ยิงถล่มบ้านคู่อริ ด.ญ.วัย 14 ปีเสียชีวิตและ ด.ช.วัย 4 ขวบบาดเจ็บ-ยังปากแข็งปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา -ผู้การ ฯลงพื้นที่กำชับเร่งไล่ล่าจับกุมตัว 3 คนร้ายที่เหลือแฉปมมาจากมือปืนถือวิสาสะเอาแก้วน้ำหวานของพ่อเด็กผู้ตายให้น้องหมากินจนเกิดเรื่องทะเลาะวิวาทชกต่อยกัน ก่อนพาพวกบุกยิงถล่มและลูกสาวรับเคราะห์แทนดังกล่าว
จากกรณที่ชายฉกรรจ์ จำนวน 4 คน มีอาวุธปืนสั้นและยาวครบมือบุกเข้าไปยิงถล่มบ้านของนายวิชัย ยี่สุ่นแซม บ้านเลขที่ 88/4 หมู่ 11 ต.ปากพูน .อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช เพื่อหวังต่อชีวิตแต่นายวิชัย ไม่อยู่บ้าน ด.ญ.ศศิประภา ยี่สุ่นแซม หรือ “น้องแตน” อายุ 14 ปี บุตรสาวนายวิชัย รับเคราะห์แทนถูกยิงด้วยอาวุธปืน 9 มม.เข้าบริเวณศีรษะด้านซ้ายได้รับบาดเจ็บสาหัส
ในขณะที่นางทัดดาว ยี่สุ่นแซม อายุ 35 ปี แม่ของ ด.ญ.ศศิประภา ตกใจเป็นลมล้มพับต้องนำส่ง รพ.มหาราชเช่นกัน นอกจากนี้คนร้ายยังยิงถลมบ้านเลขที่ 81/4 หมู่ 11 ต.ปากพูน .อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช ซึ่งเป็นบ้านญาตินายวิชัย อยู่ห่างออกไปประมาณ 50 เมตร ทำให้ ด.ช.ภัทรพงศ์ บุหงอ อายุ 4 ขวบ หลานของนายวิชัย
ถูกยิงเข้าบริเวณหน้าท้องได้รับบาดเจ็บถูกนำส่ง รพ.ท่าศาลา ก่อนหน้าแล้ว ซึ่งทาง ร.ต.อ.อภินันท์ พลศร รอง สว.(สอบสวน) สภ.เมืองนครศรีธรรมราช
พร้อมกำลังตำรวจชุดสืบสวนเดินทางเข้าตรวจสอบในที่เกิดเหตุเพื่อติดตามจับกุมกลุ่มมือปืนสุดทมิฬมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
และล่า ด.ญ.ศศิประภา ผู้บาดเจ็บทนพิษบาดแผลไม่ไหวสิ้นใจตายที่ รพ.มหาราช ในขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจติดตามจับกุมคนร้ายที่ร่วมกอเหตุเอาไว้ได้ 1 คนอยู่ระหว่างการสอบสวนขยายผล เหตุเกิดเมื่อเวลา 22.00 น.คืนที่ผ่านมา (8 พ.ย.)ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
(9 พ.ย.2562) ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าซึ่ง หลังจากนายวิชัย ยี่สุ่นแซม อายุ 40 ปีและนางทัดดาว ยี่สุ่นแซม อายุ 35 ปี พ่อแม่และญาติ ๆ ของ ด.ญ.ศศิประภาหรือ “น้องแตน”ได้รับแจ้งว่าบุตรสาวเสียชีวิตแล้ว ทั้งสอง ถึงกับร่ำไห้โฮ โดยเฉพาะ น.ส.ทัดดาว ได้เป็นลมล้มพับ
จนญาติต้องเข้าปฐมพยาบาลและนำส่ง รพ.มหาราช หลังจากนั้นจึงได้ติดต่อขอรับศพ ด.ญ.ศศิประภา หรือน้องแตน ท่ามกลางบรรยากาศเศร้าโศก เสียใจ ก่อนนำศพมาบำเพ็ญกุศลตามประเพณีต่อไป ส่วน ด.ช.ภัทรพงศ์ บุหงอ อายุ 4 ขวบ
ซึ่งถูกยิงเข้าบริเวณหน้าท้องได้รับบาดเจ็บถูกนำส่ง รพ.ท่าศาลา ทางแพทย์ได้ช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน ซึ่งพบว่ากระสุนเฉี่ยวหน้าท้องไปเท่านั้นไม่ได้เจาะลึกเข้าไปด้านในและพ้นขีดอันตรายแล้ว จึงทำบาดแผลให้ก่อนอนุญาติให้ญาตินำกลับบ้านได้ในช่วงสายของวันเดียวกันนี้ (9 พ.ย. 2562)
