“โรคฉี่หนู” อันตรายที่มาพร้อมกับฝน เกิดจากการลุยน้ำขัง ย่ำโคลน แช่น้ำนานๆ เชื้อเข้าร่างกายผ่านบาดแผล หรือผิวหนังอ่อนนุ่ม หรือแค่รอยถลอก รอยขีดข่วน
โรคฉี่หนู Leptospirosis เป็นโรคที่พบได้ในช่วงฤดูฝน โดยน้ำฝนจะชะล้างเอาเชื้อโรคต่างๆ จากสภาพแวดล้อมไหลมารวมกันอยู่ในบริเวณที่น้ำท่วมขัง โรคฉี่หนูเกิดจากเชื้อก่อโรคฉี่หนู ซึ่งเป็นแบคทีเรียที่ชื่อว่า เลปโตสไปรา (Leptospira sp.) ที่อยู่ในปัสสาวะของสัตว์ที่เป็นพาหะ เช่น หนู สุกร โค กระบือ สุนัข เป็นต้น โดยสัตว์ที่เป็นพาหะอาจไม่แสดงอาการแต่มีการติดเชื้อที่ท่อไตทำให้มีการปล่อยเชื้อออกมากับปัสสาวะ ซึ่งเชื้อจะแบ่งตัวเพิ่มจำนวนอยู่ในบริเวณที่น้ำท่วมขังตามดิน โคลน แอ่งน้ำ ร่องน้ำ น้ำตก แม่น้ำ ลำคลอง และสามารถมีชีวิตอยู่ได้นานเป็นเดือน ขึ้นอยู่กับสภาพแวดล้อม
ลักษณะอาการของโรคฉี่หนู มีไข้สูงทันทีทันใด ปวดศีรษะ ปวดตามตัว ปวดกล้ามเนื้ออย่างรุนแรง โดยเฉพาะน่องและโคนขา ( หลังลุยน้ำ 1 – 2 สัปดาห์ ) โรคฉี่หนูจะมีอาการคลื่นไส้ อาเจียน ท้องเสีย ตาแดง หากมีอาการดังกล่าวให้รีบพบแพทย์ทันที และแจ้งประวัติการเดินลุยน้ำ ย่ำโคลน หรือการสัมผัสน้ำแก่แพทย์ผู้รักษาให้ทราบด้วย หากไม่รีบรักษาและปล่อยไว้นานจนอาการมากขึ้นอาจเสียชีวิตได้
การป้องกันการติดเชื้อ จะปลอดภัยจาก “โรคฉี่หนู” ได้อย่างไร?
- เลี่ยงการลุยน้ำ ย่ำโคลน หรือการแช่น้ำนาน ๆ
- สวมรองเท้าบูท ถุงมือยางหากจำเป็นต้องลุยน้ำ
- กรณีซึ่งมีบาดแผลตามร่างกาย หรือแค่รอยถลอก รอยขีดข่วน ปิดพลาสเตอร์ หากมีแผลป้องกันแผลโดนน้ำ
- ทานอาหารปรุงสุก
- ทำความสะอาดบ้าน กำจัดขยะไม่ให้เป็นที่อยู่อาศัยของหนู กำจัดหนูตามแหล่งที่อยู่อาศัย ป้องกันหนูชุกชุม