จงหัดเป็นคนใจเย็น เพราะนั่นคือวิถีคนฉลาด

4004
views
จงหัดเป็นคนใจเย็น

เป็นอีกหนึ่งบทความที่ให้ข้อคิดดีๆ ถ้าอยากจะเป็นคนฉลาด ต้องจำ ๑๕ ข้อนี้ไว้ดีๆ

๑ ตื่นอย่างมีสติ แทนที่จะตื่นมาแล้วเช็คข่าวสาร จากโซเชียลมีเดียเป็นสิ่งแรกของวัน ให้เวลาตัวเองซัก ๕ ถึง ๑๐ นาทีนั่งสมาธินิ่งๆ ก่อนจะรับข่าวสารอื่นๆ เพื่อช่วยให้การเริ่มต้นวันใหม่เป็นไปอย่างมั่นคงในอารมณ์

๒ กินอย่างมีสติ บางครั้งเราก็ทานไปด้วยคุยโทรศัพท์ไปด้วย บางครั้งก็ทานไปด้วยดูจอทีวี จอมือถือไปด้วยแล้วครั้งสุดท้ายที่ทานอาหารทีละคำ รับรสชาติแล้วขอบคุณอาหารในมื้อนั้น คือเมื่อไหร่กันหรือ

คู่รัก

๓ เดินอย่างมีสติ เดินไปข้างหน้าด้วยความรู้สึกขอบคุณทุกสิ่งทุกอย่างขอบคุณร่างกายที่ยังมีกำลังมากพอให้สามารถเดินได้ ขอบคุณถนนหนทางที่สะดวกสบายมากพอจนเดินก้าวไปได้ และเดินด้วยใจกรุณาด้วยความรู้สึกว่าอยากสร้างแต่รอย ย่ำอันงดงามให้กับโลกใบนี้

๔ สนทนาอย่างมีสติ ฟังอย่างตั้งใจ ฟังโดยไม่คิดตัดสินคู่สนทนา เปลี่ยนสภาพตัวเองให้เป็นเหมือนภาชนะว่างเปล่า ที่พร้อมรับฟังบุคคลตรงหน้า ขณะที่เมื่อพูดก็ตระหนักถึงความงดงาม ของความสัมพันธ์ระหว่างคุณและคู่สนทนาสื่อสาร ด้วยความรัก ด้วยความหวังดีด้วยใจที่อยากจะสร้างสรรค์ความหมายดีๆ ระหว่างกัน

ทะเล

๕ ทำงานอย่างมีสติ ท่ามกลางมรสุมงาน และการติดต่อผู้คนมากมายตลอดวันเราก็สามารถฝึกสติรู้เนื้อรู้ตัวได้ง่ายๆ
เพียงหลับตาลง หายใจเข้าและออกลึกๆ สัก ๕ รอบลมหายใจ โดยให้สติตามลมหายใจโดยไม่คิดเรื่องอื่น แล้วค่อยกลับไป โฟกัสกับงานตรงหน้าใหม่อีกครั้ง

๖ ปล่อยวาง ไม่ยึดติดปัญหาที่เกิดขึ้นนทุกวันนี้ ส่วนหนึ่งก็เป็นเพราะคนเรามีอัตตามากเกินไปหากเราลองเปลี่ยนความคิด ไม่ยึดติดกับตัวตนแล้วลองคิดว่าสุดท้ายวันหนึ่งเราไม่อยู่แล้วและสลายไป วนเวียนเป็นวัฏจักรเช่นนี้เรื่อยไป เพราะฉะนั้นถ้าเรายอมรับกับวัฏจักรแห่งการเกิด ดับนี้แล้วไม่ว่าเรื่องใดๆ ก็คงเป็นเพียงเรื่องเล็กๆ น้อยๆ เท่านั้น

คู่รัก

๗ นับหนึ่งให้ถึงสิบ เริ่มจากวิธีพื้นฐานอย่างนับเลขในใจเวลาที่เราโกรธใครให้ลองนับหนึ่งถึงสิบ หรือจะนับถึงร้อย ถึงพัน ก็คงไม่มีใครว่า เพราะการนับเลขจะส่งผลให้เรามีสมาธิและยังได้มีเวลาไตร่ตรองคิดถึง สิ่งที่ผู้อื่นทำกับเรา และสิ่งที่เรากำลังคิดจะทำด้วย

๘ ฝึกสมาธิ การฝึกสมาธิให้ใจสงบนั้นมีหลายรูปแบบ จะนั่งสมาธิหรือเดินสมาธิก็ได้อย่างที่ผมเคยเขียนในเล่มก่อนๆว่าเมื่อมีสมาธิก็มีสติ เมื่อมีสติก็เกิดปัญญาเวลาเกิดปัญหาก็จะมีทางแก้ไข