ในขณะที่ พล.ต.ต.สนธิชัย อาวัฒนกุลเทพ ผบก.ภ.จว.นครศรีธรรมราช พร้อมด้วย พ.ต.อ.เชาว์ศิลป์ บุญประดิษฐ์ รอง ผบก.ภ.นครศรีธรรมราช และกำลังตำรวจ นปพ.พร้อมชุดสืบสวน สภ.เมืองนครศรีธรรมราช ได้เดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุอีกครั้ง
โดยมีเหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐานนครศรีธรรมราชและตำรวจชุดสืบสวนกำลังลงพื้นที่หาข่าวเพื่อเร่งทำการสืบสวนสอบสวนติดตามจับกุมคนร้ายทมิฬที่เหลือมาดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างเร่งด่วน
พล.ต.ต.สนธิชัย กล่าวว่า คดีนี้เป็นคดีอุกฉกรรจ์สะเทือนขวัญประชาชนมากที่กลุ่มคนร้ายลงมือยิงถล่มบ้านอย่างโหดเหี้ยมจนมีผู้เสียชีวิต 1 รายบาดเจ็บ 1 รายดังกล่าว ตนได้ได้สั่งตำรวจชุดสืบสวนจังหวัด ตำรวจ นปพ.ลงพื้นที่เร่งคลี่คลายคดีจับกุมคนร้ายมาดำเนินคดีให้ได้โดยเร็ว
โดยล่าสุดได้รับรายงานว่าจับได้ แล้ว 1 คน ทราบชื่อนายอนุศักดิ์ แดงเดช หรือ “เท่ห์ ห้วยไทร” อายุ 27 ปี บ้านอยู่หมู่ 4 ต.ปากพูน อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช อาวุธปืนลูกซองยาว 1 กระบอก กระสุน 1 นัด อยู่ระหว่างการสอบสวนขยายผล แต่นายอนุศักดิ์ หรือเท่ห์
ยังปากแข็งให้การปฏิเสธตลอดข้อหล่าวหา โดยตนได้กำชับให้เร่งสอบสวนขยายผลเพื่อติดตามจับกุมคนร้ายที่เหลือซึ่งคาดว่าอีกไม่นานจับกุมได้หมดยกแก๊งแน่นอน ขอให้มั่นใจฝีมือตำรวจ ผบก.ภ.จว.นครศรีธรรมราชกล่าวอย่างมั่นใจ
ทางด้านนายวิชัย ยี่สุ่นแซม อายุ 40 ปี พ่อของ ด.ญ.ศศิประภา หรือ “น้องแตน” กล่าวว่า ตนมีอาชีพรับจ้างเฝ้าบ่อนากุ้งให้กับนายทุนคนหนึ่ง ในหมู่บ้านคืนเกิดเหตุตนไม่นอนอยู่บ้านแต่ไปทำงานรับจ้างเฝ้าบ่อนากุ้ง จนมาทราบว่าเกิดเหตุคนร้ายจำนวน 4 คนบุกยิงถล่มบ้านของตนทำให้ ด.ญ.ศศิประภา หรือน้องแตน บุตรสาว ของตนเสียชีวิตและ ด.ช.ภัทรพงศ์ บุหงอ อายุ 4 ขวบ หลานชายของตนเจ็บดังกล่าว
สำหรับสาเหตุเชื่อว่าน่าจะเกิดจากเหตุการณ์เมื่อเย็นวานนี้ (8 พ.ย.)ในขณะที่ตนกำลังนั่งดื่มน้ำหวานอยู่ที่ร้านค้าแห่งหนึ่ง ได้มีนายอนุศักดิ์ แดงเดช หรือเท่ห์ เพื่อนบ้านจากท้อที่หมู่ 4 ต.ปากพูน ซึ่งเป็นขาใหญ่วัยโจ๋ในพื้นที่เดินเข้ามายกแก้วน้ำหวานของตน
ก่อนจะเทให้สุนัขกินต่อหน้าต่อตาตน ทำให้ตนโมโหกระโดดสุนัขของนายอนุศักดิ์ ไป 1 ครั้ง ก่อนจะหันมาเตะนายอนุศักดิ์ หรือเท่ห์ เจ้ของสุนัขไป 2-3 ครั้งจนเกิดการชกต่อยกันขึ้นอย่างนัวนัย แต่มีชาวบ้านเข้ามาห้ามและแยกตนกับนายอนุศักดิ์ หรือเท่ห์ ออกจากกัน
จากนั้นตนได้เดินทางกลับบ้านและในช่วงค่ำได้ไปทำงานเฝ้าบ่อนากุ้งตามปกติ จนมาเกิดเหตุคนร้าย 4 คนอาวุธปืนครบมือบุกยิงถล่มบ้านตนทำให้ลูกสาววัย 14 ปีเสียชีวิตและหลานชายตนเจ็บดังกล่าว ซึ่งตนเชื่อว่านายเท่หรืออนุศักดิ์ ผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมได้จะต้องมีส่วนรู้เห็นกับเหตุการณ์ครั้งนี้แน่นอน แม้ผู้ต้องหาจะให้การปฏิเสธก็ตาม เพราะที่ผ่านมาตนไม่เคยมีเรื่องทะเลาะวิวาทบาดหมางกับใครมาก่อน นายวิชัย กล่าวยืนยันในที่สุด .