ห้อยพระถูกโฉลกโชคมหาศาล

4369
views
ห้อยพระถูกโฉลก

เรื่องของการห้อยพระก็เคยเขียนไปแล้ว มาบบทนี้จะสรุปอีกครั้งให้ทราบแบบที่มาที่ไปเพื่อให้มีกำลังใจที่ดีและถูกต้องมากขึ้น สำหรับคนไทยนั้นถือว่าเป็นเรื่องมงคลเป็นอย่างยิ่ง

เป็นการเข้าถึงพระพุทธเจ้าด้วยอุบายอันแยบยลของครูบาอาจารย์ แต่หลายคนคงยังสงสัยว่าจะเกิดมงคล เกิดโชคลาภได้อย่างไร และไม่เห็นจำเป็นต้องห้อยพระก็มีโชคลาภได้

พระสมเด็จหลวงปู่ทวด รุ่น555 ฉลองสัมพุทธชยันตี 2600ปี วัดพระมหาธาตุ

ซึ่งก็ต้องขอตอบว่าออกเป็น ๒ ประเด็น

ประเด็นที่หนึ่ง ในพระเครื่องของแต่ละองค์นั้นของครูบาอาจารย์นั้น เจตนาในการสร้างท่านถูกธรรม เพื่อนำคนให้ระลึกถึงพระพุทธเจ้า และปฏิบัติตนตามคำสอนของพระพุทธองค์ ถือว่าเป็นบุญกุศลใหญ่ ความมงคลนั้นเกิดขึ้นตั้งแต่เจตนาในการสร้าง

ขั้นตอนในการสร้างก็ยังมีมงคลเพิ่มขึ้นอีก เพราะได้นำเอามวลสารต่างๆ ที่ถือว่าศักดิ์สิทธิ์และมีความเป็นมงคลมาปั้น มาหลอม มาหล่อหรือทำให้เกิดรูป

สุดท้ายกว่าจะถึงมือผู้รับนั้น ครูบาอาจารย์ที่สร้างท่านจะทำการปลุกเสกด้วยพุทธมนต์ ที่ศักดิ์สิทธิ์รวมถึงมนต์คาถาที่เกิดมงคล ซึ่งอย่างต่ำนั้นน่าจะเป็น ๑๐๘ จบขึ้นไป ยิ่งได้ครูบาอาจารย์ที่มีบุญมากเป็นผู้สวดแล้ว พระเครื่ององค์นั้นจะยิ่งมีความเป็นมงคลมากขึ้นอีกกี่เท่าขอให้ลองคิดดู ยิ่งสร้างพระเครื่องที่มีคติเด่นในการให้ลาภเช่น พระสิวลี พระสังกัจจายน์ พระอุปคุต คนที่ห่อยหรือห้อยนั้นยิ่งมีโชคลาภได้ง่าย

พระนั่งศิลปแบบนั่งมารวิชัย

ประเด็นที่สอง เรื่องไม่เห็นจำเป็นต้องห้อยพระก็มีโชคลาภได้ ซึ่งจริงเป็นอย่างยิ่งแต่จะจริงสำหรับท่านผู้ปฏิบัติธรรมชั้นสูงที่เข้าใจธรรมทั้งหมด แต่สำหรับท่านที่ยังคิดว่าตนเองนั้นยังไปไม่ถึงระดับนี้ ขอแนะนำว่าควรจะห้อยพระ เพื่อให้จิตใจแนบแน่นกับพระพุทะเจ้าจะเป็นการดีที่สุด

เหมือนคนที่ร่างกายไม่แข็งแรงเท่าที่ควร เมื่อจะเดินขึ้นที่สูงเดินขึ้นบันได ต้องใช้ราวบันไดเป็นที่เกาะพยุงตัว แต่สำหรับท่านที่แข็งแรงหรือทราบว่าตนเองเป็นผู้ปฏิบัติชั้นสูงแล้ว ลึกซึ้งแนบแน่นในพระธรรมแล้ว ไม่ต้องมีพระ ไม่ต้องมีราวบันไดเกาะเลยก็ได้ หวังจะเข้าใจ และพิจารณาด้วยตนเองได้

