พ่อท่านชอบ โชติธมฺโม วัดจำปาวนาราม ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช

7654
views
พ่อท่านชอบ โชติธมฺโม

ประวัติ หลวงพ่อชอบ โชติธมฺโม วัดจำปาวนาราม ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช

พ่อท่านชอบ โชติธมฺโม

ชีวประวัติ หลวงพ่อชอบ โชติธมฺโม มีนามเดิมว่า นายชอบ ไชยฤทธิ์ เกิดวันอังคารที่ ๑๔ สิงหาคม พ.ศ. ๒๔๗๑ แรม ๑๔ ค่ำ เดือน ๘ ปีมะโมง มีบิดาชื่อ นายชุ่ม ไชยฤทธิ์ มีมารดาชื่อ นางศีล ไชยฤทธิ์ มีพี่น้องร่วมบิดามารดาทั้งหมด ๘ คน

ซึ่งพ่อท่านชอบเป็นบุตรคนที่ ๓ มีบ้านเดิมอยู่ที่ ม.๔ ต.ชะมาย อ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช และเมื่ออายุได้ ๑๓ ปี ท่านก็ได้ย้ายไปอยู่ที่บ้านถ้ำใหญ่ ต.ถ้ำใหญ่ อ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช หลังจากย้ายไปอยู่ถ้ำใหญ่ได้ประมาณ ๑ปี ก็ได้เกิดสงครามโลกครั้งที่ ๒ ขึ้นในสมัยนั้น

สำหรับด้านการศึกษาเมื่อตอนเด็กท่านได้ศึกษาที่ โรงเรียนปากแพรก (ปัจจุบันชื่อ โรงเรียนเทศบาลวัดชัยชุมพล) ต.ปากแพรก อ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช จนจบ ป.๓ ท่านก็ได้ย้ายไปศึกษาต่อที่โรงเรียนวัดถ้ำใหญ่ ต.ถ้ำใหญ่ อ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช จากความขยันหมั่นเพียรหมั่นเรียนเขียนอ่าน ท่านจึงศึกษาจนจบ ป.๔

พ่อท่านชอบ โชติธมฺโม

ในขณะเรียนพ่อท่านชอบท่านเป็นเด็กท่านมุ่งมานะขยันหมั่นเพียร ขยันเรียน และเป็นเด็กกตัญญู ท่านได้ช่วยพ่อแม่ทำไร่ทำนามาตลอด และเมื่อพ่อท่านชอบมีอายุได้ ๒๒ ปี ท่านก็ได้เข้าสู่ประตูวิวาห์แต่งงานกับภรรยาและมีบุตร๓คน

จนมาถึงตอนท่านมีอายุได้ ๒๗ ปี ท่านก็ได้ละทางโลกเดินเข้าสู่ร่มกาสาวพัสตร์ ที่วัดถ้ำใหญ่ อ.ถ้ำใหญ่ จ.นครศรีธรรมราช มีพระครูชลาการสุมน (พ่อท่านเดช) วัดควนเกย อ.ร่อนพิบูลย์ จ.นครศรีธรรมราช เป็นพระอุปัชฌาย์ มีพระครูสุขุมพรหมคุณ (พ่อท่านปลอด ) วัดสุวรรณรังษี อ.ร่อนพิบูลย์ จ.นครศรีธรรมราช เป็นพระกรรมวาจาจารย์ส่วนพระอนุสาวนาจารย์ท่านจำไม่ได้ว่าเป็นพ่อท่านอะไร และหลังจากท่านบวชได้ ๑ พรรษา ท่านก็มีภาระหน้าที่ทางโลก จึงทำให้ท่านต้องลาสิกขาจากร่มกาสาวพัสตร์มาสู่ทางโลกอีกครั้ง

พ่อท่านชอบ โชติธมฺโม

เมื่อถึงตอนท่านอายุได้ ๗๒ ปี ท่านก็รู้สึกเบื่อหน่ายทางโลก เพราะทางโลกมีแต่ รัก โลภ โกรธ หลง มีแต่ความอิจฉาริษยา ท่านจึงตัดสินใจละทางโลกเดินเข้าสู่ร่มกาสาวพัสตร์อีกครั้ง เมื่อวันที่ ๒๐ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๔๓ ที่วัดนากุล ต.สระแก้ว อ.ท่าศาลา จ.นครศรีธรรมราช

