“โรคหัวใจ” สาเหตุอันดับหนึ่งที่ทำให้คนเสียชีวิต เป็นโรคที่ใกล้ตัวคนเรามากกว่าที่คิด โดยเกิดมาจากพันธุกรรม อายุ พฤติกรรมการใช้ชีวิตที่ไม่ดี เช่น ไม่ออกกำลังกาย สูบบุหรี่ การรับประทาน ซึ่งการรับประทานผักและผลไม้ในแต่ละวันน้อยเกินไปก็มีส่วนเช่นกัน เป็นต้น
การรับประทานอาหารที่ดี มีประโยชน์นั้นจะสามารถช่วยให้ลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคดังกล่าวได้ เราจึงควรรับประทานอาหารที่มีไขมันต่ำ แคลอรีต่ำ หลีกเลี่ยงไขมันอิ่มตัว ไขมันทรานส์ ลดการบริโภคเครื่องดื่มและอาหารที่มีน้ำตาลสูง เน้นการบริโภคผักและผลไม้หลากสีให้มากขึ้น โดยองค์การอนามัยโลกแนะนำให้บริโภคผักและผลไม้ในปริมาณไม่ต่ำกว่า 600 กรัมต่อวัน
และนี่ก็คือตัวอย่าง ผักผลไม้ที่ดีต่อใจ

ทับทิม
ทับทิมอุดมไปด้วยวิตามินซีสูง อีกทั้งยังมีสารต้านอนุมูลอิสระมากมาย รวมทั้งโพลีฟีนอลและแอนโทไซยานิน จึงมีส่วนช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ยังมีสรรพคุณเป็นยารักษาโรคได้ เช่น บำรุงหัวใจ ช่วยยับยั้งและลดการแข็งตัวของหลอดเลือด ช่วยบรรเทาอาการของโรคหัวใจ รักษาความดันโลหิตสูง

แตงโม
ผลไม้ฤทธิ์เย็นที่อุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุหลายชนิด เช่น แคลเซียม เหล็ก แมกนีเซียม โพแทสเซียม ฟอสฟอรัส วิตามินเอ วิตามินบีวิตามินซี เป็นต้น ในแตงโมมีสาร “ไลโคปีน” (Lycopene) ที่เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ที่มีส่วนช่วยลดความเสี่ยงการเกิดโรคหัวใจได้ อีกทั้งยังช่วยให้ระบบหมุนเวียนของเลือดดีขึ้น และช่วยรักษาโรคหลอดเลือดแดงแข็งตัวได้

บลูเบอร์รี
บลูเบอร์รี เป็นอาหารที่ดีสำหรับผู้ป่วยโรคหัวใจ เพราะมีสารต้านอนุมูลอิสระสูง มีสารแอนโทไซยานิน (Anthocyanin) และฟลาโวนอยด์ ถือได้ว่าเป็นอาหารที่ดีสำหรับผู้ป่วยโรคหัวใจ เพราะช่วยทำให้กล้ามเนื้อหัวใจแข็งแรง มีส่วนช่วยลดการอักเสบของหลอดเลือดอันเป็นสาเหตุของโรคหัวใจ ช่วยลดความดันโลหิตและขยายหลอดเลือดหัวใจได้ดี

อะโวคาโด
ผลไม้ที่มีเนื้อมันเป็นเนย อุดมไปด้วยวิตามิน และแร่ธาตุหลากหลายชนิดที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพกาย รวมไปถึงสุขภาพหัวใจด้วย หากคนที่มีความเสี่ยงโรคหัวใจ รับประทานอะโวคาโดก็ช่วยได้ เนื่องจากในอะโวคาโดมีไขมันชนิดดี (HDL-cholesterol) สูงถึง 15 กรัม มีคุณสมบัติในการช่วยลดไขมันเลว (LDL-cholesterol) ในหลอดเลือด มีส่วนช่วยทำให้คอเรสเตอรอลน้อยลง ช่วยป้องกันการสะสมของไขมันในเส้นเลือด ช่วยลดโอกาสเสี่ยงของโรคเส้นเลือดหัวใจตีบและโรคหัวใจวายได้

มะเขือเทศ
มะเขือเทศอุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุหลากหลายชนิด ไม่ว่าจะเป็นแคลเซียม ฟอสฟอรัส ธาตุเหล็ก วิตามิเอ วิตามินบี 1 วิตามินบี 2 วิตามินซี โดยมะเขือเทศมีสรรพคุณมากมาย อีกทั้งยังมีส่วนช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคหัวใจ ช่วยป้องกันการเกิดโรคหัวใจขาดเลือด ช่วยลดความเสี่ยงจากการเกิดภาวะเส้นเลือดตีบ การเกิดโรคหัวใจวายสำหรับผู้ที่สูบบุหรี่เป็นประจำ เป็นต้น

