10.00 น. วันที่ 7 พ.ย. ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมการแก้ไขปัญหาการฉ้อโกงประชาชนผ่านทางสื่อสังคมออนไลน์ (แก๊งคอลเซ็นเตอร์) โดยมีนายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รมว.กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม(ดีอีเอส) และ พล.ต.อ.ดำรงค์ศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. เข้าร่วมประชุม
โดยสถิติการดำเนินคดีทางอาชญากรรมออนไลน์ที่สำคัญในปี 2565 มีการปิดกั้นข้อความ SMS/โทรหลอกลวง จำนวน 76,165 หมายเลข และดำเนินคดีแก๊ง Callcenter ในต่างประเทศ จำนวน 6 ครั้ง มีการจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับ จำนวน 166 ราย รวมถึงอายัดบัญชีม้าจำนวน 40,198 บัญชี และปิดกลุ่มโซเชี่ยลมีเดียซื้อขายบัญชีม้า จำนวน 6 กลุ่ม
ส่วนการดำเนินคดีเกี่ยวกับการหลอกลวงลงทุน – ระดมทุนออนไลน์และหลอกลวงทางการเงิน จำนวน 653 คดี มีผู้ต้องหาจำนวน 747 ราย,การปราบพนันออนไลน์ โดยดำเนินคดีกับเว็บไซต์ ที่กระทำความผิดจำนวน 312 คดี มีผู้ต้องหาจำนวน 403 ราย และปิดกั้นเว็บไซต์พนันจำนวน 1,507 เว็บไซต์, การหลอกลวงซื้อขายสินค้าบริการออนไลน์ ดำเนินคดีจำนวน 469 คดี และมีการจับกุมผู้ต้องหาจำนวน 490 ราย
นอกจากนี้ ที่ประชุมวางแนวทางมาตรการเร่งด่วนแก้ไขปัญหาการฉ้อโกงทางออนไลน์ 6 มาตรการ ได้แก่
1. การเร่งรัดปราบปรามการฉ้อโกงออนไลน์ 5 ด้านดังนี้
1.1 แก๊ง Call Center
1.2 บัญชีม้า
1.3 การหลอกลวงลงทุน-ระดมทุนออนไลน์และหลอกลวงทางการเงิน
1.4 การพนันออนไลน์ และ
1.5 การหลอกลวงซื้อขายสินค้าบริการออนไลน์
2. การป้องกันธุรกรรมทางการเงินผิดกฎหมาย
3. การป้องกันการใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่ผิดกฎหมาย
4. การเพิ่มประสิทธิภาพในการตัดวงจรอาชญากรรม
5. การยกระดับการเตือนภัยออนไลน์และสร้างการรับรู้ต่อประชาชน และ
6. การเร่งรัดพัฒนากฎหมาย และขยายผล
พล.อ.ประวิตร ย้ำอีกว่า รัฐบาลให้ความสำคัญที่จะปกป้องประชาชนจากมิจฉาชีพเพื่อป้องกันความเสียหายที่จะเกิดขึ้น รวมถึงการปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี เพื่อสร้างการรับรู้และเกิดความเชื่อมั่นให้ประชาชน และขอให้กระทรวงดิจิทัลฯ เร่งสรุปมาตรการเร่งด่วนแก้ไขการฉ้อโกงออนไลน์ เสนอคณะรัฐมนตรีภายใน 10 วัน