ช่วงชีวิตของคนเราต้องมีทั้งจังหวะที่มีความสุข และมีความทุกข์ แต่เมื่อไหร่ก็ตามที่เราคิดว่าชีวิตตกอยู่ในช่วงขาลง สิ่งต่างๆรอบตัวไม่ค่อยได้ดั่งใจ รู้สึกทุกข์อยู่ภายในใจลึกๆ จนไม่รู้ว่าทางออกของทุกข์นั้นอยู่ตรงไหนก็ควรวางใจให้เย็น ปลดวางความทุกข์และสิ่งที่หนักอึ้งในใจไว้กลางทาง แล้วมาทำตาม ๑๕ วิธีดับทุกข์ในใจ คืนความสุขที่อยากได้ให้ตัวเอง
๑. ยอมรับว่าเราทุกข์ คือสิ่งแรกที่ต้องทำ เพราะเมื่อรู้ว่าทุกข์ จะได้หาสาเหตุของความทุกข์ และหาวิธีแก้ไขความทุกข์นั้น ๆ ได้ถูกทาง

๒. ระบายความทุกข์กับเพื่อนสนิท คนที่ไว้ใจได้ หรือญาติผู้ใหญ่ เผื่อจะได้ไอเดียดี ๆ มาดับทุกข์ในใจ หรืออย่างน้อยการระบายสิ่งที่อัดอั้นตันใจก็จะช่วยให้ใจรู้สึกโล่งสบายมากขึ้นได้
๓. เบี่ยงเบนความทุกข์ด้วยกิจกรรมสนุก ๆ เพื่อกันตัวเองออกจากสิ่งที่ทำให้รู้สึกเป็นทุกข์ เช่น ทำงานศิลปะ ปลูกต้นไม้ ทำงานอาสาสมัคร เป็นต้น
๔. ปรับเปลี่ยนสิ่งแวดล้อม จัดห้องใหม่ จัดมุมโต๊ะทำงานใหม่ เคลียร์ความรก ความวุ่นวายในชีวิต ซึ่งนับว่าเป็นการใช้ทั้งเวลาว่างให้เป็นประโยชน์ และช่วยเบี่ยงเบนตัวเองไม่ให้จมอยู่กับความทุกข์ด้วย
๕. สังสรรค์เฮฮาไปกับเพื่อน ใครชวนไปเที่ยวไหนก็พยายามไป พาตัวเองไปอยู่ในแวดวงสังคมสนุกสนาน เพื่อให้ใจได้ผ่อนคลายจากความทุกข์ไปบ้าง

๖. นั่งสมาธิ สงบจิตใจที่ฟุ้งซ่าน ดึงสติกลับมาคิดทบทวนต้นเหตุแห่งความทุกข์ แล้วเราอาจจะรู้วิธีจัดการความทุกข์นั้น ๆ ด้วยสติปัญญาที่มีได้
๗. ฟังเพลงที่ชอบ หรือเพลงที่มีจังหวะสนุกสนาน ให้เสียงเพลงกระตุ้นเคมีในสมองให้หลั่งออกมาช่วยเยียวยาความทุกข์ในใจ และปรับอารมณ์ความรู้สึกให้แจ่มใสมากขึ้น
๘. กอด นวด หรือได้รับสัมผัสจากใครสักคน โดยนักวิทยาศาสตร์บอกว่า การเยียวยาความทุกข์ด้วยสัมผัสจากใครสักคน ไม่ว่าจะด้วยการกอด จับมือ ลูบไล้ด้วยอาการปลอบประโลม สิ่งเหล่านี้จะช่วยให้ร่างกายหลั่งฮอร์โมนออกซิโตซิน ฮอร์โมนแห่งความสุข และยังช่วยลดฮอร์โมนแห่งความเครียดอย่างเจ้าฮอร์โมนคอร์ติซอลได้ด้วย

๙. อย่าโทษตัวเอง เพราะการโทษแต่ตัวเองจะยิ่งทำให้ทุกข์ และรู้สึกถึงคุณค่าตัวเองที่ลดลงเรื่อย ๆ ทำให้รู้สึกท้อแท้กับชีวิตไปกันใหญ่
๑๐. เขียนไดอารี่ระบายความทุกข์ในใจ ในกรณีที่ไม่สามารถจะบอกความทุกข์นั้น ๆ กับใครได้ ปากกากับกระดาษจะเป็นมิตรแท้ที่คอยซึมซับความทุกข์ของคุณเอง
๑๑.ให้อภัยผู้อื่น โดยเฉพาะหากความทุกข์ใจที่มีอยู่เกิดจากความโกรธแค้น ผิดหวัง หรือไม่พอใจใครสักคน การปล่อยวางความโกรธเกลียดจะช่วยปลดปล่อยความทุกข์ไปจากใจคุณได้ง่าย ๆ แค่เพียงคุณให้อภัยเขาเหล่านั้น
๑๒. ออกกำลังกาย ขยับร่างกายเรียกเหงื่อและเรียกฮอร์โมนเอ็นดอร์ฟิน ฮอร์โมนแห่งความสุขออกมาปลอบประโลมหัวใจสักหน่อย แล้วเราก็จะรับมือกับความทุกข์ได้

