พ่อแม่ทุกคนก็อยากที่จะให้ลูกๆ ที่น่ารักของเราเป็นเด็กที่มีพฤติกรรมที่ดี การปลูกฝังลักษณะนิสัยที่ดีแก่ลูกน้อยตั้งแต่วัยเยาว์ เป็นส่วนหนึ่งที่จะทำให้ลูกประสบความสำเร็จในอนาคตได้ก่อนจะสายเกินไป วันนี้เรามีข้อแนะนำถึงการสร้างนิสัยที่ดีที่จะติดตัวลูกไปจนตลอดชีวิต มีอะไรบ้าง ไปดูกันเลย..
1. สร้างนิสัยความซื่อสัตย์
เพราะความซื่อสัตย์หากมีติดตัวไว้ เชื่อเลยว่าไปที่ไหนก็จะมีแต่คนรัก ลูกของคุณจะฟังคำพูด คำสอน และจดจำคำแนะนำต่างๆ จากคุณ ดังนั้นคุณควรสอนให้ลูกพูดความจริงอยู่เสมอ และหลีกเลี่ยงการโกหกทุกประเภทไม่ว่าเรื่องนั้นจะเป็นเรื่องเล็กเพียงใดก็ตามที่คุณอาจคาดไม่ถึง เช่น การพูดกับลูกว่า “อย่าไปบอกพ่อนะว่า วันนี้พวกเราได้กินลูกอมไปกันคนละเม็ด” หรือถ้าหากคุณจับได้ว่าลูกของคุณได้พูดโกหก คุณไม่ควรที่จะดุหรือแสดงท่าทีโมโหมากจนเกินไป รวมถึงควรสอนบทเรียนที่สำคัญให้กับลูก เพราะว่าแม้การพูดความจริงอาจจะไม่ง่ายและลำบากใจตนเอง แต่มันจะทำให้คนอื่นๆ รู้สึกดีเมื่อได้รู้ความจริง
2. สอนลูกให้เข้าใจคุณค่าของความล้มเหลวและความพยายาม
พ่อแม่จึงต้องอบรมและสั่งสอนลูกเรื่องความผิดพลาดว่าสามารถเกิดขึ้นได้ แต่ลูกก็ต้องผ่านพ้นมันไปให้ได้ แล้วลูกจะแข็งแกร่งขึ้นหลังจากที่พ่ายแพ้ เพราะคนเราไม่จำเป็นต้องชนะทุกอย่าง แต่การเรียนรู้ที่จะเติบโตผ่านประสบการณ์ นั่นเป็นสิ่งที่สำคัญมากกว่า
3. สร้างนิสัยความกล้าหาญ
คุณพ่อคุณแม่ควรสนับสนุนลูกในการทำสิ่งต่างๆ และเมื่อลูกทำสิ่งใดเสร็จก็ควรกล่าวชื่นชมอย่างเหมาะสม รวมถึงให้คำเสนอแนะอย่างตรงไปตรงมา หรือในกรณีที่ลูกกลัวที่จะทำสิ่งใด เช่น ลูกจะออกไปเล่นที่สนามเด็กเล่น แต่ไม่กล้าที่จะเข้าไปทำความรู้จักกับเพื่อนใหม่ๆ ดังนั้นคุณพ่อคุณแม่ควรให้คำแนะนำและให้กำลังใจลูก เช่น บอกให้ลูกหายใจเข้าลึกๆ แล้วเดินเข้าไปแนะนำตัวกับเพื่อนๆ และเมื่อลูกทำสำเร็จ คุณสามารถกล่าวชื่นชมลูกว่า “เก่งมาก แม่รู้ว่ามันยากแต่ลูกก็ทำได้ “ เป็นต้น
4. เลือกคบเพื่อนที่ดี
เชื่อเลยว่าถ้าสังคมดี ย่อมทำให้ลูกของเราเป็นเด็กที่ดีได้ด้วย ยิ่งช่วงเข้าสู่วัยรุ่นแล้ว ลูกเริ่มมีสังคมที่เปิดกว้าง เจอคนมากหน้าหลายตา และเป็นธรรมดาที่มีการติดเพื่อนจนไม่อยากกลับบ้านกลับช่อง คุณพ่อคุณแม่เองจึงต้องสอนเขาเรื่องการคบเลือกเพื่อนไว้บ้าง อย่างน้อยๆ เขาก็จะได้รู้ว่าควรคบเพื่อนในลักษณะแบบไหน หากชวนกันเล่น ชวนกันโดดเรียน การบ้านไม่ทำแบบนี้ ก็อาจจะทำให้ลูกคล้อยตามเพื่อนไปได้นั่นเองค่ะ
5. การรู้จัก “การเอาใจเขามาใส่ใจเรา” สร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับผู้อื่น
คุณพ่อคุณแม่ควรสอนให้ลูกคำนึงถึงจิตใจของคนอื่น รวมถึงแสดงให้ลูกรู้ว่า ถ้าเราทำดีกับคนอื่น คนอื่นก็จะทำดีกับเรา เพราะคำพูดและการกระทำที่ดีสามารถช่วยให้คนอื่นยิ้มและรู้สึกดีได้