โดยมีพระครูประโชติธรรมาวุธ (พ่อท่านยม) วัดนากุล เป็นพระอุปัชฌาย์ มีพระจำเลือง สุจิตโต เป็นพระกรรมวาจาจารย์และมีพระครูสุนทร บุญทัต เป็นพระอนุสาวนาจารย์

เมื่อบวชเสร็จแล้วพ่อท่านชอบได้ไปจำพรรษาอยู่ที่วัดโสภณติธาราม (วัดเราะ) ต.สระแก้ว อ.ท่าศาลา จ.นครศรีธรรมราช ท่านจำพรรษาที่วัดเราะได้ประมาณ ๑ พรรษา จากนั้นก็ได้ย้ายไปจำพรรษาที่วัดคงคาเลื่อน (วัดน้ำตก) ต.สระแก้ว อ.ท่าศาลา จ.นครศรีธรรมราช

ขณะที่พ่อท่านชอบได้จำพรรษาอยู่ที่วัดคงคาเลื่อน ท่านก็ศึกษาร่ำเรียนในทางธรรมไปด้วย สมัยนั้นท่านต้องเดินทางไปเรียนที่วัดท่าสูง ต.ท่าศาลา อ.ท่าศาลา จ.นครศรีธรรมราช จนถึงปี พ.ศ. ๒๕๔๖ ท่านมีอายุ ๗๕ ปี ๔ พรรษา ก็ได้สอบพระปริยัติธรรมสนามหลวง สอบไล่ได้นักธรรมชั้นตรี

พ่อท่านชอบ โชติธมฺโม

พ่อท่านชอบท่านจำพรรษาอยู่ที่วัดคงคาเลื่อนได้ประมาณ ๓ พรรษา ก็ได้มีญาติโยมมานิมนต์ท่านให้ไปจำพรรษาที่สำนักสงฆ์ควนตอ ต.บางขัน อ.บางขัน จ.นครศรธรรมราช เพื่อจะได้บำรุงพัฒนาสำนักสงฆ์ควนตอให้คงอยู่กับศาสนาพุทธสืบต่อไป

ซึ่งตอนนั้นเป็นสำนักสงฆ์ร้าง พ่อท่านชอบได้จำพรรษาอยู่ที่สำนักสงฆ์ควนตอประมาณ ๓ พรรษา ท่านได้สร้างผลงานช่วยบำรุงพัฒนาพุทธศาสนสถานจนสำนักสงฆ์ควนตอยังคงอยู่คู่พระพุทธศาสนาต่อไปจนถึงปัจจุบันนี้

จนเมื่อถึงปี พ.ศ. ๒๕๕๑ ก็ได้มีญาติโยมมานิมนต์ท่านให้ไปจำพรรษาที่วัดจำปาวนารามม.๓ ต.ถ้ำใหญ่ อ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช เพื่อมาช่วยบำรุงพัฒนาพุทธศาสนสถาน และมาช่วยสงเคราะห์ญาติโยม ในยามที่ญาติโยมเดือนร้อนหรือทุกข์ใจ

ต่อมาเมื่อถึงวันที่ ๖ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๕๓ พ่อท่านชอบก็ได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดจำปาวนารามจนถึงปัจจุบันนี้ สำหรับที่วัดจำปาวนารามพ่อท่านชอบก็ได้สร้างผลงานทางด้านพุทธศาสนสถานไว้มากมาย จนทำให้วัดจำปาวนารามเจริญด้วยถาวรวัตถุจนถึงทุกวันนี้

