ประวัติ พ่อท่านชูเฒ่า วัดพัทธสีมา ( พระอธิการชู พนธนโม ) หัวไทร จ.นครศรีธรรมราช

19268
views
พ่อท่านชูเฒ่า วัดพัทธสีมา อ.หัวไทร จ.นครศรีธรรมราช

“วัดพัทธสีมา” ตำบลท่าซอม อำเภอหัวไทร จังหวัดนครศรีธรรมราช มีอายุยาวนานกว่า ๗๕๕ ปี ตามหลักฐานของพงศาวดารนครศรีธรรมราช ว่าผู้สร้างวัดพัทธสีมาคือ สองพี่น้องที่มีเชื้อสายศรีลังกาและจีน มีนามว่าพลิติ และพลิมุย ซึ่งเป็นลูกพี่สาวของพระเจ้าศรีธรรมโศกราชที่ ๕ จันทรภานุ

ทั้งสองได้นำทรัพย์สมบัติบรรทุกเรือสำเภาเดินทางมาจากลังกาเพื่อสมทบในการก่อสร้างพระบรมธาตุเจดีย์เมืองนครศรีธรรมราช (พ.ศ.๑๗๙๓) ตามคำเชิญชวนของพระเจ้าศรีธรรมโศกราชที่ ๕ จันทรภานุ แต่เมื่อเดินทางมาถึงปรากฏว่า พระบรมธาตุได้สร้างเสร็จแล้ว ทั้งสองพี่น้องจึงได้ร่วมสร้างวิหารมหาภิเนษกรมณ์ (วิหารพระม้า) และพระเจ้าศรีธรรมโศกราชฯ ยังทรงแนะนำให้นำทรัพย์ที่เหลือไปสร้างวัดตามที่เห็นสมควร

วัดพัทธสีมา

ทั้งสองจึงเดินทางเรื่อยมาจนถึงปากลำบางพัทธสีมาในปัจจุบัน และเห็นว่าเป็นชุมชนขนาดใหญ่ จึงได้สร้างวัดขึ้นแล้วให้ชาวบ้านเดินทางไปนิมนต์พระสงค์จากนครศรีธรรมราช มาอยู่เพื่อทำพิธีกรรมทางศาสนามีการนำพัทธสีมาฝังไว้ใต้ดินเพื่อกำหนดเขตที่ทำสังฆกรรม และเรียกวัดนี้ว่า “วัดพัทธสีมา”

ตามหลักฐานเอกสารกัลปนาวัดพัทธสีมา ระบุว่า พระเจ้าศรีธรรมโศกราชฯ ได้กำหนดเขตแดนพระราชทานเป็นพื้นที่กัลปนา พระราชทานผู้คนชายหญิงเพื่อปรนนิบัติพระศาสนาเรียกว่า ข้าประโยมสงฆ์หรือข้าประโยมทาน ให้ทางวัดเก็บผลประโยชน์จากที่ดินเพื่อบำรุงวัด บำรุงพระศาสนา ตามข้อมูลทะเบียนวัดต่างๆใน อ.หัวไทร

ระบุว่า วัดพัทธสีมา ตั้งขึ้นเมื่อ พ.ศ.๒๒๖๕ วัดมีอาคารโบราณสถานสำคัญคือ หอพระไตรปิฎก (หอไตรกลางน้ำ) ตามหลักพงศาวดารนครศรีธรรมราช ว่าด้วยการสร้างพระบรมธาตุเจดีย์นครศรีธรรมราช ซึ่งเกี่ยวเนื่องถึงวัดพัทธสีมา ฯลฯ ดังนั้น ผู้มีส่วนสำคัญในการเป็นจุดรวมของการสืบทอดพระศาสนาและดูแลวัดคือ เจ้าอาวาส โดยวัดนี้มีเจ้าอาวาสสืบต่อเนื่องกันจนถึงปัจจุบัน ๑๒ รูป อดีตเจ้าอาวาสวัดพัทธสีมา