การห้อยพระนั้น เป็นการห้อยเพื่อเป็นพุทธานุสติ เพื่อระลึกถึงคำสอนของพระพุทธองค์ รวมถึงวัตรปฏิบัติที่ดีงามของครูบาอาจารย์ผู้เป็นเจ้าของหรือเป็นผู้สร้างพระเครื่องนั้นขึ้นมา ซึ่งหากมองกันให้ลึกซึ้งนั้น หลายท่านก็จะรู้เท่าทันถึงแห่งอนิจจังที่ซ่อนอยู่ว่า คนสร้างก็ตาย คนทำก็ตาย คนห้อยก็ต้องตาย แต่ความดี บุญกุศลและกรรมนั้นยังคงอยู่ตลอดไปกาลนาน

คนที่ห้อยพระนั้น ต้องเป็นคนดีมีศีลธรรม สิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่อยู่ในองค์พระจะช่วยเมตตา แต่ท่านจะช่วยน้อยหรือมากอยู่ที่ตัวคนใส่ พระเครื่องหรือสิ่งของต่างๆที่เป็นมงคล ไม่มีการเสื่อมของดีนั้นไม่วันเสื่อมด้วยตัวเอง ส่วนผู้ใช้จะปฏิบัติดีปฏิบัติชอบหรือไม่เป็นอีกเรื่องหนึ่ง

เหมือนกับคำสวดที่ว่า นะโมฯ คำๆ นี้ไม่เคยเสื่อมแต่ผู้พูดปฏิบัติดีแค่ใหน การรักษาก็คือต้องสำรวม กาย วาจา ใจ อย่าให้ขาดตกบกพร่อง เดินตามรอยธรรมของพระพุทธองค์ หลวงพ่อคูณท่าน เคยบอกใว้ว่า ทองคำก็คือทองคำไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน พระเครื่องก็เช่นกัน ขึ้นอยู่กับว่าอยู่กับใคร

พระปิดตาและพระปรกโพธิ์พ่อท่านเจิม วัดหอยราก

หลักในการห้อยพระจะเป็นองค์เดียว ๒-๓-๔ ถึง ๙ องค์หรือมากกว่านั้น จะเป็นเลขคู่หรือเลขคี่นั้นแล้วแต่จริตความชอบ หลายคนบอกว่าคนโบราณนั้นห้อยเป็นเลขคี่แล้วแต่ความเชื่อ พระสงฆ์เวลานิมนต์ต้องเป็นเลขคี่ ซึ่งจะให้พิจารณาเรื่องหนึ่ง คำว่า คณะสงฆ์นั้นต้องครบ ๔ รูป ตามพุทธบัญญัติถึงจะทำสังฆกรรมได้ เรื่องของการห้อยพระจะเป็นเลขคู่หรือจะคี่จึงเป็นที่ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร

หากต้องการพุทธคุณด้านไหน ก็เลือกเอาตามความพอใจ จะเป็นเมตตา อำนาจ บารมี ค้าขาย แคล้วคลาด แต่ข้อแนะนำว่า องค์ที่เป็นประธานที่อยู่ตรงกลางนั้นเป็นองค์ที่สำคัญที่สุด ที่เหลือนั้นตามความพอใจลดหลั่นกันไป หลายคนยึดคติโบราณเอาความหมายเช่น มั่น มี ศรี สุข ก็คือ หลวงปู่มั่น หลวงปู่มี หลวงปู่ศรี หลวงปู่ศุข ที่เอาแต่เสียงที่ออกเสียงเหมือนกัน