พ่อท่านชอบ โชติธมฺโม

ด้านการศึกษาพุทธาคมไสยเวทย์

พ่อท่านชอบ ท่านมีความชอบในด้านไสยศาสตร์ไสยเวทย์ อักขระเลขยันต์ มนต์คาถา มาตั้งแต่เด็กๆ โดยท่านมีอาจารย์คนแรกก็คือโยมพ่อของท่าน โยมพ่อของท่านได้ถ่ายทอดพุทธาคมให้ตั้งแต่ยังเด็กๆ โยมพ่อของท่านร่ำเรียนอะไรมา รู้อะไรเกี่ยวกับไสยศาสตร์ หรือจะเป็นอักขระเลขยันต์ โยมพ่อก็ได้ถ่ายทอดให้พ่อท่านชอบจนหมดสิ้น เพื่อให้พ่อท่านชอบเรียนไว้เพื่อป้องกันตัวและเพื่อสืบต่อพุทธาคมไว้ให้คงอยู่สู่รุ่นลูกสู่รุ่นหลานต่อไป

ต่อมาเมื่อพ่อท่านชอบมีอายุได้ประมาณ ๒๗-๒๘ ปี ท่านได้เจอกับฆราวาสอาจารย์สักชื่อดังในสมัยนั้น ที่เชี่ยวชาญเรื่องอักขระเลยยันต์ เชี่ยวชาญทางด้านเวทมนต์คาถา เชี่ยวชาญทางด้านไสยศาสตร์ คือ อาจารย์รังสรรค์ รังสิตสวัสดิ์ในสมัยนั้นในแถบจังหวัดนครศรีธรรมราชและจังหวัดใกล้เคียงน้อยนักที่ใครจะไม่รู้จักอาจารย์รังสรรค์

อาจารย์รังสรรค์ท่านโด่งดังมากทั้งในเรื่องไสยเวทย์หรือแม้แต่เรื่องหน้าที่การงาน เพราะท่านทำงานอยู่กรมรถไฟหลวงหรือปัจจุบันคือการรถไฟแห่งประเทศไทย ท่านเคยเป็นนายสถานีร่อนพิบูลย์ จ.นครศรีธรรมราช

พ่อท่านชอบ โชติธมฺโม

ต่อมาได้ย้ายไปเป็นนายสถานีโคกคราม จ.นครศรีธรรมราช และสุดท้ายท่านได้ย้ายไปรับตำแหน่งสารวัตรเดินรถแขวงหาดใหญ่ อาจารย์รังสรรค์ท่านเป็นหลานเขยของท่านขุนพันธรักษ์ราชเดช เนื่องจากภรรยาของอาจารย์รังสรรค์เป็นหลานของท่านขุนพันธรักษ์ราชเดช อาจารย์รังสรรค์ท่านเคารพนับถือท่านขุนพันธรักษ์ราชเดชมากและจะเรียกท่านขุนพันธรักษ์ราชเดชว่า (อาขุน) และอาขุนก็รักเอ็นดูเมตตามากกับหลานเขยท่านนี้

เวลามีพิธีไหว้ครูของอาจารย์รังสรรค์ ถ้าท่านขุนพันธรักษ์ราชเดชไม่ติดราชการด่วนหรือธุระสำคัญจริงๆ ท่านขุนพันธรักษ์ราชเดช ก็จะมาเข้าร่วมพิธีไหว้ครูของอาจารย์รังสรรค์ตลอด

อาจารย์รังสรรค์ได้เรียนวิชาสืบพุทธาคมจากสายเขมร ซึ่งอาจารย์ท่านเป็นคนเขมรและได้มาบวชอยู่ในประเทศไทย คือหลวงพ่อประสงค์ พุทธเสโรหลวงพ่อประสงค์ได้ถ่ายทอดสรรพวิชาให้อาจารย์ประสงค์จนหมดสิ้น จากนั้นอาจารย์รังสรรค์ยังได้ฝากตัวเป็นศิษย์และได้สืบทอดพุทธาคมจากพ่อท่านหมุน ยสโร แห่งวัดเขาแดงตะวันออก เกจิชื่อดังของจังหวัดพัทลุงด้วย และอาจารย์รังสรรค์ก็ยังได้เรียนวิชาเพิ่มเติมกับอาจารย์อีกหลายท่าน