วัดพัทธสีมา

๑.พระอธิการเนียม (ท่านครัวเนียม) พ.ศ. ๒๒๖๕-๒๒๙๓
๒.พระอธิการคง (ท่านครัวคง) พ.ศ. ๒๒๙๓-๒๓๒๔ ช่วงตอนปลายกรุงศรีฯ กรุงแตก ปี พ.ศ ๒๓๑๐
๓.พระอธิการจุ้ย(ท่านครัวจุ้ย) พ.ศ.๒๒๒๔-๒๓๕๒ช่วงกรุงธนบุรี เข้าสู่กรุงรัตนโกสินทร์รัชกาลที่ ๑ ครองราช พ.ศ. ๒๓๒๕-๒๓๕๒
๔.พระอธิการเบี้ยว(ท่านครัวเบี้ยว) พ.ศ. ๒๓๕๒- ๒๓๘๑ (รัชกาลที่ ๒ ครองราช พ.ศ.๒๓๕๒-๒๓๖๘)
๕.พระอธิการหนู(ท่านครัวหนู)(พ่อท่านเฒ่า) พ.ศ๒๓๘๑-๒๔๒๘ ช่วงรัชกาลที่ ๔เข้าสู่รัชกาลที่ ๕ (รัชกาลที่ ๔ ครองราช ๒๓๙๔-๒๔๑๑) (รัชกาลที่ ๕ ครองราช พ.ศ. ๒๔๑๑-๒๔๕๓)

พ่อท่านชูเฒ่า วัดพัทธสีมา

๖.พระอธิการชู พนธนโม(พ่อท่านชูเฒ่า) พ.ศ. ๒๔๒๘- ๒๔๗๐ อยู่ในช่วงรัชกาลที่ ๕-๖-๗ สามรัชกาล รัชกาลที่ ๕ ครองราช ๒๔๑๑-๒๔๕๓ รัชกาลที่๖ ครองราช ๒๔๕๓-๒๔๖๘ รัชกาลที่ ๗ ครองราช ๒๔๖๘-๒๔๗๗ แต่ละรูปมีบทบาทศักยภาพบารมีต่อวัดและชุมชนแตกต่างกันไปตามเหตุปัจจัยและยุคสมัย เช่น อดีตเจ้าอาวาสรูปที่ ๖

พระอธิการชู (พ.ศ. ๒๓๘๒-๒๔๗๐) หรือที่เรียกกันว่าพ่อท่านชูเฒ่า มีบทบาท ศักยภาพ และบารมีสูงที่สุดเท่าที่มีหลักฐานยืนยันได้ อาทิ ด้านการศึกษา ได้จัดให้มีการเรียนหนังสือในวัดทั้งพระเณรและลูกหลานชาวบ้านด้านการแพทย์แผนโบราณ ได้ใช้วัดเป็นที่สงเคราะห์ผู้เจ็บไข้ได้ป่วยที่มาจากใกล้ไกล มีหลักฐานให้เห็นจากตำรายาและสมุนไพรภายในวัดจำนวนมาก พ่อท่านชูเฒ่าเก่งทางด้านไสยเวทย์ และรักษาโรค ยาที่ดังของท่านในสมัยนั้นคือ ยาเม็ดผักกาด รักษาโรคภัยได้ชงักนัก

วัดพัทธสีมา

ท่านชูเฒ่ามีลูกศิษย์หรือวิชาสายของท่านที่ดังๆ คือ พ่อท่านหนูจันทร์ วัดพัทธสีมา พ่อท่านจับ วัดท่าลิพงพ่อท่านชู วัดเสาธง(ใกล้วัดพัทสีมา) พ่อท่านกล่ำ วัดหัวค่าย พ่อท่านซ้วน วัดบ้านด่าน พ่อท่านพรหมแก้ววัดโคกพิกุลอาจารย์พ่อท่านรุ่ง วัดรามแก้ว พระครูพนังศีลวิสุทธิ์ภักดี วัดศาลาแก้ว อาจารย์พ่อท่านจันทร์ วัดทุ่งเฟื้อ สมัยเป็นสามเณร ฯลฯ พ่อท่านชูเฒ่าเป็น พระเกจิสมัย ร.๕-๖-๗ มรณภาพแล้วประมาณ ๘๐ ปีเศษท่านเก่งหลายด้านทั้งยาและไสยเวทย์

เล่าลือกันว่าพ่อท่านมีอิทธิฤทธิ์มากสามารถลงไปอยู่ในกาน้ำร้อนได้และวิชานี้ได้ถ่ายทอดให้พ่อท่านหนูจันทร์ เกจิอาจารย์อันลือลั่น หากถามคนจังหวัดนครศรีธรรมราชว่ารู้จักพ่อชูเฒ่า ไหม? เขาจะตอบว่าเก่งสุดยอด พ่อท่านชูเฒ่า วัดพัทธสีมา ท่านเป็นพระศึกษา มีความรู้ทางเวทมนต์ ใสยศาสตร์

