ดูชัดๆ!! เผาศพหนุ่มวัย 25 ชิ้นส่วนกระดูกพบตอกเลขตรงวันเกิด-วันตาย ญาติเชื่อถูกกำหนดไว้แล้ว

4035
views

จากกรณีที่เฟซบุ๊กชื่อ Arinnisa P Rainny ได้โพสรูปภาพพร้อมข้อความว่า “ใครจะเชื่อว่า เรื่องอัศจรรย์นี้ จะเกิดขึ้น กระดูกส่วนหัวมีแบบนี้ ซึ่ง สอดคล้องกับ วันเกิด วันตาย เทวดาเขากลับสวรรค์แล้วจริง ๆเขากำหนดมาแล้ว”

ผู้สื่อข่าวจึงได้ติดต่อสอบถามไปจนทราบว่า ผู้โพสต์ภาพดังกล่าว ในพื้นที่ ต.หลักหก อ.เมืองปทุมธานี พบกับ นายสมใจ พรแสง พ่อผู้เสียชีวิต และ น.ส.ภูษณิศา พรแสง พี่สาวผู้เสียชีวิต ได้นำโกศทองเหลืองใส่กระดูกบางส่วนออกมาให้ทีมข่าวดู มีชิ้นส่วนปริศนา มีรอยปั๊มบาร์โค้ดและตัวเลขอยู่ด้วย เชื่อว่าชิ้นส่วนดังกล่าวเป็นของคนตาย รวมถึงประเด็นตัวเลขที่ตรงกับวันเกิดและตาย คาดว่าน้องคงหมดกรรมแล้ว แต่ไม่รู้ว่าใครเป็นคนกำหนดชะตาชีวิต และปั๊มบาร์โค้ดลงบนกะโหลกไว้

โดยทางด้านนายสมใจ พรแสง พ่อผู้เสียชีวิต กล่างว่า ลูกชายของตนคือนายสฐาพร พรแสน อายุ 26 ปี ขี่มอเตอร์ไซค์ชนรถเก๋ง แล้วถูกรถตู้ทับตาย บริเวณถนนเลียบรันเวย์สนามบินสุวรรณภูมิ ก่อนจะเผาศพ และพบกับชิ้นส่วนประหลาด เป็นกระดูกมีรอยตอกตัวเลขและบาร์โค้ด

โดยคาดว่าน่าจะเป็นกะโหลกของนายสฐาพร ผู้เสียชีวิต และแปลกใจว่าตัวเลขที่เห็นคือวันเกิด และวันตาย ของลูก ซึ่งตนเองก็แปลกใจ แต่ชิ้นส่วนที่มีโค้ดนั้นจะเป็นช่วงหัวหรือป่าวก็ไม่มั่นใจ โดยคนที่พบนั้นเป็นรองเจ้าอาวาสวัดนาวง ที่ไปเก็บอัฐิร่วมกับพวกตนแล้วพบเศษกระดูกที่มีโค้ดจึงเรียกพวกตนมาดู โดยทางพระก็ได้สอบถามว่า เกิดอุบัติเหตุหรือผ่าตัดอะไรมาหรือป่าว มาทำไมกระดูกถึงมีเลขแบบนี้

โดยทางเราก็แจ้งไปว่าไม่เคย แต่พอมาสังเกตุตัวเลขและตัวอักษรที่พบนั้น มันมีความคล้ายคลึงว่า ตัวเลขบาร์โค้ด 02-04, P024U-11, 1 16L-1 ทางครอบครัวยิ่งตกใจ เพราะตัวเลขนั้นตรงกับวันเกิด 24 ธ.ค. 2538 และวันตาย 1 ส.ค. 2564 ส่วนตัวภาษาอังกฤษ P สังเกตห็นรอยกระดูกหักหน้าตัว P คาดว่าป็นตัว S ซึ่งอาจเป็นชื่อย่อคนตาย “สฐาพร” ส่วนตัว P เป็นนามสกุล “พรแสง”

น.ส.ภูษณิศา พรแสง พี่สาวผู้เสียชีวิต กล่าวว่าโดยครอบไม่เคยคิดจะสร้างกระแส อะไรทั้งนั้น ซึ่งอีกอย่างตนเองก็โพสเพสบุคส่วนตัวแต่มีคนแชร์กันไปจนเกิดมาคนมาคอมเม้นว่าโน้นนี่นั้น ซึ่งตนและครอบครัวไม่คิดอะไร เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นนั้น ที่เป็นโค้ดแบบนี้ แล้วสื่อได้ว่า เป็นวันเกิดน้อง และวันตายของน้องทางครอบครัวก็เขื่อว่าฟ้าได้ลิขิตมาแล้ว แต่ทางครอบครัวก็ยังสงสัยว่าทำไมมีโค้ดแบบนี้เกิดขึ้น

โดยวันนี้ได้มีอาจารย์ จากมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง ได้มาขอเศษชิ้นส่วนกระดูกน้องชายบางส่วนที่มีโค้ดติดอยู่ กับกระดูกชิ้นส่วนอื่นที่เราเก็บมาไปตรวจพิสูจน์ ว่าเป็นกระดูของน้องจริงไหม ซึ่งผมจะออกมาอย่างไรก็ตาม ทางครอบครัวยินดีรับตามนั้น แต่สิ่งนี้ทำให้พ่อและแม่ ไม่คิดมาก เพราะคิดอย่างเดียวว่า ฟ้าลิขิตมาแล้วว่าน้องชายจะต้องเป็นแบบนี้

「 บทความต้นฉบับ 」