ครั้งเมื่อ 3 ปีก่อน ตอนพ่อป่วยตายด้วยมะเร็งในวัย 50 ปี กลายเป็นแรงบันดาลใจจุดประกายให้ลูกสาวมุมานะเรียนจนสอบติดแพทย์ชนบท โควตาม.มหิดล ดิ้นรนกู้เงิน กยศ. และตั้งใจสอบชิงทุนเพื่อสานฝันตัวเอง ขณะที่ครอบครัวค่อนข้างขัดสน แม่รับจ้างรีดผ้า และเป็นแม่ค้า ช่วงนี้ออกขายไม่ได้ รายได้ไม่พอกับรายจ่าย
ที่ จ.ตรัง ผู้สื่อข่าวรายงานว่าที่บ้านเช่าหลังเล็ก มี 1 ห้องนอน ตั้งอยู่เลขที่ 148/32 ถนนกันตัง ต.บางรัก อ.เมืองตรัง จ.ตรัง เปิดเป็นร้านรับซักอบรีด ริมซอยทางเข้าวัดโคกมะม่วง หรือ วัดโคกกระท้อน ซึ่งเป็นบ้านที่ น.ส.กัลยา ตันเองฉ้วน หรือ น้องแนน อายุ 18 ปี นักเรียนที่มีความขยัน จบการศึกษาจากโรงเรียนสภาราชินีตรัง อาศัยอยู่กับ น.ส.มลิวรรณ ไพริน หรือ แม่นา อายุ 49 ปี และพ่อเลี้ยงที่เพิ่งมาอยู่ในภายหลังรวม 3 ชีวิต
น.ส.กัลยา หรือ น้องแนน เป็นนักเรียนที่มีผลการเรียนดี จบการศึกษามัธยมศึกษาปีที่ 6 เกรดเฉลี่ย 3.97 และสามารถสอบติดคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล ตามโครงการผลิตแพทย์เพื่อชาวชนบท ศูนย์ รพ.มหาราชนครศรีธรรมราช ที่เพิ่งประกาศผลเมื่อวันที่ 10 พ.ค. 64 ที่ผ่านมา เป็นที่ภาคภูมิใจของแม่ และสมความตั้งใจของน้องแนน แม้ครอบครัวของน้องแนนไม่ได้สมบูรณ์แบบ และฐานะค่อนข้างลำบากหาเช้ากินค่ำ ไม่ได้มีเงินเก็บสะสม แต่น้องแนนยังคงคาดหวังว่าจะขอกู้เงิน กยศ.และสอบชิงทุนเพื่อทำให้ตนเองสำเร็จการศึกษาตามที่หวังไว้
สำหรับ น้องแนน ต้องกำพร้าพ่อ หลังจากนายยงยุทธ ตันเองฉ้วน ได้เสียชีวิตลงไปด้วยโรคมะเร็งตับ เมื่อ 3 ปีก่อนในวัย 50 ปี ซึ่งจากความสูญเสียดังกล่าวทำให้น้องแนนที่มีความขยัน ตั้งใจเรียนเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว หลังการเสียชีวิตของพ่อ ยิ่งมีความฝัน และความตั้งใจอยากจะเป็นแพทย์เพื่อช่วยเหลือคนอื่น
อย่างไรก็ตาม น้องแนนยังคงอยู่ในการเลี้ยงดูของผู้เป็นแม่ และพ่อเลี้ยง ซึ่งมีอาชีพรับจ้างซักอบรีดผ้า และเป็นแม่ค้าขายผลไม้ แต่ด้วยการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ทำให้มีรายได้ลดลง จากรายได้เดือนละ 20,000 บาท เหลือเพียงเดือนละ 10,000 กว่าบาท นำมาใช้จ่ายภายในครอบครัว ทั้งค่าเช่าบ้านเดือนละ 1,800 บาท ค่าผ่อนรถยนต์กระบะที่ใช้ขายผลไม้เดือนละ 6,000 บาท ส่วนที่คงเหลือ เป็นเงินที่ใช้สำหรับการกินอยู่ภายในครอบครัว
น.ส.กัลยา หรือ น้องแนน กล่าวว่า สมัครสอบเข้าโครงการผลิตแพทย์เพื่อชาวชนบท จากมหาวิทยาลัยมหิดล เมื่อเดือน มี.ค.64 และประกาศผลเมื่อวันที่ 10 พ.ค.ที่ผ่านมา ว่า สอบติดแพทย์และจะเปิดเทอมในวันที่ 9 ส.ค.64 ที่จะถึงนี้ แต่ตนก็มีความเครียดในเรื่องค่าใช้จ่ายในการเรียน จากที่ดูมา จะต้องจ่ายค่าเทอมก่อนเข้าเรียน 30,000 บาท ไม่รวมค่าหอพัก ซึ่งยังไม่มี แต่ก็ตั้งใจจะกู้เงิน กยศ.และสอบชิงทุน ต่างๆ
“ก่อนสอบได้ตั้งใจอ่านหนังสือเอง และได้สมัครขอทุนจากสถาบันแห่งหนึ่ง เพื่อเรียนพิเศษเพิ่มเติมจนได้เรียนพิเศษ และติวฟรี ส่วนสาเหตุที่ทำให้ตนตัดสินใจเรียนแพทย์ เป็นช่วงที่พ่อเริ่มป่วย ได้คุยกับหมอที่ทำการรักษา หมอบอกถึงอาการป่วยของพ่อ ด้วยความที่ไม่เข้าใจ จึงพยายามหาข้อมูลดูในกูเกิล จึงมีความรู้สึกอยากรู้เรื่องเกี่ยวกับโรคมากกว่านี้ เป็นจุดเริ่มต้นที่อยากเป็นหมอ เพื่อที่จะช่วยเหลือคนอื่นๆ อยากให้เขามีโอกาสได้มีชีวิตที่ดี”
ขณะที่ น.ส.มลิวรรณ หรือ แม่นา แม่ของน้องแนน กล่าวว่า หลังทราบว่าลูกติดแพทย์ รู้สึกดีใจ แต่ก็กังวลเรื่องค่าใช้จ่าย เพราะทางบ้านค่อนข้างลำบาก รายได้ลดลงเนื่องจากช่วงโควิดจากปกติได้รับรายได้เดือนละ 20,000 กว่าบาท แต่ตอนนี้ได้รับรายได้เพียงแค่เดือนละ 10,000 กว่าบาท แต่ก็จะหาทางให้ลูกมีเงินเรียนหมอต่อให้ได้ โดยจะขอจากพี่ๆ ต่างพ่อ เพื่อให้ช่วยเหลืออีกทาง และน้องแนนเองก็ตั้งใจจะกู้เงิน กยศ.ด้วย มีความหวังว่าลูกต้องเรียนจบหมอ เพราะลูกมีความตั้งใจ ตั้งแต่เรียนชั้น ป.1 – ป.6 ก็เรียนได้ที่ 1 ของห้องมาตลอด และเชื่อว่าจะต้องมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยเหลือน้องในการประสานงานเขอทุนการศึกษา
ส่วนใครจะติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม สามารถติดต่อได้ที่เบอร์ 090-261-8873 น.ส.มลิวรรณ ไพริน
บทความต้นฉบับ
นร.เก่งสอบติดหมอ แต่ต้องจ่ายก่อนเรียน 3 หมื่น หวังกู้ กยศ.-ขอทุน