การรถไฟฯ ประกาศปิดทางในเส้นทางสายใต้ ขบวนรถ 8 ขบวนต้องหยุดรอการเปิดทาง

1402
views

การรถไฟฯ ประกาศปิดทางในเส้นทางสายใต้ ช่วงระหว่างสถานีสวี – เขาสวนทุเรียน เป็นการชั่วคราว ขบวนรถ 8 ขบวนต้องหยุดรอการเปิดทาง เนื่องจากสถานการณ์น้ำท่วม

นายเอกรัช ศรีอาระยันพงษ์ ผู้อำนวยการศูนย์ประชาสัมพันธ์ การรถไฟแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า จากสถานการณ์ฝนตกหนักหลายจังหวัดในพื้นที่ภาคใต้ ทำให้เกิดน้ำท่วมเฉียบพลันและน้ำป่าไหลหลาก ส่งผลให้ช่วงค่ำวันนี้ (12 พ.ย. 2564) มีมวลน้ำไหลเข้าท่วมทางรถไฟระหว่างสถานีสวี – เขาสวนทุเรียน อำเภอสวี จังหวัดชุมพร ช่วงบริเวณหลักกิโลเมตรที่ 500/15 – 501/8 ระยะทางประมาณ 80 เมตร ส่งผลกระทบในด้านความปลอดภัยในการเดินรถ

การรถไฟฯ จึงมีความจำเป็นต้องประกาศปิดทางในเส้นทางสายใต้ ช่วงระหว่างสถานีสวี – เขาสวนทุเรียน เพื่อให้เหมาะสมกับสถานการณ์และความปลอดภัยในการเดินทางของผู้โดยสาร ตั้งแต่วันที่ 12 พฤศจิกายน 2564 เวลา 20.25 น. เป็นต้นไป นอกจากนี้ยังมีมวลน้ำไหลท่วมถนนเพชรเกษม ทำให้ไม่สามารถขนถ่ายผู้โดยสารทางรถยนต์ได้ จากเหตุการณ์ดังกล่าวส่งผลกระทบผู้โดยสารที่เดินทางมากับขบวนรถในเส้นทางสายใต้ ต้องหยุดรอการเปิดทาง จำนวน 8 ขบวน ดังนี้

1. ขบวนรถด่วนที่ 86 (นครศรีธรรมราช – กรุงเทพ) รอการเปิดทางที่สถานีหลังสวน
2. ขบวนรถด่วนที่ 84 (ตรัง – กรุงเทพ) รอการเปิดทางที่สถานีท่าชนะ
3. ขบวนรถด่วนพิเศษที่ 32 (ชุมทางหาดใหญ่ – กรุงเทพ) รอการเปิดทางที่สถานีละแม
4. ขบวนรถเร็วที่ 172 (สุไหงโกลก – กรุงเทพ) รอการเปิดทางที่สถานี ไชยา
5. ขบวนรถพิเศษขนส่งสินค้าห่อวัตถุด่วนที่ 986 (สุไหงโกลก – กรุงเทพ) รอการเปิดทางที่สถานีสุราษฎร์ธานี
6. ขบวนรถเร็วที่ 171 (กรุงเทพ – สุไหงโกลก) รอการเปิดทางที่สถานีชุมพร
7. ขบวนรถด่วนพิเศษที่ 31 (กรุงเทพ – ชุมทางหาดใหญ่) รอการเปิดทางที่สถานีชุมพร
8. ขบวนรถพิเศษขนส่งสินค้าห่อวัตถุด่วนที่ 985 (กรุงเทพ – สุไหงโกลก) รอการเปิดทางที่สถานีสะพลี

ทั้งนี้ การรถไฟฯ ได้สั่งการและกำชับให้เจ้าหน้าที่อำนวยความสะดวก ดูแลด้านความปลอดภัย จัดเตรียมอาหารและน้ำดื่มให้กับผู้โดยสารบนขบวนรถและภายในสถานี ตลอด 24 ชั่วโมง รวมทั้ง ให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเตรียมความพร้อมและเฝ้าระวังสังเกตการณ์ระดับน้ำตลอดเวลา

สำหรับผู้โดยสารที่ต้องการความช่วยเหลือ สามารถติดต่อพนักงานรถไฟ ตำรวจรถไฟ หรือ ศูนย์บริการลูกค้าสัมพันธ์ ได้ที่หมายเลขโทรศัพท์ 1690 ตลอด 24 ชั่วโมง

แหล่งข้อมูล : ทีมพีอาร์การรถไฟแห่งประเทศไทย