หลายคนบอกว่า ห้อยพระหลายองค์ทำให้พลังศักดิ์สิทธิ์นั้นน้อย อย่าขอเรียนให้ทราบว่า พลังศักดิ์สิทธิ์นั้นท่านเท่ากันทุกองค์ เพราะมาจากพระพุทธเจ้าทั้งสิ้น แต่ตัวเราเองนั้นสำคัญว่า เป็นคนมีศีล มีบุญบารมีหรือไม่ซึ่งต้องสร้างขึ้นมาในชาตินี้เพื่อรวมกับบุญเก่า

พระปิดตาน้ำนมควาย พ่อท่านมุ่ย

เพราะ เมื่อเครื่องรับหรือตัวคนห้อยพระนั้นดี คลื่นศักดิ์สิทธิ์จากพระที่ห้อยอยู่ก็ส่งได้แบบได้ผลมาก ในทางกลับกันต่อให้พระนั้นมีพลังศักดิ์สิทธิ์มากเพียงใด แต่ตัวคนใส่นั้นไม่มีศีล พระท่านก็ไม่ช่วย คงเคยได้ยินเจ้าพ่อมหาโจรที่แม้แต่อมพระไว้ในปาก ยังโดนยิงเสียพรุน นักเลงโตห้อยพระเต็มคอแต่โดนเสียบด้วยมีดทีเดียวตาย

การห้อยพระตามอาชีพนั้น เป็นไปตามกรรมที่สะสมมาและถือว่าเป็นเรื่องดี เรื่องวิเศษอย่างยิ่งคนหลายคนยังไม่ทราบว่าอาชีพที่ทำอยู่นั้นเป็นไปตามกรรมที่ทำมาไม่ใช่เรื่องบังเอิญ คนที่เป็นพ่อค้าก็เพราะเคยเป็นพ่อค้ามาก่อน คนที่รับราชการก็เพราะเคยทำหน้าที่แบบนี้มาก่อนในอดีตชาติ

การที่ในชาตินี้ได้มีโอกาสครอบครองพระเครื่องไม่ว่าจะองค์ใด จะเป็นท่านใดสร้างก็ตามนั้นเป็นด้วยกรรมที่ผูกพันกับครูบาอาจารย์ที่ท่านสร้างขึ้นมาแน่นอน ซึ่งอาจจะเป็นในชาติใดชาติหนึ่ง ดังนั้นการสวมพระเครื่องตรงตามอาชีพของตนนั้นจะช่วยส่งเสริมให้ทำการใดมักจะสำเร็จตามที่ปรารถนา เพราะมีบุญบารมีของครูบาอาจารย์ที่สร้างมาช่วยเพิ่มหนุนนำ จากบุญเก่าและบุญใหม่ที่มีอยู่

พระอาจารย์เอียดดำ อริยวังโส

เช่น ถ้าค้าขายก็คงเน้นไปด้านเมตตามหานิยม โชคลาภที่ได้มาโดยง่ายก็ต้องเลือกพระเครื่องที่เด่นด้านนี้ อย่างเช่น หลวงพ่อพ่อปาน วัดบางนมโค ถ้าปลดหนี้สินก็ต้องเลือกด้านการขจัดอุปสรรคและการเงิน ก็ต้องหลวงปู่หลิว พญาเต่าเรือน ต้องการอำนาจบารมี ความสะดวกไหลลื่นในการทำงานก็ต้องพระสมเด็จ เด่นเรื่องรักษาโรคก็ต้องพระกริ่ง เป็นต้น ซึ่งในแต่ละพระเครื่อง แต่ละครูบาอาจารย์ท่านจะมีจุดเด่นพาะตัวออกไป

ถ้าพระเครื่ององค์นั้น ครูบาอาจารย์ท่านมีข้อกำหนดในการใช้คาถากำกับไว้ ก็ต้องสวดให้ครบถ้วนตามที่ท่านกำหนดไว้ขอให้จำง่ายๆ ว่า มีของดีแล้วต้องอาราธนาพระ ปลุกพระและปลุกตนเองด้วยถึงจะดีจริง

