รักนิรันดร์..!! ‘ตาวัย 72’ เก็บศพเมีย นอนเฝ้านาน 21 ปี เป็นรักแรกทำใจพรากจากกันไม่ได้ ผ่านชีวิตมาด้วยกัน

2318
views

รักนิรันดร์!! “คุณตาวัย 72” เก็บศพเมีย นอนเฝ้านาน 21 ปี ทำใจไม่ได้ ผ่านเรื่องราวชีวิตมาด้วยกัน ตอนเจอปัญหาก็พูดคุยให้ฟัง เหมือนอยู่ด้วยกันตลอด ล่าสุดให้ลูกติดต่อ จนท.ประสานทำศพ กลัวไม่ได้บอกลาครั้งสุดท้าย

เมื่อวันที่ 30 เม.ย. ที่มูลนิธิเพชรเกษม กรุงเทพ ซอยรามอินทรา 23 แขวงท่าแร้ง เขตบางเขน กทม. นายบัญชา ศรีนิลพันธ์ รองประธานมูลนิธิฯ เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวกรณีคุณตาวัย 72 ปี เก็บร่างภรรยาที่เสียชีวิตด้วยโรคประจำตัวไว้ในบ้านพักนานกว่า 21 ปี ซึ่งเป็นรักแรกพบและรักนิรันดร์ ก่อนประสานให้ทางเจ้าหน้าที่นำไปประกอบพิธีกรรมทางศาสนาว่า เมื่อเวลา 10.00 น ของวันที่ 29 เม.ย.

โดย ที่ผ่านมา ร.ต.ชาญ จันทร์วัชรกาล อายุ 72 ปี อดีตข้าราชการแพทย์ทหารเกษียณอายุ เดินทางมาร้องขอความช่วยเหลือทางมูลนิธิเพื่อไปรับศพภรรยาที่เสียชีวิตจากโรคประจำตัวตั้งแต่ปี 44 และเจ้าตัวเก็บร่างไว้ดูต่างหน้าภายในเพิงพัก ซึ่งปลูกสร้างขึ้นมาในพื้นที่รกร้างย่านรามอินทรามานานกว่า 21 ปี เพื่อนำไปฌาปนกิจศพหลังเจ้าตัวเกรงว่าจะเสียชีวิตเสียก่อนเพราะเข้าสู่วัยชรา และอาจไม่มีโอกาสบอกลาคนรักเป็นครั้งสุดท้าย

รองประธานมูลนิธิฯ เผยว่า เมื่อเดินทางไปตรวจสอบยังสถานที่เกิดเหตุพบเป็นพื้นที่ว่างเปล่า โดยมีต้นไม้และเถาวัลย์ปิดปกคลุมไปทั่วบริเวณโดยรอบอยู่ในเนื้อที่ 195 ตารางวา พบเพิงพักปลูกสร้างด้วยปูนอยู่ด้านในสุดของสถานที่ดังกล่าว เมื่อเข้าไปสำรวจภายในพบศพผู้เสียชีวิตจริง ซึ่งอยู่ในสภาพแห้งกังนอนอยู่ในโรงศพ เมื่อสอบถามคุณตาจึงได้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า เมื่อช่วงปี 44 ภรรยา ซึ่งเป็นอดีตเจ้าหน้าที่กระทรวงสาธารณสุข ป่วยด้วยโรคความดันจนเป็นเหตุให้เส้นเลือดในสมองแตกและเสียชีวิตลงระหว่างการรักษาเพียง 3 วัน ที่โรงพยาบาลพระกุฎเกล้า

ก่อนคุณตาจะนำร่างคนรักไปสวดพระอภิธรรมศพที่วัดชลประทานรังสฤษดิ์ แต่ไม่ยอมเผา ส่วนสาเหตุนั้นเนื่องจากทำใจไม่ได้และขอนอนเฝ้าศพคนรักมานานกว่า 21 ปี ก่อนตัดสินใจขอความช่วยเหลือจากทางมูลนิธิเพราะเกรงว่าจะสิ้นอายุไขเสียก่อน

จากนั้นทางมูลนิธิจึงพาคุณตาไปยังสำนักงานเขตบางเขน พื้นรื้อค้นประวัติการเสียชีวิตของภรรยาโดยไม่พบข้อพิรุธแม้แต่อย่างใด ก่อนนำร่างไปฌาปนกิจศพที่วัดสาครสุ่นประชาสรรค์ในช่วงบ่ายของวันนี้ ตามความประสงค์ของคุณตา และจะประสานหน่วยงาน เนื่องจากตาไม่มีไฟฟ้าใช้ มีเพียงน้ำประปาจากเพื่อนบ้านคอยช่วยอนุเคราะห์

ด้านร.ต.ชาญ เปิดเผยว่า ระหว่างที่ตนอยู่กับศพภรรยาก็ใช้ชีวิตเหมือนอยู่ด้วยกันตามปกติ เมื่อตนมีเรื่องหรือปัญหาอะไรก็บอกกล่าวกับศพภรรยาให้รับรู้ทุกเรื่อง เสมือนช่วงชีวิตที่เราอยู่ด้วยกัน ส่วนสาเหตุที่ตนไม่เผาร่างภรรยาและเก็บไว้มานานกว่า 21 ปีนั้น เนื่องจากเป็นรักแรกพบและตลอดระยะเวลาที่คบกันไม่เคยมีเรื่องทะเลาะเบาะแว้ง อยู่กันด้วยความเข้าใจมาโดยตลอด ตนจึงทำใจไม่ได้ที่จะพลัดพรากจากกันไป สำหรับการตัดสินใจที่จะเผาศพภรรยาในครั้งนี้เนื่องจากตนเกรงว่าจะสิ้นอายุไขไปเสียก่อน จึงปรึกษากับบุตรชายเพื่อดำเนินการประสานให้ทางมูลนิธิเข้าช่วยเหลือเพื่อประกอบพิธีกรรมทางศาสนาต่อไป

บทความต้นฉบับ