๑๓. หาทางออกให้กับปัญหา เมื่อปัญหาหมด ความทุกข์ใจก็จะหมดลงไปด้วย
๑๔. ทิ้งอดีตไว้กลางทาง อย่าไปเก็บเอามาจำ มาเก็บกอดไว้ในใจ ยิ่งหากอดีตที่ว่านั้นไม่ได้ทำให้ใจเป็นสุข และเราก็ไม่สามารถกลับไปแก้ไขหรือทำให้อะไรดีขึ้นได้ ก็ปล่อยให้อดีตกลายเป็นความทรงจำสีจางไปเสียเถอะ
๑๕. ปรึกษาจิตแพทย์ เพื่อรับการเยียวยาความทุกข์ที่ถูกกับความต้องการของตัวเอง โดยเฉพาะหากรู้สึกว่าใจเป็นทุกข์หนักมาก จนไม่สามารถดับทุกข์ด้วยตัวเองได้
แม้วิธีดับทุกข์ในใจบางข้ออาจจะทำให้หายทุกข์ได้ชั่วครั้งชั่วคราว ทว่าการได้หลุดออกจากภวังค์แห่งความทุกข์ใจบ้าง ก็น่าจะช่วยให้เราได้ฉุกคิดว่าในชีวิตยังมีสิ่งดี ๆ รอเราอยู่อีกเยอะ ฉะนั้นเรื่องอะไรเราจะต้องมาจมอยู่กับความทุกข์ใจไปวัน ๆ ทำชีวิตของตัวเองให้มีความสุข เพื่อตัวเราเองดีที่สุด
ขอบคุณ : กรมสุขภาพจิต กระทรวงสาธารณสุข
Ⓜ️ เรื่องที่น่าสนใจ |

บางครั้งเราก็รู้สึกเหนื่อย หมดกำลังใจ คุณอาจจะกำลังผ่าน ช่วงเวลาที่ยากลำบาก แต่อย่ายอมแพ้ เรียก ‘กำลังใจ’ ของคุณกลับคืนมา ทางเลือกสำหรับผู้มีปัญหาทุกข์ใจ นึกถึงพ่อแม่ เป็นอันดับแรก เป็นคนแรกในยามที่เรามีปัญหา โดยเฉพาะคนที่มีครอบครัวอบอุ่นติดบ้านและให้ความสำคัญกับครอบครัวเป็นอันดับหนึ่ง ความจริงการระบายทุกข์กับพ่อแม่นั้นไม่ใช่สิ่งที่จะต้องกลัว หลายคนกลัวไปสารพัด กลัวพ่อแม่จะตำนิ กลัวพ่อแม้ผิดหวังเสียใจ กลัวพ่อแม่ลงโทษ พ่อแม่เป็นบุคคลที่ใกล้ชิดสนิทสนมกับเรามากที่สุดท่านก็น่าจะเป็นคนที่เข้าใจเราสามารถที่จะบรรยายทุกข์ ปรับทุกข์ ได้ดีที่สุด แต่บางคนอาจบอกว่าไม่ใช่... เรื่องบางเรื่องปรึกษาพ่อแม่ไม่ได้ การคุยกับ ญาติพี่น้อง ผู้มีพระคุณ เพื่อนฝูง หรือคนที่เรารัก เพื่อนเพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเป็นสิ่งที่ดี ในยามที่เรามีปัญหา อย่างน้อยที่สุดการได้ระบายความรู้สึกออกมาก็พอจะทำให้เรารู้สึกผ่อนคลายว่ามีคนรับฟังเรา จะได้ไม่รู้สึกว่าโลกนี้มีแต่เราเพียงคนเดียว นึกถึงธรรมะ เพราะธรรมะเป็นเรื่องของการฝึกจิตใจให้ยอมรับความเป็นไปของโลกนี้ เมื่อเห็นทุกข์ทำให้เกิดปัญญาเพราะ "ทุกข์" เป็นข้อแรกของอริยสัจจ์ คนทั้งหลายพากันเกลียดกลัวทุกข์ อยากหนีทุกข์ ไม่อยากให้มีทุกข์เลย ความจริง ทุกข์นี่แหละจะทำให้เราฉลาดขึ้นล่ะ ทำให้เกิดปัญญา ทำให้เรารู้จักพิจารณาทุกข์ สุขนั่นสิมันจะปิดหูปิดตาเรา มันจะทำให้ไม่รู้จักอด ไม่รู้จักทน ความสุขสบายทั้งหลายจะทำให้เราประมาท กิเลสสองตัวนี้ทุกข์เห็นได้ง่าย ดังนั้นเราจึงต้องเอาทุกข์นี่แหละมาพิจารณา…