กลับมาพูดถึงเรื่องของพ่อท่านชอบเมื่อพ่อท่านชอบได้เจอกับอาจารย์รังสรรค์ท่านก็ได้ติดตามรับใช้อยู่กับอาจารย์รังสรรค์อยู่เป็นเวลานาน กว่าอาจารย์รังสรรค์จะไว้เนื้อเชื่อใจเมตตาสอนวิชาให้ก็ใช้เวลานานพอสมควร

พ่อท่านชอบ โชติธมฺโม

พ่อท่านชอบเล่าว่า เมื่ออาจารย์รังสรรค์ไว้เนื้อเชื่อใจท่าน ตอนแรกท่านก็เมตตาสอนวิชาให้แค่บางส่วนเท่านั้น พ่อท่านชอบก็ได้ฝึกฝนวิชาที่อาจารย์รังสรรค์สอนให้ด้วยความเพียรขยัน ฝึกฝนอย่างตั้งใจจนสุดท้ายอาจารย์รังสรรค์ได้เห็นถึงความตั้งใจจริงในการร่ำเรียนวิชาของพ่อท่านชอบ อาจารย์รังสรรค์จึงได้ทำพิธีครอบมือให้พ่อท่านชอบรับพ่อท่านชอบเป็นศิษย์เอกเพื่อที่จะให้พ่อท่านชอบได้สืบพุทธาคมทุกสิ่งทุกอย่างที่อาจารย์รังสรรค์ได้ร่ำเรียนมา

และเพื่อให้พ่อท่านชอบได้เป็นตัวแทนสืบพุทธาคมของอาจารย์รังสรรค์เพื่อช่วยเหลือลูกศิษย์ในภายภาคหน้าต่อไปการที่อาจารย์รังสรรค์จะทำพิธีครอบมือให้ไม่ใช่เรื่องง่ายๆที่ใครๆจะได้รับการทำพิธีครอบมือจากอาจารย์รังสรรค์ได้ มีลูกศิษย์ลูกหามากมายหลายท่านที่อยากจะทำพิธีครอบมือแต่สุดท้ายก็ไม่มีใครได้ทำพิธีครอบมือจากอาจารย์รังสรรค์ มีเพียงแค่พ่อท่านชอบเท่านั้นที่ได้รับการทำพิธีครอบมือจากอาจารย์รังสรรค์

ต่อมาเมื่อพ่อท่านชอบได้ทำพิธีครอบมือแล้ว อาจารย์รังสรรค์ก็ได้สอนวิชาสอนพุทธาคมให้จนหมดสิ้น หลังจากนั้นก็ให้พ่อท่านชอบช่วยอาจารย์รังสรรค์สักให้ลูกศิษย์ลูกหาที่ศรัทธาเป็นต้นมา สำหรับเส้นสายลายยันต์ทุกๆองค์ยันต์ที่ติดอยู่คู่กับสังขารของพ่อท่านชอบ ล้วนแล้วแต่อาจารย์รังสรรค์ได้เมตตาสักให้พ่อท่านชอบเองกับมือ

ต่อมาอาจารย์รังสรรค์ก็ได้พาพ่อท่านชอบไปกราบหลวงปู่หมุน ยสโร แห่งวัดเขาแดงตะวันออก จ.พัทลุง พ่อท่านหมุนก็ได้ทำพิธีเสกน้ำมันงา จากที่น้ำมันงาเป็นของเหลว เสกเสร็จกลับกลายเป็นไขเป็นก้อนเหมือนสีผึ้ง แล้วพ่อท่านหมุนก็ได้ป้อนให้พ่อท่านชอบกินก้อนน้ำมันงาเสกนั้นด้วย ในคืนนั้นเองพ่อท่านหมุนก็ได้ถ่ายทอดวิชาการเสกน้ำมันงาให้

พ่อท่านชอบ โชติธมฺโม

มีอยู่ครั้งหนึ่งในงานพิธีไหว้ครูของอาจารย์รังสรรค์พ่อท่านชอบได้เล่าว่า ขณะทำพิธีอยู่นั้นได้มีงูบองหลา (งูจงอาง) ตัวใหญ่มาก ได้เลื่อยเข้ามาอยู่ในกลางพิธี ลูกศิษย์ลูกหาที่มาเข้าร่วมพิธีต่างตกใจกันเพราะงูบองหลาทุกคนก็รู้ดีว่ามีความดุร้ายและมีพิษร้ายแรงขนาดไหน หลังจากที่งูบองหลาเลื่อยเข้ามาอยู่กลางพิธี อาจารย์รังสรรค์ได้ท่องคาถาและพูดออกมาว่า ” อย่าทำไรใครนะ ”