6. ความรักการได้รับความรัก ดูแล เอาใจใส่ เป็นสิ่งที่สำคัญ
สอนให้ลูกรักคนอื่นเป็นด้วยความรักของคุณพ่อคุณแม่โดยการแสดงความรัก เช่น พูดคำว่า “พ่อ/แม่รักลูกนะ”, จูบหรือกอดลูกไว้เมื่อลูกทำดี หรือไม่จำเป็นต้องมีเหตุผลใดๆ ก็ได้ รวมถึงคุณพ่อคุณแม่สามารถเล่าถึงความรักและชื่นชมปู่ ย่า ตา ยาย ลุง ป้า น้า อา ให้ลูกฟังก็ได้ค่ะ สำหรับสิ่งสำคัญที่สุด คืออย่าให้แต่ละวันของลูกผ่านพ้นไปโดยไม่ได้รับความรักจากคุณพ่อคุณแม่ และคุณพ่อคุณแม่แสดงความรักทางด้วยวิธีการอื่นๆ ที่ลูกอาจคิดไม่ถึง เช่น ทำข้าวกล่องอาหารกลางวันให้ลูก หรือแปะสติ๊กเกอร์หัวใจไว้ที่ห้องน้ำเพื่อที่ลูกจะได้เห็นเวลาเข้าห้องน้ำ
7. รู้จักกับความผิดหวัง-รับมือกับความผิดหวัง
เพราะชีวิตจริงไม่มีใครสมหวังกับชีวิตทุกอย่าง เพราะเมื่อเด็กๆ โตขึ้นเขาจะพบกับความเปลี่ยนแปลงหลายๆ อย่าง ทั้งทางร่างกาย อารมณ์ อีกทั้งยิ่งโตขึ้นเด็กๆ ก็จะเจอกับปัญหาต่างๆ ที่ไม่คาดคิดมากขึ้นด้วย ทำให้คุณพ่อคุณแม่เองต้องสอนเขาเรื่องนี้เพื่อให้เขาเข้าใจในสัจธรรมความเป็นจริงให้ได้ สอนเขาว่าความผิดหวังยังไงทุกคนต้องประสบพบเจอ และลูกต้องผ่านพ้นมันไปให้ได้ หากผ่านมันไปได้ลูกก็จะสมหวังและจะกลายเป็นเด็กที่แกร่งกล้าขึ้นมาได้ เพราะคนเราไม่จำเป็นต้องสมหวังหรือชนะไปทุกสิ่งทุกอย่าง แต่สิ่งสำคัญเลยนั้นคือระหว่างทางลูกเจอหรือประสบพบเจออะไรบ้าง เพราะสิ่งนั้นมันจะทำให้ลูกโตขึ้นและกลายเป็นผู้ใหญ่ที่ดีได้นั่นเองค่ะ
8. สอนให้ลูกเป็นนักวางแผนที่ดี
เพราะการวางแผนถือเป็นสิ่งสำคัญในการดำรงชีวิตของคนในปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็นตั้งแต่ออกนอกบ้านคนเราก็ต้องเริ่มวางแผนแล้วว่าจะต้องทำอะไรก่อนหรือหลัง หรืออย่างการทำงานต่างๆ การวางแผนที่ดีก็เป็นเรื่องสำคัญเช่นกัน เพราะฉะนั้นก่อนเด็กๆ จะเติบโต คุณพ่อคุณแม่คงต้องรีบสอนเรื่องนี้กับเขาแล้วล่ะค่ะ การฝึกให้เขารู้จักวางแผนจะทำให้ชีวิตเขาง่ายขึ้น มีลำดับขั้นตอนในการคิดและทำในสิ่งต่างๆ ลองหากิจกรรมที่ทำร่วมกันไปกับลูก ก็เป็นสิ่งที่ดูน่าสนุกดีนะคะ ให้เขาได้ลองวางแผนและเราก็คอยช่วยเขาไปอีกทาง เรียกได้ว่าสอนไปด้วย สร้างความสัมพันธ์ไปได้ด้วย
9. ระวังคำพูดคำจาให้มาก
หลายคนจะเห็นว่าหากเจอเด็กๆ พูดจาไม่น่ารักกับผู้ใหญ่ เราเองยังรู้ได้เลยว่าเด็กคนนี้ดูไม่น่ารักจัง หรือบางคนก็อาจจะว่าไปถึงพ่อถึงแม่เลยก็ได้ว่าทำไมไม่สอนลูก ซึ่งการฝึกลูกเรื่องการระวังคำพูดคำจาตั้งแต่ยังเล็กที่ง่ายที่สุดเลย ก็คงต้องเริ่มจากคุณพ่อคุณแม่ที่ต้องเป็นแบบอย่างที่ดีก่อน เพราะเขาจะจดจำพฤติกรรมต่างๆ ของเรา ยิ่งเราพูดจาน่ารักกับลูก ลูกก็จะซึมซับในส่วนนี้ของเรา และจะทำให้เขากลายเป็นเด็กที่น่ารักได้เลยค่ะ
📷 Pixabay
