จากกรณีเมื่อวันที่ 18 ต.ค.ที่ผ่านมา นายทวีศักดิ์ ชูขันธ์ อายุ 39 ปี อาชีพทำสวนยาง อยู่บ้านเลขที่ 56 หมู่ 1 ต.กุแหระ อ.ทุ่งใหญ่ จ.นครศรีธรรมราช ขี่รถจักรยานยนต์ฮอนด้าเวฟ สีเทา ทะเบียน 1 กค 4394 นครศรีธรรมราช มาตามถนนในหมู่บ้าน ก่อนจะขี่รถขึ้นบนถนนใหญ่สายทุ่งใหญ่-ลำทับ
บริเวณหน้าโรงเรียนบ้านควรประชาสรรค์ หมู่ 1 ต.กุแหระ โดยมี นายไกรศร หรือบิลลี่ บุญมา อายุ 20 ปี อยู่บ้านเลขที่ 148/1 หมู่ 1 ต.กุแหระ ซึ่งเป็นคนรู้จักและสนิทกันนั่งซ้อนท้ายมาด้วยกัน แต่ได้มีปากเสียงกันบนรถ ก่อนที่นายไกรศร จะใช้กริชที่พกติดตัว แทงนายทวีศักดิ์ ที่กำลังขับขี่รถได้รับบาดเจ็บสาหัส
ล่าสุดวันนี้ (29 ต.ค.62) เมื่อคืนที่ผ่านมา นายทวีศักดิ์ได้เสียชีวิตที่โรงพยาบาลทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช และได้ถูกนำมาบำเพ็ญกุศลที่วัดบ้านเกิดใน ต.กรุงหยัน อ.ทุ่งใหญ่ ส่วนนายไกรศร ได้หลบหนีหายไป หลังจากนั้นไม่นาน นายประสิทธิ์ กำนันตำบลกุแหระ ได้นำตัวนายไกรศร เข้ามอบตัวต่อ พ.ต.อ.โชคดี รักษ์วัฒนพงษ์ ผกก.สภ.ทุ่งใหญ่ เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวผู้ต้องหานำส่งพนักงานสอบสวน ดำเนินคดี
นายไกรศรหลังตกเป็นผู้ต้องหาเปิดเผยว่า ตนมีอาชีพรับจ้างกรีดยาง ไม่เคยทำร้ายใคร ส่วนกริช ที่พกติดตัวอยู่นั้นเป็นสมบัติ ที่คุณปู่ มอบให้ตนเมื่อ 10 ปี ที่แล้ว และไม่เคยชักออกจากฝักเลย แต่พอชักครั้งแรกเป็นได้เรื่องและเลือดทันที แต่ในวันเกิดเหตุถ้าไม่แทงสวนกลับไปอาจจะเป็นฝ่ายตายเอง
ด้าน น.ส.พัชรีย์ หิรัญรัตน์ อายุ 39 ปี ภรรยาของนายทวีศักดิ์ หรือตุ้ย ชูขันธ์ กล่าวว่า สามีได้เสียชีวิตลงตั้งแต่เช้ามืดของวันที่ 28 ต.ค.ที่ผ่านมา ที่โรงพยาบาลทุ่งสง ส่วนสาเหตุของการเสียชีวิตในครั้งนี้ แพทย์บอกว่ากล้ามเนื้อหัวใจไม่ทำงาน หายใจด้วยตัวเองไม่ได้ ทำให้ระบบการหายใจล้มเหลว จึงเป็นสาเหตุของการเสียชีวิต
น.ส.พัชรีย์ กล่าวว่า หลังจากสามีเสียชีวิต ก็ได้นำศพกลับมาตั้งบำเพ็ญกุศลที่วัดเขาหน้าเหรียง หมู่ 1 ต.กรุงหยัน อ.ทุ่งใหญ่ จ.นครศรีธรรมราช มีเพียงญาติของตน และของสามีที่มาช่วยเหลืออยู่ภายในงาน ส่วนทางญาติของผู้ก่อเหตุยังไม่เห็นใครมาแสดงความเสียใจ
แม้กระทั่งตอนที่สามีนอนรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลทุ่งสง ก็ไม่เห็นญาติของผู้ก่อเหตุมาเยี่ยมแม้แต่คนเดียว ส่วนเรื่องทางคดีก็ขอให้เป็นหน้าที่ของตำรวจเป็นผู้จัดการ และขอให้ดำเนินคดีในข้อหนัก