เลี้ยงได้แค่ตัว!! น้ำตาแม่ ถูกลูกแท้ๆ ฟ้องดำเนินคดี ปมแย่งที่ดิน โอดป่วยมะเร็งตัดเต้านม

1260
views

เลี้ยงได้แค่ตัว น้ำตาแม่ ถูกลูกแท้ๆ ฟ้องดำเนินคดี ปมแย่งที่ดิน โอดป่วยมะเร็งตัดเต้านม รับราชการยังไม่เซ็นเบิกให้ ต้องเสียค่ารักษาเป็นล้าน

เมื่อช่วงเย็นวานนี้ (15 มี.ค. 65) ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจาก นางเสาวนิจ อายุ 83 ปี คุณยายชาวสวนย่านบางกรวย ที่อ้างว่าถูกลูกแท้ๆ ยื่นฟ้องศาลดำเนินคดีอาญาและแพ่งในข้อหา ยักยอกทรัพย์, แจ้งความเท็จ แต่คดีอาญาศาลยกฟ้อง เนื่องจากตามกฎหมายลูกที่สืบสันดานไม่สามารถฟ้องบุพการีแท้ๆ ได้ แต่ลูกชายยายเสาวนิจ ก็ยังไม่ยอมละเลิกการฟ้องในคดีแพ่ง ซึ่งจะต้องขึ้นศาลแขวงนนทบุรี ในวันที่ 5 เม.ย. 65 นี้ ทำให้คุณยายเสาวนิจ ถึงกับร้องไห้กินไม่ได้นอนไม่หลับ ไม่คิดว่าลูกที่เลี้ยงมากับมือจนโตและส่งเสียให้ได้เล่าเรียนจนสูงๆ กลับตอบแทนบุญคุณผู้เป็นแม่ได้ขนาดนี้

ยายนิจ เล่าให้ฟังว่า ตนอยู่กินแต่งงานจดทะเบียนสมรสกับสามี มานานกว่า 50 ปี มีลูกด้วยกัน 4 คน เป็นหญิง 3 คน และชาย 1 คน โดยคนโต อายุ 63 ปี, คนที่สองลูกชาย อายุ 61 ปี, คนที่สาม อายุ 58 ปี ส่วนคนที่สี่ อายุ 57 ปี (เสียชีวิตแล้ว) ช่วงที่ยังอยู่ในวัยหนุ่มสาวตนทำสวนเก็บเงินเก็บทองจนซื้อที่ดินเก็บไว้หลายแห่งทั้ง จ.กาญจนบุรี นครปฐม และที่ๆ ตนอยู่ในปัจจุบันย่านบางกรวย ส่วนสามีก็เอาแต่กินเหล้าไม่ได้ช่วยทำมาหากินสักเท่าไร

ต่อมา สามีตนได้แบ่งที่ดินย่านบางกรวยให้ลูกทั้ง 3 คน คนละ 161 ตารางวา มูลค่าหลายสิบล้านบาท มีเพียงลูกสาวคนโตที่ไม่ได้ ซึ่งเรื่องนี้ตนเองเป็นภรรยาเป็นแม่กลับไม่รู้เรื่อง จึงไปสอบถามที่กรมที่ดินเพราะการแบ่งสมบัติให้ลูก ตนต้องรับรู้ ปรากฎพบว่า มีคนเซ็นชื่อแทนตนตอนนั้น ถ้าตนคิดจะดำเนินคดีสามีกับลูกก็ต้องติดคุก ลยปล่อยเลยตามเลยเ พราะเป็นสามีเป็นลูกของตน

หลังสามีเสียชีวิต ตนซึ่งเป็นภรรยาและจดทะเบียนสมรสถูกต้องตามกฎหมายได้ทำเรื่องและยกที่ดิน 161 ตารางวา ที่เป็นชื่อสามีให้กับลูกสาวคนโต เพื่อความยุติธรรมเท่าๆ กันทุกคน แต่กลับถูกลูกชายคนรอง ยื่นศาลฟ้องตนผู้เป็นแม่แท้ๆ ในคดี ยักยอกทรัพย์, แจ้งความเท็จ ที่นำที่ดินไปยกให้ลูกสาวคนโต โดยไม่บอกกล่าว แต่ศาลยกฟ้องในคดีอาญาเนื่องจากตามกฎหมายลูกที่สืบสันดานไม่สามารถฟ้องแม่บังเกิดเกล้าในคดีอาญาได้

กระทั่งต่อมา ลูกสาวคนเล็กเสียชีวิตลง คุณยายเสาวนิจ ซึ่งเป็นแม่จะต้องได้ที่ดิน 161 ตารางวาจากลูกสาวคืน ทำให้ลูกชายซึ่งรับราชการกรมอู่และรู้กฎหมายดี รีบเอาโฉนดของลูกสาวคนเล็กไปแจ้งกรมที่ดินว่า ถ้ามีใครมาขอคัดสำเนาโฉนด ห้ามอย่างเด็ดขาด ซึ่งเจ้าหน้าที่เองก็ชี้แจงว่า ที่ดินแปลงนี้ต้องเป็นของคุณยายเสาวนิจผู้เป็นแม่ตามกฎหมาย โดยคุณยายเองได้แจ้งเรื่องและทำตามขั้นตอนทุกอย่าง

จนเวลาผ่านมากว่า 10 ปี จู่ๆ คุณยายเสาวนิจ กลับถูกหมายศาลเรียกให้ไปขึ้นศาลในวันที่ 5 เม.ย. 65 ในฐานะผู้ต้องหาคดี ยักยอกทรัพย์, แจ้งความเท็จ โดยผู้ฟ้องไม่ใข่ใครกับเป็นลูกชายแท้ๆ

“ยายเสียใจมากๆ ส่งเสียเลี้ยงดูจนเขาเติบใหญ่ ได้งานได้การดีๆ ตอนยายป่วยเป็นมะเร็งเต้านมต้องตัดทิ้งข้างหนึ่ง เขารับราชการยังไม่ยอมมาเซ็นเบิกให้ตนเลย ตนต้องหมดเงินไปเป็นล้านๆ เพื่อรักษา โชคยังดีที่ยังมีลูกสาวคนโตและหลานมาช่วยเหลือดูแล มาเยี่ยมทุกวัน ส่วนลูกที่เหลือไม่เคยมาสนใจยายเลย ยายหวังว่าสักวันหนึ่งลูกที่เหลืออีกสองคนจะมากราบเท้าขอโทษยายที่เป็นแม่ 9 ปีกว่าแล้วที่ยายรอคอย แต่ไม่มีเลย กลับเป็นหมายศาลมาแทน” คุณยายนิจ กล่าวทั้งน้ำตา

บทความต้นฉบับ