จากประวัติทราบว่า พ่อท่านมีอภินิหาร ด้านไสยเวทย์ ต่างๆมากมาย มีศิษย์ มาศึกษา ความรู้ด้านความอยู่ยงคงกระพันมากมาย จากการบันทึกประวัติในหนังสือ ทราบว่าท่านมีศิษย์ยู่คนหนึ่ง แต่ชอบอวดตัวว่าตนเองเก่งกาจเรื่องอยู่ยงคงกระพันศาสตราวุธทุกชนิดทำร้ายไม่ได้และครั้งหนึ่งศิษย์คนนี้ขึ้นไปนอนบนข่อนไม้ให้เพื่อนๆเอาเลื่อยแบบชักโค่นต้นไม้ จับด้ามฝั่งละคนเลื่อยที่ท้องที่ลำตัว และที่ส่วนอื่นๆของร่างกาย

พ่อท่านชูเฒ่า วัดพัทธสีมา

ปรากฎว่าเลื่อยไม่เข้า ไม่ระคายผิวหนังแม้คนเลื่อยจะลงกำลังอย่างเต็มที่ ต่อมาเรื่องการอุตริเข้าหูพ่อท่านชูเฒ่า ในเย็นวันหนึ่งพ่อท่านเรียกศิษย์ ผู้อวดอุตริคนนั้น มาที่กุฎิ แล้วหาวิธีอบรมสั่งสอนโดยท่านบอกว่าเย็นนี้ให้ไปเอาต้นตาลโหนด ปลาย นาหัวนอน(เหนือ)วัด ย้ายมาปลูกหน้ากุฎิท่านด้วย ๑ ต้น

ในคืนวันคืนนั้นศิษย์ผู้อวดตนคนนั้น ระดมเพื่อนๆได้ เกือบสิบคน ไปย้ายต้นตาลโหนดตามพ่อท่านสั่ง แต่พยายามเท่าไรไม่สำเร็จ พ่อท่านทราบข่าวว่าทำไม่ได้ ก็ไม่ว่าอะไร คืนต่อมาตอนรุ่งเช้าขึ้น ชาวบ้านเห็นว่ามีต้นตาลมาปลูกยืนต้นอยู่ หน้ากุฎิท่านแล้ว

ซึ่งการสั่งสอนศิษย์เช่นนี้เป็นการบอกว่าอย่าอวดตนว่าเก่ง เพราะไม่มีใครเก่งได้ทุกเรื่อง ยังมีอีกหลายอย่างที่ต้องศึกษา การอวดดีจึงเป็นการบอกให้ผู้อื่นรู้ว่าตนเก่งเรื่องนั้น หากเป็นศัตรูเมื่อรู้ว่าคนนั้นเก่งเรื่องนั้นก็จะใช้วิธีอื่นทำร้าย

วัดพัทธสีมา

ดังนั้นการไม่อวดตัวย่อมดีที่สุด เพราะศิษย์คนนี้เก่งคงกระพันอย่างเดียวแต่ไม่รู้วิชาเคลื่อนย้ายสิ่งของ ก็ย่อมไม่มีความรู้ครบถ้วนนั่นเอง ศิษย์คนนั้นจึงไม่อวดดีอีกเลย และยังมีเรื่อง ปลุกใบมะขามเป็นตัวตอตัวแต่นอีก หรือเรื่อง พ่อท่านตบต้นไม้ใหญ่ที่โจรมันปีนขึ้นไป เมื่อคราวมันมาลักวัวชาวบ้าน ชาวบ้านจับได้ไล่กวดจับมันรีบปีนขึ้นต้นไม้ใหญ่เรียกให้มันลงมามันไม่ย่อมลง

ชาวบ้านเฝ้าอยู่โค่นต้นไม้ แล้วให้คนไปนิมนต์ พ่อท่านชูเฒ่ามา ไกล่เกลี่ยให้มันลงมาจับเสียดีๆ เพื่อจะส่งตัวให้เจ้าหน้าทีบ้านเมือง พูดเกลียกล่อมเท่าไรมันไม่ลงมาเสียที พ่อท่านชูเฒ่าเลยตบโค่นต้นไม้ ซ้ายที ขวาที โจรคนนั้นหล่นตื่งลงมาจึงจับมันได้ (ต้นไม้ต้นนี้ยังมีอยู่ในวัด) การที่พ่อท่านทำเช่นนี้เป็นการสอนให้มันรู้ว่า อย่าได้มา ทำข่มเหง ชาวบ้านรอบวัดพัทธสีมา

