ละตัวตนลดอัตตา ทำหน้าที่เพื่อหน้าที่ เท่านั้น!!

2613
views
ทำหน้าที่ = เพื่อหน้าที่

คำว่าหน้าที่ เพื่อ หน้าที่ นั้นหากต้องตีความหมายในความเข้าใจของเขียนนอกกรอบแล้วน่าจะหมายถึง การปฏิบัติหน้าที่โดยพึงระลึกเสมอว่า มันคือหน้าที่ๆเราต้องทำเป็นระเบียบวินัยข้อหนึ่งที่เราต้องกระทำคำว่าหน้าที่ และวินัยนั้นเป็นสิ่งสำคัญในการพัฒนาตนเองอย่างมากเพราะมันคือสิ่งที่ เราเองต้องยอมรับและทำสิ่งๆนั้นในทุกๆวัน

แม้ในบางครั้งเราอาจจะไม่อยากทำก็ตาม อาทิเช่น

-การลุกตื่นเช้าเพื่อไปทำงาน
-การลุกขึ้นมาเพื่อออกกำลังกาย

แต่พอมีคำว่าหน้าที่ และ วินัยมาอยู่ด้วยกันมันจึงต้องผนวกพละกำลังขึ้นเป็น 2 เท่าเพื่อให้งานประสบความสำเร็จผ่านไปได้ด้วยดีเขียนนอกกรอบ จึงขอยกตัวอย่างวีรบุรุษในวรรณวกรรมจีนอิงประวัติศาสตร์เพชรน้ำเอของโลก เรื่อง สามก๊กมาเป็นตัวอย่างในวันนี้

กวนอู

กวนอู…

ผู้มีรูปร่างสูงใหญ่ ใบหน้าแดงเหมือนผลพุทราสุก นัยน์ตายาวรี คิ้วเหมือนหนอนไหม หนวดเครางามถึงอก อาวุธประจำตัวคือง้าวรูปพระจันทร์เสี้ยว เรียกว่า ง้าวมังกรเขียว มีความชำนาญและเก่งกาจด้านวิทยายุทธ
มีคุณธรรมและความซื่อสัตย์

#วาระสุดท้าย ตาย เพราะหยิ่งในความเป็นทหารผู้ทรนง เพิกเฉยต่อการเจรจากับซุนกวนจนสุดท้าย ศรีษะขาด สถานะคือผู้แพ้สงคราม

เตียวหุย

เตียวหุย…

เป็นแม่ทัพ 1 ใน 5 ทหารเสือของเล่าปี่ มีชื่อรองว่า เตียวเอ็กเต้ เตียวหุยเป็นพระอนุชาของพระเจ้าเล่าปี่และกวนอู

มีนิสัยวู่วามอารมณ์ร้อน ชอบดื่มสุราจนเมามายแล้วเฆี่ยนตีทำร้ายทหารบ่อยๆ ศีรษะโตเหมือนเสือ หน้าสีดำ ตาพองโต เสียงดังปานฟ้าผ่า เป็นผู้ชายที่มีพละกำลังมาก อาวุธประจำกายคือทวนยาว เรียกว่าทวนอสรพิษ อาชีพเดิทของเตียวหุย คือคนขายหมู

#วาระสุดท้าย ตาย เพราะลุแก่โมหะโทสะ ถือตนว่าเป็นแม่ทัพใหญ่สั่งโบยตีทหารเลว จนสุดท้ายทหารเลวแอบมาปาดคอตอนแม่ทัพใหญ่กำลังเมามาย

เล่าปี่

เล่าปี่…

ผู้ที่มีรูปร่างสูงใหญ่ สูงประมาณห้าศอก หูยานถึงบ่า มือยาวถึงเข่า หน้าขาวดังสีหยก ฝีปากแดงดังชาดแต้ม
จักษุชำเลืองไปเห็นหู มีกระบี่คู่แบบโบราณเป็นอาวุธประจำกาย เก่งกาจเชิงยุทธ มีคุณธรรม อ้อนน้อมถ่อมตน สำรวมกายสำรวมใจกริยา เป็นเลิศ