ควรทำบุญและอุทิศบุญไปให้ครูบาอาจารย์ที่สร้างอย่างสม่ำเสมอเพื่อเชื่อมบุญระหว่างตัวเรากับท่านให้กระชับเข้ามาใกล้กันมากขึ้น ครูบาอาจารย์ที่ท่านสร้างและมีวัตรปฏิบัติดีนั้น บางองค์นั้นเป็นพระอรหันต์ บางองค์เป็นพระโพธิสัตว์ การได้ทำบุญและเชื่อมบุญกับท่านนั้นเป็นบุญใหญ่มาก

พระพุทธสิหิงค์ หลักเมือง จ.นครศรีธรรมราช

เคล็ดลับสำคัญอยู่ที่ตอนเชื่อมบุญหรือตอนอุทิศบุญให้กล่าวดังนี้

ข้าพเจ้า (ชื่อ – นามสกุล)……ขอน้อมเอาผลบุญทั้งหลายทั้งปวงที่เกิดขึ้นจาก (กล่าวชื่อของทาน อาทิ ถวายปัจจัย ทรัพย์สินเงินทอง ถวายกฐิน ผ้าป่า สิ่งของ ฯลฯ (ตลอดจน การให้อภัยทาน ให้ธรรมทาน การรักษาศีล และการเจริญภาวนา(ถ้ามี))ในครั้งนี้/วันนี้/

*เมื่อเวลา……สถานที่……(ในกรณีที่ไม่ได้กล่าวอุทิศ ในสถานที่ทำบุญนั้น แต่กลับมากล่าวอุทิศในที่พัก ที่บ้าน ในภายหลัง)

เพื่อโมทนาในบุญบารมี พระคุณความดีทั้งหลายทั้งปวงของ……(ครูบาอาจารย์ที่สร้างหรือรูปเหมือนของท่าน) บุญบารมีพระคุณความดีใด ๆ ที่……(ครูบาอาจารย์ที่สร้างหรือรูปเหมือนของท่าน)……ได้บำเพ็ญมาดีแล้ว ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ข้าพเจ้าขอโมทนาในบุญบารมีพระคุณความดีนั้นทั้งหมด และขอให้ข้าพเจ้าได้มีส่วนในบุญบารมีพระคุณความดีของ……(ครูบาอาจารย์ที่สร้างหรือรูปเหมือนของท่าน) นั้น ด้วยเทอญ

พระยืนปางลีลา

*** ธรรมใด ที่(ครูบาอาจารย์ที่สร้างหรือรูปเหมือนของท่าน) ได้ถึงที่สุดแล้ว ก็ขอให้ข้าพเจ้า ได้เข้าถึงซึ่งธรรมนั้น เจริญตามรอย(ครูบาอาจารย์ที่สร้างหรือรูปเหมือนของท่าน) ด้วยเทอญ โมทนาสาธุ ๆ ๆ

*** ใช้ได้กับทุกพระองค์ ทุกท่าน ทั้งที่ยังมีชีวิตอยู่ และละสังขารไปแล้ว

*** หลังจากนั้น ถ้าเราจะขอพรเพื่อความสำเร็จต่าง ๆ ก็ให้ว่าไป โดยเป็นเรื่องที่ถูกต้องตามธรรม

และอย่าลืมที่กล่าวไว้เสมอว่า การที่จะมีโชคลาภนั้นต้องเป็นผู้มีบุญ เรื่องนี้ก็ถือว่าเป็นการเพิ่มบุญให้กับตนเองอีกช่องทางหนึ่ง

พระสมเด็จ พ่อท่านบุญให้ จ.นครศรีธรรมราช

ขอให้ทำทุกครั้งเมื่อทำบุญหรือก่อนที่จะห้อยพระหรือนึกได้เมื่อใด ก็เพิ่มบุญเมื่อนั้น

จากหนังสือเรื่อง สุดยอดวิชาศักดิ์สิทธิ์ เล่ม ๓ ทำแล้ว รวยโคตร โดย ธ.ธรรมรักษ์