พ่อท่านชูเฒ่า วัดพัทธสีมา อ.หัวไทร จ.นครศรีธรรมราช

ส่วนวัตถุมงคลของ พ่อท่านที่ท่านได้สร้างไว้เช่น ตะกรุดทองเหลือง (หายากมากๆ ) ส่วนเหรียญพ่อท่านชูเฒ่า วัดพัทธสีมา รุ่นแรก ปี ๑๙ เหรียญรุ่นนี้สร้าง เมื่อปี พ.ศ ๒๕๑๙ เพื่อเป็นอนุสรณ์ในการวางศิลาฤกษ์วิหาร วัดพัทธสีมา อ. หัวไทร จ. นครศรีธรรมราช ปลุกเสกโดยพ่อท่านหนูจันทร์ วัดพัทธสีมา และลูกศิษย์สายวัดพัทธสีมาเป็นเหรียญที่นิยมและมีประสบการณ์มากมายอีกเหรียญหนึ่งของเมืองนครศรีธรรมราช (เคยมีคนถูกยิงแต่ปืนยิงไม่ออก) และด้านแคล้วคลาดก็ดีนักรวมถึงนำเหรียญทำน้ำมนต์รักษาโรคได้ด้วยเพราะพ่อท่านชูเฒ่าท่านเป็นพระอาจารย์ที่เป็นหมอด้วย เด็กหรือผู้ใหญ่ที่มีโรคประจำตัวจะแขวนเหรียญท่านโรคจะกำเริบน้อยมากและไปหาหมอปัจจุบันทันท่วงทีทุกคน ท่านจึงเด่นด้านยาด้วย

พ่อท่านชูเฒ่า วัดพัทธสีมา

ลูกศิษย์ ท่าน ๒ องค์ คือพ่อท่านหนูจันทร์ วัดพัทธสีมา และพ่อท่านจับ วัดท่าลิพงยังเคยร่วมปลุกเสกใหญ่กับเขาอ้อในงานวัตถุมงคลของอาจารย์ศรีเงิน เขาอ้อด้วย  หรือ พ่อท่านซ้วน วัดบ้านด่าน ก็เคยรวมกันทำเครื่องรางวัตถุมงคลกับอาจารย์เจ็ก เกจิสายเขาอ้อ (จากหนังสือสปิริต) และในงานพ่อท่านคลิ้ง วัดถลุงทอง ในโอกาสสร้างเหรียญรุ่นภปร. ก็ทราบว่าได้เชิญพ่อท่านหนูจันทร์ ร่วมปลุกเสกด้วยและมีรายนามที่วัด และทั้งหมดนี้คือประวัติ พ่อท่านชูเฒ่า เกจิผู้เรืองเวทย์แห่งวัดพัทธสีมา.

งานมรณภาพ พ่อท่านชูเฒ่า วัดพัทธสีมางานบำเพ็ญกุศลศพ – พ่อท่านชูเฒ่า วัดพัทธสีมา พ.ศ.​๒๔๗๔

ดังนั้นจึงเห็นได้ว่าพ่อท่านชูเฒ่าเป็นอดีตเจ้าอาวาสวัดพัทธสีมา ตำบลท่าซอม อำเภอหัวไทร จังหวัดนครศรีธรรมราช ท่านเป็นเกจิจอมขมังเวทย์ระดับตำนาน แห่งลุ่มน้ำปากพนังมีพระและฆารวาส มาฝากตัวเป็นศิษย์มากมาย พระแถบลุ่มน้ำปากพนัง หรือพระสายใต้บางองค์ในสมัยก่อนก็เป็นลูกศิษท่านหลายองค์ เช่นพ่อท่านหนูจันทร์ พ่อท่านจับวัดท่าลิพง พ่อท่านจันทร์วัดทุ่งเฟื้อฯ

เหรียญพ่อท่านหนูจันทร์รุ่นแรกวัดพัทธสีมา อ.หัวไทร จ.นครศรีธรรมราช

เหรียญพ่อท่านชูเฒ่า รุ่นแรก ปี ๑๙ วัดพัทธสีมา เหรียญนี้พ่อท่านหนูจันทร์ วัดพัทธสีมา ยอดเกจิอาจารย์ผู้เข้มขลังในวิชาอาคม ผู้สร้างตำนานสรงน้ำในกาน้ำ

พระหมิด สิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่วัดพัทธสีมา

พระหมิด (พระลาก) วัดพัทธสีมา ต.ท่าซอม อ.หัวไทร จ.นครศรีธรรมราช ตามตำนานเล่าว่ามีพระลากในลักษณะนี้ถึง ๓ องค์ และพระหมิด (พระลาก) วัดพัทธสีมา ต.ท่าซอม อ.หัวไทร จ.นครศรีธรรมราช เป็น ๑ ใน ๓ องค์ดังกล่าว

วัดพัทธสีมาสร้างเหรียญพระหมิดขึ้นมาน้อยมาก และไม่พอในการแจก และเมื่อนำมาบูชาก็พบประสบการณ์มากมายในทุกด้าน จึงเป็นที่หวงแหนกันมากของคนในพื้นที่