๙ เข้าหูซ้ายทะ ลุหุขวาอย่าเพิ่งเข้าใจผิดนะครับ เพราะปกติแล้ว คำว่าฟังหูซ้ายทะ ลุหูขวา นั้นเขาใช้เปรียบเปรย
คนที่ฟังอะไรแล้วไม่สนใจ ไม่ใส่ใจไม่รับความคิดใหม่ๆ เข้ามาแต่ตอนนี้ผมกำลังหมายถึงถ้าเป็นเรื่องไม่เป็นเรื่องแล้ว
การฟังแบบเข้าหูซ้ายทะ ลุหูขวานั้นนับเป็นเรื่องที่ดี เพราะจะทำให้เราไม่ใส่ใจกับสิ่งที่ใครกล่าวมา

หากใจคนงาม โลกก็งาม

๑๐ คิดมากไปหรือเปล่า อาการคิดมากเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เกิด โรคเครียดได้ยิ่งอากาศร้อนๆ ยิ่งเหตุการณ์อะไรๆ ก็ไม่เป็นใจด้วยแล้วยิ่งทำให้ร้อนรน เมื่อเกิดเรื่องก็จะยิ่งเก็บมาคิดจนไม่เป็นอันกินอันนอน ลองเปลี่ยนจากความคิดเรื่องแย่ ๆ เปลี่ยนเป็นคิดเรื่องดีๆ บ้างสิครับ เพราะความคิดนั้น เป็นตัวกำหนดวิถีชีวิตของเราไม่เชื่อลองทำดู คิดดี ทำดี เท่านี้พอ

๑๑ ขอโทษ หากเราทำผิด การใช้คำว่าขอโทษนั้นถือเป็นเรื่องธรรมดาที่สุด ไม่ใช่เรื่อง ย า กเลยถ้าเราจะต้องเอ่ยคำขอโทษ เพราะคำๆ นี้ไม่ได้ทำให้ศักดิ์ศรีของเราตกต่ำลงหากแต่เป็นการรู้จักยอมรับในสิ่งที่ตนเองผิดต่างหากอีกทั้งยังจะทำให้สถานการณ์ที่เลวร้ายคลี่คลายลงได้อย่างไรก็ตามเราไม่ควรใช้คำขอโทษอย่างพร่ำเพรื่อ เพราะจะทำให้ติดเป็นนิสัยที่ไม่ดี ทำอะไรก็ไม่ระมัดระวัง

คู่รัก

๑๒ รู้เขารู้เรา บางครั้งแค่เราลองมองใส่ใจนิสัยของคนรอบข้างบ้างก็สามารถที่จะทำให้เราอยู่ร่วมกันในสังคมได้อย่างไม่ยากเย็น แต่เราจะต้องรู้จัก ระงับสติอารมณ์ของเราด้วยเพราะเมื่อเราทราบแล้วว่าเขาเป็นคนแบบนี้ หากเรารับนิสัยเขาไม่ได้ ก็ให้อยู่ห่างๆ เข้าไว้เป็นดีที่สุด จะได้ไม่ต้องมีเรื่องมีราวกัน

๑๓ ไม่หนีแต่ไม่ประทะ หากเราไม่สามารถ จะทำอะไรกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตรงหน้าได้แต่จะเก็บเอาไว้ก็กลัวจะกลายเป็นคนเก็บกดจะเดินหนีก็จะกลายเป็นคนไม่ยอมรับความจริงหากเกิดเหตุการณ์แบบนี้คงต้องใช้สติที่รอบคอบตัดสิใจในการแก้ปัญหารับฟังสิ่งที่ผู้อื่นว่ามา แล้วก็นำไปปรับปรุงในส่วนที่ไม่ดีหากแต่เป็นสิ่งที่เขาพูดพร่ำเพรื่อก็ไม่ต้องกังวลให้เสียเวลา เลิกคิดไปเลยไม่จำเป็นต้องไปต่อปากต่อคำด้วยเพราะการทำเช่นนั้น ไม่ได้ส่งผลดีอะไรขึ้นมาเลย

ธรรมโอสถ

๑๔ หายใจเข้าและออกลึกๆ การหายใจเข้าออกลึกๆ นานๆ จะทำให้เราได้มีสติยั้งคิดถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นและทำให้ร่างกายเราได้รับการผ่อนคลายจากลมหายใจที่รับเข้าและส่งออก ดังนั้นก่อนที่จะตัดสินใจทำอะไรลงไปในช่วงเวลาที่มีอารมณ์โกรธ ลองหายใจลึกๆ เข้า ออก อย่างช้าๆ จะช่วยให้สถานการณ์รอบข้างดีขึ้น

๑๕ ยิ้มแห่งสยาม รอยยิ้มสร้างโลกนี้ให้สดใสได้ เหมือนดังคำที่บอกว่าถ้าคุณยิ้ม โลกก็จะยิ้มให้คุณ เพียงแค่คุณไปไหนแล้ว มีแต่รอยยิ้มให้คนรอบข้าง คนรอบข้างก็จะอารมณ์ดีขึ้นไปด้วย