ต้นหอม
ผักหารับประทานง่ายที่นิยมนำไปกินเป็นผักเคียง และโรยหน้าอาหารชนิดต่างๆ เพื่อเพิ่มสีสันและเพิ่มคุณค่าในสารอาหาร ต้นหอมนั้นมีสรรพคุณที่ดีต่อหัวใจ เพราะช่วยป้องกันไขมันไม่ให้เกาะตามผนังเส้นเลือด ช่วยลดอัตราเสี่ยงในการเป็นโรคหลอดเลือดหัวใจ และโรคเส้นเลือดสมองอุดตัน หากนำต้นหอม 5-6 ก้าน ต้มกับขิง 2 แว่น กรองเป็นน้ำดื่มจะช่วยในการขับเหงื่อ บำรุงหัวใจ และลดไข้ได้

บรอกโคลี
บรอกโคลีมีส่วนช่วยบำรุงหัวใจ เพราะประกอบไปด้วย ลูทีน แคโรทีนอยด์ วิตามินบี 6 และโฟเลต สารอาหารเหล่านี้มีผลโดยตรงในการช่วยลดความเสี่ยงของโรคหัวใจ และหลอดเลือดสมองได้
หมายเหตุ : การป้องกันโรคหัวใจต้องอาศัยองค์ประกอบหลายๆ อย่าง เช่น การควบคุมอาหาร การออกกำลังกาย การนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอร่วมด้วย เพื่อสุขภาพที่ดีของตัวคุณเอง
โดย : ผู้จัดการออนไลน์
Ⓜ️ เรื่องที่น่าสนใจ |

15 ข้อควรทำ ลดความเสี่ยงการเกิดโรคความดันโลหิตสูง ✔️ ลดการกินอาหารเค็ม ✔️ ลดการกินอาหารที่มีโซเดียมสูง ✔️ ลดการกินอาหารหมักดอง ✔️ ลดการกินอาหารตากแห้งต่างๆ ✔️ ลดการกินอาหารที่มีผงชูรส อาหารสำเร็จรูป ✔️ ลดการกินอาหารที่มีไขมันจากสัตว์ น้ำมันจากสัตว์ และเนื้อสัตว์ติดมัน ✔️ ลดการกินแป้งและน้ำตาล ✔️ เลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ✔️ เลือกรับประทานผัก-ผลไม้ทุกมื้อ ✔️ เลือกรับประทานถั่วและธัญพืชเป็นประจำ ✔️ นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย ✔️ ควบคุมน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ ✔️ ออกกำลังกายเป็นประจำทุกสัปดาห์ ✔️ ผ่อนคลายความเครียดอย่างเหมาะสม ✔️ งดสูบบุหรี่ งดดื่มสุรา 6 น้ำสมุนไพรลดความดันโลหิตสูง 1.น้ำกระเจี๊ยบแดง กระเจี๊ยบแดงเป็นสมุนไพรที่มีการนำมาใช้รักษาโรคหัวใจและโรคประสาทมาอย่างยาวนานในประเทศอียิปต์ มีแร่ธาตุและวิตามินสูง และยังมีฤทธิ์ช่วยขับปัสสาวะ ช่วยลดความดันโลหิตอย่างมีประสิทธิภาพ มีส่วนช่วยในการเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้แข็งแรง 2.น้ำขิง ขิงเป็นสมุนไพรรสเผ็ด สามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้หลากหลาย มีส่วนช่วยในการลดน้ำตาลในเลือด ปรับสมดุลของระบบไหลเวียนของเลือด…