คืออย่าทำอันตรายใครนะหลังจากนั้นงูบองหลาตัวนั้นก็เหมือนถูกมนต์สะกด นอนสงบแน่นิ่ง ลูกศิษย์ลูกหาที่อยู่ในพิธีก็เข้าไปจับไปลูบงูตัวนั้น แต่งูก็ได้นอนแน่นิ่งราวเหมือนกับว่าเป็นสัตว์ที่เราเลี้ยงไว้จนเชื่องแล้ว งูบองหลาตัวนั้นไม่ได้ทำอันตรายลูกศิษย์ท่านใดเลย จนอาจารย์รังสรรค์ได้พูดออกมาว่า ” ออกไปได้แล้วลูกศิษย์ทุกคนได้ประจักษ์ถึงความศักดิ์สิทธิแล้ว ” จากนั้นงูบองหลาตัวนั้นก็ได้เลื่อยออกไปจากพิธี

ในสมัยก่อนประวัติของพ่อท่านชอบเมื่อตอนเป็นฆราวาสก็ไม่ธรรมดาเหมือนกัน ท่านได้ช่วยตำรวจจับโจรผู้ร้ายมานักต่อนัก หลายคดีที่คดีปิดลงได้ก็เพราะพ่อท่านชอบองค์นี้ ระยะหลังมาเมื่อมีโจรผู้ร้ายออกอาละวาดทั้งชาวบ้านหรือแม้แต่ตำรวจเองก็ยังมาตามให้พ่อท่านชอบไปช่วยจับ

พ่อท่านชอบ โชติธมฺโม

แต่พ่อท่านชอบท่านช่วยโดยไม่เคยหวังสิ่งตอบแทนแต่อย่างใด ไม่เคยแม้แต่สักครั้งที่ไปช่วยแล้วจะต้องเรียกเงินเรียกทอง พ่อท่านชอบท่านช่วยด้วยความเต็มใจเสมอ มีอยู่ครั้งหนึ่งเมื่อพ่อท่านชอบช่วยจับโจรผู้ร้ายและปิดคดีลงได้แล้ว มีนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ระดับผู้บังคับบัญชาได้บอกให้พ่อท่านชอบทำหนังสือขอความดี แต่พ่อท่านชอบก็หาได้ทำไม่ ท่านบอกว่า

“ ไม่รู้จะขอไปทำไมความดงความดี ก็ที่เราทำอยู่ก็คือความดีอยู่แล้ว แล้วจะขอไปทำไมอีก ที่ช่วยเพราะช่วยด้วยความเต็มใจ ”

ปัจจุบันหลวงพ่อชอบ อายุ ๙๑ ปี ๒๐ พรรษา ได้ใช้วิชาไสยศาสตร์ ช่วยเหลือผู้คนที่เดือดร้อนและศรัทธามาตลอด เช่น ดูดวงชะตา ผูกคอรถ พรมน้ำมนต์ รักษาคนไข้อีกทั้งท่านยังสร้างและปลุกเสกวัตถุมงคลของท่านเอง เช่น เหรียญ ขุนแผน วัวธนู เสือ สีผึ้ง พระว่าน และท่านบอกว่าเวลาท่านว่างจากต้อนรับญาติโยม

ท่านพูดว่าเวลาว่างมีสมาธิและจิตไม่คิดวุ่นวาย ท่านจะเขียนผ้ายันต์ ทำตะกรุต มีทั้งตะกรุตโทน ตะกรุตจักรพรรดิ์ ๓ ดอก ท่านว่านี้เป็นการฝึกจิตและปฏิบัติไปในตัว…

โดย : พญาเสือนอนกิน – รวบรวมและเรียบเรียง