“เกาะพะงัน-เกาะเต่า” ไฟเขียวนักท่องเที่ยว ฉีดวัคซีนครบ2โดส เปิดทางสะดวกไม่ต้องกัก 14 วัน

719
views

สุราษฎร์ธานี-ออกคำสั่งนักท่องเที่ยวเข้าเกาะพะงัน-เกาะเต่าใครฉีดวัคซีนครบ 2 เข็มหรือมีใบตรวจไม่พบเชื้อ 72 ชั่วโมงไม่ต้องกัก 14 วัน เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจด้านการท่องเที่ยว

เมื่อวันที่ 8 มิถุนายน 2564 นายวิชวุทย์ จินโต ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี ในฐานะผู้กำกับการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินจังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้มีหนังสือด่วนที่สุดที่ สฎ 0018.1/ว 3759 ลงวันที่ 8 มิ.ย.64 พร้อมคำสั่งจังหวัด สุราษฎร์ธานี ที่ 3723/2564 เรื่อง มาตรการเร่งด่วนในการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) (ฉบับที่ 48) เฉพาะพื้นที่อำเภอเกาะพะงัน

ปัจจุบันพบว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคในพื้นที่จังหวัดสุราษฎร์ธานีมีแนวโน้มสามารถควบคุมสถานการณ์ได้ และมีแนวโน้มที่ดีขึ้นตามลำดับ ประกอบกับรัฐบาลได้กำหนดเป้าหมายเพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจด้านการท่องเที่ยว ซึ่งเป็นรายได้หลักของประเทศ จึงจำเป็นต้องกำหนดมาตรการเฉพาะพื้นที่อำเภอเกาะพะงัน เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจด้านการท่องเที่ยว จึงมีคำสั่งดังนี้ข้อ 1 มาตรการการคัดกรองผู้เดินทางเข้าพื้นที่เกาะพะงัน และพื้นที่เกาะเต่า อำเภอเกาะพะงัน ให้ผู้ที่เดินทางมาจากจังหวัดพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด (สีแดงเข้ม)ได้แก่ กรุงเทพมหานคร นนทบุรี ปทุมธานี และสมุทรปราการ พื้นที่ควบคุมสูงสุด (สีแดง)ได้แก่ กาญจนบุรี ชลบุรี ฉะเชิงเทรา ตาก นครปฐม นครศรีธรรมราช นราธิวาส ประจวบคีรีขันธ์ พระนครศรีอยุธยา เพชรบุรี ยะลา ระนอง ระยอง ราชบุรี สงขลา และสมุทรสาคร

จะต้องสแกน QR Code“เกาะพะงัน”หรือQR Code“SAVE KOH TAO”แล้วแต่กรณีตามรายละเอียดแนบท้ายคำสั่งนี้ ณ ท่าเทียบเรือทุกแห่งก่อนเดินทางเข้าพื้นที่เกาะพะงัน และพื้นที่เกาะเต่า อำเภอเกาะพะงัน หรือสถานที่อื่นตามที่ศูนย์ปฏิบัติการควบคุมโรคอำเภอเกาะพะงัน(ศปก.อ.เกาะพะงัน) ประกาศกำหนด พร้อมทั้งกรอกข้อมูลที่ถูกต้องตามความเป็นจริงในระบบดังกล่าว เพื่อใช้ยืนยันข้อมูลการเดินทาง ณ จุดตรวจหรือจุดคัดกรอง

เมื่อเดินทางถึงพื้นที่ปลายทาง หมู่บ้าน/ชุมชน หรือสถานที่อื่นใด ให้รีบไปแจ้งต่อเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อพื้นที่ภายใน 24 ชั่วโมงนับแต่เวลามาถึง อาทิ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน ผู้นำชุมชน ฯลฯ หรือผู้ที่ได้รับมอบหมายให้เป็น ผู้รับแจ้ง อาทิ อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) ฯลฯ เพื่อประเมินความเสี่ยงเบื้องต้น และให้ใช้มาตรการกักกันตัวตลอดระยะเวลาที่อยู่ในพื้นที่อำเภอเกาะพะงันหรือจนครบ 14 วันแล้วแต่กรณี ยกเว้นกรณีดังต่อไปนี้ ให้ใช้มาตรการแยกตัว ดังนี้

(1)กรณีมีผลรับรองการตรวจหาเชื้อฯ ได้แก่ บุคคลผู้เดินทางเข้ามาในพื้นที่เกาะพะงัน และพื้นที่เกาะเต่า ที่มีผลตรวจเชื้อฯ ด้วยวิธี Real-time PCR (RT-PCR) ภายในระยะเวลาไม่เกิน 72 ชั่วโมงซึ่งได้แสดงเอกสารใบรับรองแพทย์หรือเอกสารผลการตรวจเชื้อดังกล่าวซึ่งออกโดยโรงพยาบาลหรือหน่วยงานที่กระทรวงสาธารณสุขรับรองต่อเจ้าพนักงานควบคุมโรคที่ประจำอยู่ ณ จุดตรวจหรือจุดคัดกรองแล้ว และผลตรวจไม่พบว่ามีการติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19)