ข้อมูลการศึกษาจากสมาคมโรคไตแห่งประเทศไทยพบว่าคนไทยป่วยเป็นโรคไตเรื้อรัง ถึง 8 ล้านคน โดยคิดเป็นร้อยละ 17.6 ของประชากรประเทศไทย โดยมีผู้ป่วยโรคไตเรื้อรังระยะสุดท้ายนับแสนราย และมีจำนวนเพิ่มขึ้นต่อเนื่องถึงร้อยละ 15-20 ต่อปี หากไม่ได้ทำการรักษาที่ถูกต้อง จะเกิดโรคแรกซ้อนถึงเสียชีวิตได้ โรคไต เป็นโรคที่เกิดจากความผิดปกติที่บริเวณไตที่พบมาก คือ โรคไตวายเฉียบพลัน ไตวายเรื้อรังจากโรคเบาหวาน หรือโรคความดันโลหิตสูง โรคไตอักเสบจากโรคแอลเอสอี โรคถุงน้ำดีที่ไต และโรคนิ่ว พฤติกรรมที่ส่งผลร้ายต่อไต 1.ทานเค็มจัด 2.กลั้นปัสสาวะบ่อย 3.ทานหวานจัด 4.ทานยาแก้ปวดมาก 5.ดื่มน้ำน้อย 6.ทานโปรตีนมากไป 5 วิธีป้องกันและชะลอการเสื่อมของไต ดูแลตัวเองง่าย ๆ เพื่อลดความเสี่ยงต่อการเป็นโรคไต 1. ดื่มน้ำให้เพียงพอ วันละ 6-8 แก้ว การดื่มน้ำเป็นสิ่งสำคัญต่อร่างกายอย่างที่ทุกท่านทราบกันดี โดยทั่วไปควรดื่มน้ำวันละ 6-8 แก้วต่อวัน ขึ้นกับปริมาณน้ำที่สูญเสียไป เช่นวันที่อากาศร้อนเสียเหงื่อมากก็ควรจะดื่มน้ำมากกว่าปกติ วิธีสังเกตง่าย ๆ ว่าอาจดื่มน้ำไม่เพียงพอคือปัสสาวะจะมีสีเข้มกว่าปกติเนื่องจากไตพยายามเก็บน้ำอย่างเต็มที่ หากสังเกตเห็นแบบนี้แล้วควรรีบดื่มน้ำเพื่อให้ไตสามารถทำงานได้อย่างราบรื่น 2.…

อาหารทะลวงหลอดเลือด - “ไขมันในเลือดสูง” ใครได้ยินแบบนี้ตอนไปตรวจสุขภาพคงแทบจะเป็นลม ปัญหาสุขภาพที่เกิดจากอาหารการกิน ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพได้อีกมากมายไม่ว่าจะเป็นโรคหัวใจ หลอดเลือดอุตตัน ที่ล้วนแต่เป็นอันตรายแทบทั้งนั้น ไม่อยากป่วยเพราะตามใจปากละก็ ลองมาลิ้มลองอาหารลดไขมันในเลือดชาทุกชนิดนั้นล้วนแต่มีประโยชน์ในการลดระดับไขมันในเส้นเลือด แต่ที่ถือว่ามีสรรพคุณเด็ดดวงสุด ๆ ก็อย่างเช่น 1. ชาขาว ชาขาว ซึ่งมีสรรพคุณเป็นสารต้านอนุมูลอิสระต่อต้านมะเร็ง แถมยังช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลชนิดที่ไม่ดีในเลือดได้อีกด้วย นอกจากนี้ยังมีชาดำที่เรานิยมดื่มก็สามารถช่วยลดไขมันในเส้นเลือดได้มากขึ้นอีกด้วย ฉะนั้นใครที่กังวลเรื่องระดับไขมันในเส้นเลือด ก็เปลี่ยนจากเครื่องดื่มที่ดื่มเป็นประจำมาจิบชาร้อน ๆ ก็ดีเหมือนกันนะ 2. ข้าวโอ๊ต ธัญพืชสุดเบสิกอย่างข้าวโอ๊ต ที่นอกจากจะสามารถช่วยลดความอ้วนได้แล้ว ก็ยังช่วยลดปริมาณไขมันในเส้นเลือดได้อีกด้วย เนื่องจากข้าวโอ๊ตมีไฟเบอร์สูง อีกทั้งยังช่วยลดความเสี่ยงโรคหัวใจได้ ไม่ว่าจะนำมาผสมกับนมและผลไม้รับประทาน หรือนำไปเป็นส่วนผสมในคุกกี้ ก็ได้รับประโยชน์อย่างเต็มที่ 3. ดาร์คช็อกโกแลต ในดาร์คช็อกโกแลตมีสาร ฟลาโวนอยด์ และสาร Antioxidants ซึ่งสามารถช่วยลดระดับ LDL ได้ แต่ควรกินในปริมาณที่พอเหมาะเพราะถึงยังไง ช็อกโกแลตก็มีปริมาณน้ำตาล และไขมันอิ่มตัวอยู่สูงเช่นกัน 4. ผัก ฝักส่วนใหญ่ล้วนแล้วแต่มีไฟเบอร์สูงและมีแคลอรี่ที่ต่ำ มะเชือม่วงและกระเจี๊ยบเขียวก็เป็นผักชนิดนึงที่มีไฟเบอร์ที่สูงมาก และมะเขือม่วงยังมีสาร…