#วาระสุดท้าย ตาย เพราะลุแก่โทสะ อยากแก้แค้นให้กวนอู ถือตนว่าเป็นอ๋องเป็นกษัตริย์จนลืมไตร่ตรองวิธีตั้งค่าย สุดท้ายพลาดท่าถูกลกซุนแม่ทัพหน้าใหม่ของซุนกวนพาทหารมาเผาค่ายจนวอดวาย เล่าปี่บาดเจ็บและตรอมใจตายในที่สุด

โจโฉ

โจโฉ…

โจโฉเป็นผู้ปกครองที่มีความสามารถ เป็นนักการทหารที่ชาญฉลาด และยังเป็นกวีอีกด้วย ในสามก๊ก โจโฉแม้จะเป็นคนโหดเหี้ยม เจ้าเล่ห์ แต่ก็หาใช่ว่าเป็นคนไร้เหตุผล ตรงกันข้ามยังเป็นคนผูกใจคนเก่ง ชอบใช้คนมีความสามารถ

รู้จักใช้คน บริหารจัดการเก่ง มีความเป็นผู้นำสูง และออกอุบายวางแผนได้ด้วยตนเอง เป็นผู้ที่ได้ชื่อว่าจอมทัพและครองพื้นที่ 1 ใน 3 ของแผ่นดินมังกร

#วาระสุดท้าย ตายด้วยอาการประสาทเสื่อม มองเห็นภาพหลอนของคนที่ตัวเองเคยเข่นฆ่า

ซุนกวน

ซุนกวน…

ยอดนักการเมือง เป็นผู้นำที่มีหัวคิดทันสมัย ใช้การเมืองสมัยใหม่ในการสร้างชาติได้อย่างโดดเด่น อาทิเช่น
เวลาตัดสินใจใช้งานใคร ก็ไม่ไประแวง ให้ความมั่นใจเต็มร้อยโดยใช้ใจ ซื้อใจผู้ใต้บังคับบัญชา จนครั้งหนึ่ง โจโฉ เคยกล่าวไว้ว่า “ถ้าจะมีบุตร ต้องให้ได้อย่างซุนกวน”

หลักการเด่นชัดในตัวซุนกวน 1.หลักการ“ไม่มีมิตรแท้และศัตรูที่ถาวรทางการเมือง มีแต่ผลประโยชน์เท่านั้น” 2.สรรหานักปราชญ์ ขุนพล แล้วจัดระบบการปกครองที่คานอำนาจกันชัดเจน 3.ศาสตร์หน้าด้านใจดำ (Thick Black Theory, กล่าวไว้โดยย่อว่า “เล่าปี่หน้าด้าน โจโฉใจดำ ซุนกวนหน้าด้านใจดำเป็นประมาณ” นั่นคือซุนกวนมีความเย็นชาหน้าด้าน และมีความโหดเหี้ยมอำหิตแฝงอยู่ในตัว

#วาระสุดท้าย ตายด้วยอาการเลอะเลือนประสาทเสื่อม มองเห็นภาพหลอนของคนที่ตัวเองเคยเข่นฆ่ามาก่อน

จิวยี่

จิวยี่…

ลักษณะเป็นบุรุษรูปงาม หน้าขาว เมื่อวัยเด็กได้เรียนรู้วิชาอย่างแตกฉาน ทั้งการทหาร และศิลปะแขนงต่าง ๆ
โดยจิวยี่เป็นผู้ชำนาญทางดนตรี กล่าวกันว่า ถ้าใครดีดพิณผิดแม้นิดเดียว ใครต่อใครจับไม่ได้ แต่จิวยี่สามารถจับได้ จิวยี่เป็นผู้มีนิสัยโอบอ้อม มีน้ำใจต่อเพื่อนฝูง ดังนี้ จึงมีผู้ที่เคารพนับถือเป็นมิตรสหายมากมาย

#วาระสุดท้าย ถึงแม้จะเป็นผู้มีปัญญาล้ำเลิศที่สุดในง่อก๊ก ต้องกระอักเลือดตายเพราะไม่สามารถระงับโทโสโมหะที่เกิดขึ้น จากการพ่ายแพ้อย่างราบคาบแก่ผู้มีปัญญาเลิศล้ำกว่าตนที่มีนามว่า “ขงเบ้ง”