(2)กรณีได้รับวัคซีน ครบ 2 เข็ม ได้แก่ บุคคลผู้เดินทางเข้ามาในพื้นที่เกาะพะงัน และพื้นที่เกาะเต่า เป็นผู้ได้รับวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19)ครบจำนวน 2 เข็มหรือครบโดสตามจำนวนวัคซีนแต่ละชนิดและได้แสดงเอกสารรับรองซึ่งออกโดยโรงพยาบาลหรือหน่วยงานที่ได้รับมอบหมาย ตามรูปแบบและวิธีการที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนดต่อเจ้าพนักงานควบคุมโรคที่ประจำอยู่ ณ จุดตรวจหรือจุดคัดกรอง ว่าเป็นผู้ได้รับวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ครบจำนวน 2 เข็มหรือครบโดสตามจำนวนวัคซีนแต่ละชนิดแล้วแต่กรณี

ในกรณีที่เจ้าพนักงานควบคุมโรคประเมินแล้วเห็นว่าบุคคลที่ได้รับวัคซีนดังกล่าวข้างต้น ยังมีความเสี่ยงสูงหรือสงสัยว่าอาจติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) จะสั่งให้บุคคลผู้เดินทางเข้ามาดังกล่าวทำการตรวจหาเชื้อฯ ตามวิธีการที่เจ้าพนักงานควบคุมโรคกำหนด ก็ได้

(3)กรณีเป็นผู้มีความเสี่ยงสูง และได้รับการตรวจหาเชื้อฯ ณ จุดตรวจและผลการตรวจไม่พบเชื้อฯ ได้แก่ ในกรณีที่เจ้าพนักงานควบคุมโรคเห็นว่าบุคคลผู้เดินทางเข้าพื้นที่เกาะพะงัน และพื้นที่เกาะเต่า เป็นผู้ที่มีความเสี่ยงสูงหรือสงสัยว่าอาจติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ให้เจ้าพนักงานควบคุมโรคสั่งให้ผู้นั้นทำการตรวจหาเชื้อฯ ด้วยวิธี Real-time PCR (RT-PCR) หรือ COVID-19 Ag Rapid Test ก่อนเดินทางเข้าพื้นที่ ซึ่งหากผลการตรวจเชื้อไม่พบว่ามีการติดเชื้อให้สามารถเดินทางเข้าพื้นที่ ได้โดยใช้มาตรการแยกตัว”

ข้อ 2 มาตรการสำหรับผู้ประกอบการเรือโดยสารให้ผู้ประกอบการเรือโดยสารทุกแห่งเกี่ยวกับการเดินทางเข้าพื้นที่เกาะพะงัน และพื้นที่เกาะเต่า มีหน้าที่ที่จะต้องแจ้งให้ผู้เดินทางหรือผู้โดยสารเข้ามาในพื้นที่เกาะพะงัน และพื้นที่เกาะเต่า จะต้องสแกน QR Code “เกาะพะงัน”และ QR Code“SAVE KOH TAO” แล้วแต่กรณี พร้อมทั้งกรอกข้อมูลที่ถูกต้องตามความเป็นจริงในระบบดังกล่าว และตรวจสอบการปฏิบัติของผู้เดินทางหรือผู้โดยสารก่อนใช้บริการเรือโดยสาร ณ สถานที่ต้นทางและหากผู้ใช้บริการหรือผู้รับบริการไม่ทำการสแกน QR Codeและกรอกข้อมูลที่ถูกต้องตามความเป็นจริงในระบบดังกล่าว โดยไม่มีเหตุอันสมควร ให้ผู้ประกอบกิจการหรือผู้ให้บริการดังกล่าวสามารถปฏิเสธไม่ให้ผู้นั้นรับบริการหรือใช้บริการดังกล่าวได้

ทั้งนี้ ผู้ใดฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามคำสั่งนี้ เป็นความผิดตามมาตรา 18 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 40,000 บาทหรือทั้งจำทั้งปรับ และอาจมีความผิดตามมาตรา 52 แห่งพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ. 2558 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ตั้งแต่วันที่ 8 มิถุนายนนี้เป็นต้นไปจนกว่าจะมีการเปลี่ยนแปลง

บทความต้นฉบับ

“เกาะพะงัน-เกาะเต่า”ไฟเขียวนักท่องเที่ยวฉีดวัคซีนครบ2โดสเปิดทางสะดวก