"พระองค์จึงทรงตรัสว่า บุคคลจะล่วงทุกข์ได้ด้วยความเพียร หรือ บุคคลจะก้าวล่วงทุกข์ได้เพราะปัญญา" โลกนี้เต็มไปด้วยปัญหา คนเต็มไปด้วยความทุกข์ ถ้าคนไม่มีสติปัญญาก็จะแยกไม่ออกว่าปัญหากับความทุกข์เป็น คนละส่วนกัน โลกมันไม่เที่ยง มันเคลื่อนไปเรื่อยๆ ปัญหา ก็เกิดขึ้นตลอดเวลา เช่น สุขภาพ เรารักษาเอาไว้ดีแล้ว ไม่นานก็ ป่วยอีก เพราะมันไม่เที่ยง ใครกำลังเผชิญอยู่กับความทุกข์ หากไม่สามารถจัดการ หรือหลุดพ้นกับความทุกข์นั้นได้ ไม่มีผู้ช่วยเหลือ คิดว่าตัวเองไร้ค่า ไม่มีความหมาย วันนี้มีวิธีพ้นทุกข์ง่าย ๆ ด้วยตัวเองมาฝาก เริ่มต้นจากการหยุดคิดถึงสิ่งร้าย ๆ ที่ทำให้เกิดทุกข์สักพักแล้วทำตาม 10 วิธีดังต่อไปนี้ 1. ให้คิดว่าทุกข์ที่เกิดขึ้นนี้เสมือนพายุฝนฟ้าคะนองที่โหมกระหน่ำ แต่อีกไม่นานพายุก็ต้องสงบลง วันที่ฟ้าใสยังรอคอยอยู่ 2. โทรศัพท์หาเพื่อนสนิท หรือศูนย์ฮอตไลน์ต่าง ๆ เพื่อพูดคุย เพื่อระบายความทุกข์ และความอัดอั้นตันใจออกมา อย่างน้อย ๆ พวกเขาเหล่านี้ก็เป็นผู้รับฟังที่ดี 3. มองสิ่งที่ดี ๆ ในตัวเอง…

เกิด แก่ เจ็บ ตาย..เป็นเรื่องปกติ ทุกข์-สุข ก็เป็นเรื่องปกติ แต่คนเรามักไม่ค่อยยอมรับความปกติเหล่านี้ว่ามันคือเรื่องธรรมดาของโลกที่ใคร ๆ ก็ต้องเผชิญ ความธรรมดาของโลกหรือที่ทางพุทธศาสนาเรียกว่าโลกธรรม 8 ที่บอกพวกเราว่าทุกสิ่งทุกอย่างบนโลกนี้ ไม่มีอะไรแน่นอน ไม่มีอะไรเป็นของใครทั้งสิ้น ทุกอย่างล้วนไม่จีรังยั่งยืน ทุกคนล้วนเกิดมาและจากไปด้วยความว่างเปล่า โลกธรรม 8 ประกอบด้วยความพอใจ ที่รัก ที่ปรารถนาของมนุษย์ ได้แก่ ลาภ ยศ สรรเสริญ สุข และความไม่พอใจ ไม่ปรารถนาของมนุษย์ ได้แก่ เสื่อมลาภ เสื่อมยศ นินทาว่าร้าย และทุกข์ ความธรรมดาของโลกนี้เอง ที่บอกให้เรารู้ว่าเมื่อมีลาภก็เสื่อมลาภ มียศก็เสื่อมยศ มีสรรเสริญก็มีนินทา มีสุขก็ต้องมีทุกข์เป็นสัจธรรมของมนุษย์ที่ใครก็หลีกหนีไม่ได้ แต่คนเราก็ยังพยายามสุดกำลังที่จะเลี่ยง จะหลีก จะโหยหาแต่ความพอใจที่ตัวเองปรารถนาเท่านั้น ทั้งที่รู้อยู่แก่ใจว่าเป็นไปไม่ได้เลยที่เราจะสุขสมหวังดังปรารถนาไปเสียทุกอย่าง แต่ก็ยังพยายามนำพาตัวเองไปสู่ความทุกข์ ทั้งที่ในความเป็นจริงแล้ว สิ่งที่เห็นหรือสิ่งที่เป็น วันหนึ่งมันก็หายไป หมดไป สูญสิ้นไปตามหลักธรรมดาของโลก ทุกข์ไม่ยั่งยืน ที่น่าแปลกก็คือเมื่อเป็นทุกข์…