สาธุล้น! ชาวพุทธไทย-ลาว นับหมื่นร่วมพิธีแห่พระอุปคุต งานนมัสการองค์พระธาตุพนม ประจำปี 2566

540
views

นครพนม – งานนมัสการองค์พระธาตุพนมเป็นงานบุญประเพณียิ่งใหญ่ของภาคอีสาน และเป็นประเพณีความเชื่อ ที่ชาวพุทธ จากทั่วสารทิศจะเดินทางมากราบไหว้ทำบุญตามประเพณี โดยมีวัตถุประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกแก่พุทธศาสนิกชนในการบำเพ็ญกุศล เพื่อรักษาขนบธรรมเนียมประเพณีอันดีงามของชาวพุทธ และเผยแพร่เกียรติคุณของพระรัตนตรัย

วันที่ 29 มกราคม 2566 ที่บริเวณริมฝั่งแม่น้ำโขง หน้าวัดพระธาตุพนมวรมหาวิหาร อำเภอธาตุพนม จังหวัดนครพนม บรรยากาศเติมไปด้วยแรงศรัทธาของพุทธศาสนิกชนชาวไทย ชาวลาว ตลอดจนนักท่องเที่ยวกว่าแสนชีวิตที่เดินทางมารอร่วมประกอบพิธีอัญเชิญพระอุปคุตขึ้นจากแม่น้ำโขง เพื่อมาประดิษฐาน ณ พระวิหารหอพระแก้ว วัดพระธาตุพนมวรมหาวิหาร เนื่องในงานนมัสการองค์พระธาตุพนม ประจำปี 2566

หลังก่อนหน้านี้ 2 ปีมีสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด การจัดงานต้องอยู่ภายใต้มาตรการสาธารณสุข ทำให้หลายคนพลาดโอกาสที่จะมาร่วมงาน ดังนั้นในปีนี้แต่ละคนจึงมีการเตรียม ดอกไม้ ธูป เทียน ตลอดจนเครื่องสักการะต่างๆ มาร่วมพิธีเป็นจำนวนมาก

เพื่อขอพรให้พระอุปคุตคุ้มครอง ปกปักรักษา ป้องกันภยันตรายต่างๆ ให้กับตนเองและครอบครัว เพราะเชื่อว่าท่านมีอิทธิฤทธิ์มาก เป็นพระอรหันต์ที่ปฏิบัติธรรมอยู่ที่หอแก้ววิหารใต้สะดือทะเล เมื่อมีเหตุเภทภัยเกิดขึ้นในพระศาสนา หรือมีพิธีกรรมใหญ่ๆ ทางพระพุทธศาสนา ท่านจะขึ้นมาช่วยเหลือคอยปกป้องคุ้มครองด้วยความเต็มใจเสมอ

เวลา 8.00 น. นายวันชัย จันทร์พร ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม ประธานฝ่ายฆราวาส และพระเทพวรมุนี ที่ปรึกษาเจ้าคณะภาค 10 เจ้าอาวาสวัดพระธาตุพนมวรมหาวิหาร ประธานฝ่ายสงฆ์ ก็ได้นำพุทธศาสนิกชนที่มาร่วมงาน สวดมนต์ไหว้พระและประกอบพิธีอัญเชิญพระอุปคุตขึ้นจากแม่น้ำโขง

โดยหลังพิธีสวดอัญเชิญพระอุปคุต นายปรัตถกร บุสาวรรณกร นายอำเภอธาตุพนม พร้อมด้วย พลเรือตรี สมาน ขันธพงษ์ ผู้บัญชาการหน่วยเรือรักษาความสงบตามลำแม่น้ำโขง พันเอก สมหมาย บุษบา รองผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 210 พันตำรวจเอก จุลฤทธิ์ จุลกะ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครพนม และนายสรรชัย ธ.น.ตื้อ นายกเทศมนตรีตำบลธาตุพนม ได้เป็นผู้แทนพุทธศาสนิกชนดำน้ำลงไปอัญเชิญพระอุปคุตขึ้นมาจากใต้ลำแม่น้ำโขง ก่อนที่จะส่งต่อให้กับประธานในพิธีอัญเชิญไปประดิษฐาน ณ พระวิหารหอพระแก้ว

ซึ่งตลอดระยะทางที่อัญเชิญพุทธศาสนิกชนทั้งชาวไทย ชาวลาว ตลอดจนนักท่องเที่ยวจะมีการโปรยดอกไม้และโปรยทาน ตลอดจนการร่ายรำบวงสรวง การแห่ต้นกัลปพฤกษ์ ต้นผึ้ง ต้นเทียน ขันหมากเบ็ง บายศรีหลวง การแสดงของแต่ละชนเผ่าและคณะนักแสดง เต๋า ภูศิลป์ ที่มาร่วมขบวนแห่ โดยในภาคบ่ายจะมีพิธีเปิดงานนมัสการองค์พระธาตุพนม โดยพลตำรวจเอก อดุลย์ แสงสิงแก้ว ที่เป็นลูกพระธาตุพนมและข้าโอกาส

สำหรับงานนมัสการองค์พระธาตุพนมนั้น ถือเป็นประเพณีที่สำคัญยิ่งของพุทธศาสนิกชนทั้งสองฝั่งโขง ที่ถือปฏิบัติสืบทอดต่อกันมาแต่โบราณ เพราะเชื่อว่าถ้าใครมีโอกาสได้กราบไหว้พระธาตุพนม ที่เป็น 1 ในพระสถูปมหาเจดีย์อันศักดิ์สิทธิ์ บรรจุพระอุรังคธาตุหรือกระดูกส่วนหน้าอกขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า พร้อมกับถวายเครื่องสักการบูชาหน้าองค์พระธาตุพนม จะทำให้มีจิตใจสงบเยือกเย็น และถ้ายังไม่บรรลุนิพพานในชาตินี้ เมื่อตายไปวิญญาณจะได้ไปสู่สรวงสวรรค์ ทำให้เมื่อครบรอบวันนมัสการองค์พระธาตุพนมในแต่ละปีจะมีพุทธศาสนิกชนจากทั่วทุกสารทิศ หลั่งไหลกันมาร่วมพิธีเป็นจำนวนมาก

โดยในปีนี้งานจะมีไปจนถึงวันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2566 ซึ่งในแต่ละวันจะมีกิจกรรมปฏิบัติบูชาให้ทุกคนได้ร่วมประกอบพิธีทั้งการกราบนมัสการองค์พระธาตุพนม การห่มผ้าพระธาตุพนม การแห่กองบุญ การตักบาตรคู่อายุ การถวายข้าวพีชภาค การฟังพระธรรมเทศนา และการเวียนเทียนรอบองค์พระธาตุพนม นอกจากนี้ยังมีการจำหน่ายสินค้าพื้นบ้าน สินค้า OTOP ให้ผู้ที่มาร่วมงานได้เลือกหาไปฝากคนทางบ้านด้วย

ข้อมูลต้นฉบับ