วิธีสะเดาะเคราะห์ ด้วยตนเอง ให้หลุดจากเคราะห์ หลุดจากอันตราย ภัย สิ่งที่ไม่ดี

5332
views
สะเดาะเคราะห์

ปฏิบัติตามคำคนโบราณเอาไว้บ้างไม่ควรดูหมิ่นว่างมง่ายไร้สาระ!! การแก้เคราะห์กรรมนั้นเราสามารถทำเองได้โดยไม่ยุ่งยากอะไรนัก โดยทั่วไป ความเข้าใจของเรา เคราะห์ คือ ผลแห่งกรรมนั้นเอง ที่มีทั้งกรรมฝ่ายไม่ดีและกรรมฝ่ายดี

เศร้า

กรรมฝ่ายไม่ดีคือกรรมชั่ว หรือ อกุศลกรรม ที่ให้เกิดผลเป็นโทษเบียดเบียนตนเองและผู้อื่นให้เดือดร้อน การประพฤติผิดในศีลธรรม ประพฤติทุจริตต่างๆ

กรรมฝ่ายดี เรียก กุศลกรรม หรือกรรมดี คือความดีเป็นเครื่องชำระล้างความชั่ว เช่น รักษาศีล ประพฤติธรรมที่คู่กับศีล หรือแม้กิจการที่ดีที่ชอบ ถ้าให้เกิดผลเป็นคุณเกื้อกูลแก่ตนเองและผู้อื่นก็เป็นกรรมดี

แต่ในความเข้าใจของคนนั้น ถ้าพูดถึงเคราะห์จะหมายถึง ความไม่ดี ความเป็นอัปมงคล ความหายนะ จึงเป็นที่มาของความพยายามที่จะทำให้ตนเองหลุดจากเรื่องไม่ดีเหล่านี้

เศร้า

ดังนั้น การสะเดาะเคราะห์ ก็คือ ทำให้หลุดจากเคราะห์ หลุดจากอันตราย ภัย สิ่งที่ไม่ดี

ในหลักของพระพุทธศาสนาแล้ว ไม่มีเรื่องของการทำพิธีอะไรทั้งสิ้น แต่สอนให้เราทุกคนมุ่งทำกรรมดีละเว้นความชั่ว ซึ่งก็น่าจะเพียงพอแล้วสำหรับการหนีความทุกข์เหล่านั้น มีการยอมรับผลกรรมที่เราเคยทำ กรรมใดที่พอจะไปขออโหสิกรรมได้ก็รีบทำ ทุกข์ร้อนเหล่านั้นจะได้ผ่อนคลายลง

เราจะต้องรู้ว่า เรามีอะไรเป็นเหตุให้เกิดความทุกข์ เกิดเคราะห์ร้ายขึ้นในชีวิต เมื่อพบเหตุนั้นแล้วตัดเหตุนั้น คือไม่ประพฤติ ไม่ปฏิบัติในเรื่องนั้นต่อไป อย่างนี้เรียกว่า สะเดาะเคราะห์เด็ดขาด เคราะห์ร้ายจะไม่เกิดขึ้นแก่เราต่อไป

แต่อย่างไรก็ตาม ความเชื่อในเรื่องของการสะเดาะเคราะห์ การสืบชะตาชีวิต การตัดกรรม การแก้กรรมนั้น ยังคงฝังรากลึกในความเชื่อของคนไทยมาช้านาน เพราะเชื่อว่าเมื่อได้ทำการสะเดาะเคราะห์ด้วยวิธีการต่างๆ แล้วชีวิตจะได้ดีขึ้น

วิธีสะเดาะเคราะห์ เห็นผลใน ๑ เดือน

๑. ปล่อยสัตว์ที่กำลังชะตาขาด เช่น ปล่อยปลา ที่กำลังจะโดนฆ่า เวลาซื้ออย่าต่อราคา ซื้อตามกำลังทรัพย์

๒. ทำบุญให้ทาน ให้ชีวิต ให้ทรัพย์ ให้เครื่องอุปโภคบริโภค ให้สิ่งที่เขาขาดแคลน

๓. ทำบุญตามหลักทางศาสนา ให้ทำบุญอย่างพอดี ไม่ทำจนตัวเองเดือดร้อน

๔. รักษาศีล ไม่เบียดเบียนผู้อื่น เป็นมหากุศล เป็นเกราะคุ้มครองตัวเอง

๕. หมั่นอนุโมทนาบุญทุกเช้า เช่น เห็นคนใส่บาตร ก็อนุโมทนา ยินดีกับคนที่ทำความดี เพื่อให้จิตมีความเมตตา

ใส่บาตร

๖. ให้นั่งสมาธิ หรือ สวดมนต์ ถ้าทำทุกวันไม่ได้ ให้ทำวันพระ ใหม่ ๆ นั่งแค่ 5 นาที ก็พอ

๗. ทำความดีให้ได้มากที่สุด อย่าได้ขาด จะได้ทำดีได้ทุกวันอย่างเต็มกำลัง

๘. ขอขมากรรม เจ้ากรรมนายเวร และเราต้องอโหสิกรรมให้ผู้อื่นด้วย

๙. ถวายสังฆทาน อย่าซื้อถังเหลือง ซื้อ น้ำดื่ม หนังสือธรรมมะ ไม้กวาด ยาสระผม มีดโกน รองเท้าแตะ ผ้าไตร พร้อมกรวดน้ำแผ่เมตตา

๑๐. ถวายพระประจำวันเกิด

เพื่อน

ลองดูครับ คนที่มีเคราะห์ ไม่ต้องไปดูหมอดูเข้าทรงที่ไหนครับ ทำได้ทุกวันต่อเนื่อง ๑ เดือน ชีวิตคุณจะดีขึ้น อย่างน้อยสุดก็ดีกว่าไปให้หมอ

เรียบเรียงบทความ ขอขอบคุณท่านผู้เป็นเจ้าของเครดิตภาพ เพื่อใช้ในการแสดงประกอบเนื้อหาสาระข้อมูลนี้