เล่าปี่

จูกัดเหลียง หรือ ขงเบ้ง…

ขงเบ้ง ดำรงตำแหน่งเป็นที่ปรึกษาด้านการยุทธนาการของพระเจ้าเล่าปี่ในตำแหน่งสมุหนายกและผู้บัญชาการทหารสูงสุดแห่ง จ๊กก๊ก รวมทั้งมีความสามารถในด้านการเมือง การทูต นักปราชญ์ วิศวกรและได้ชื่อว่าเป็นผู้ประดิษฐ์คิดค้นที่สำคัญ โดยคิดค้นหมั่นโถว หน้าไม้กล โคมลอยและระบบชลประทาน เป็นผู้มีปัญญาเลิศล้ำที่สุดในแผ่นดินมังกร

#วาระสุดท้าย ตายไปพร้อมกับอาการมีกังวล ห่วงหน้าพะวงหลัง ในราชกิจที่ยังคงคั่งค้าง

จูล่ง

‘เตียวจูล่งหยุน’ (จูล่ง)

แม่ทัพคนสำคัญของเล่าปี่ผู้นี้ฆ่าคนมามากนัก ไต่เต้าจากตำแหน่งทหารกระจอกจนได้เป็นแม่ทัพใหญ่แห่งจ๊กก๊ก แต่ทุกภารกิจ ทุกศพที่เขาเข่นฆ่า และทุกสงครามนั้น จูล่ง ไม่เคยเอาอารมณ์เข้าไปผสม จูล่ง “ทำหน้าที่เพื่อหน้าที่ ” เท่านั้น

เมื่อหน้าที่จบ ทุกอย่างก็จบ แม้ก่อนตายจูล่งจะเสียสถิติ “ขุนศึกผู้ไร้พ่าย” เพราะต้องมีอันพ่ายแพ้ในศึกเทียนสุย จนแทบเอาชีวิตไม่รอด แต่จูล่งก็สามารถละอัตตา สั่งถอยทัพเพื่อรักษาประโยชน์ส่วนรวม และยังปลงใจ
ยอมรับในความจริงที่เกิดขึ้นได้

#วาระสุดท้ายของจูล่ง จึงจากไปอย่างสงบ สงบจนพระเจ้าเล่าเสี้ยนถึงกับหลั่งน้ำตาชโลมแผ่นดินมังกรให้แก่ขุนศึกผู้เปรียบเสมือนบิดาของตนเอง

พระพุทธเจ้า

ในยุคสมัยนี้ เราเกิดความเครียดจากชีวิต โซเชียลมากเกินไป เราอยู่ใกล้ความสำเร็จผู้อื่นเพียงปลายนิ้วคลิ๊ก บางครั้งความเครียดก็ไม่ได้เกิดมาจากความลำบากในการทำงานอย่างเดียว ไม่ได้เกิดมาจากความผิดพลาดหรือผิดหวังอย่างเดียวเท่านั้น

แต่เกิดจากการที่เรา เอาตัวเรา เข้าไปผสมกับงาน ผสมกับการมีชีวิตของผู้อื่นมากไป งานมักไม่จบในที่ทำงานเพียงอย่างเดียว แต่ลากยาวมาถึงที่บ้าน เรามีหน้าที่ แต่วางตำแหน่งหน้าที่ยังไม่ถูกที่ถูกทาง

พระพุทธองค์จึงทรงสอนเราว่า… ให้เรารู้จักการละอัตตา อัตตา แปลว่า ตัวตน พูดให้เข้าใจง่าย ทรงให้ละตัวตน คือ การวางตัวตนของเราออกจากหน้าที่ๆ ต้องทำ ให้ทำงานปฏิบัตงานตามหน้าที่ เปรียบเหมือน ” จูล่ง ” ที่ไม่เคยเอาอารมณ์เข้าไปผสม กับหน้าที่ๆทำ ยอมละอัตตาเพื่อรักษาผลประโยชน์ของคนหมู่มากเป็นหลัก
ทำ หน้าที่เพื่อหน้าที่ ” เท่านั้น

พระพุทธองค์จึงทรงสอนให้เรา ละตัวตน + ลดอัตตา … ทำหน้าที่ = เพื่อหน้าที่

อ่านต้นฉบ้บ