กอปภ.ก.เตือน! 13 จังหวัดภาคใต้ รับมือน้ำท่วม-น้ำป่าหลาก-น้ำล้นตลิ่ง

1345
views

วันที่ 24 ธ.ค.2563 นายบุญธรรม เลิศสุขีเกษม อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ฐานะผู้อำนวยการกลาง กล่าวว่า กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง (กอปภ.ก.) ได้ติดตามสภาพอากาศและพิจารณาปัจจัยเสี่ยง ประกอบกับกรมอุตุนิยมวิทยาได้มีประกาศฉบับที่ 4 (324/2563) ลงวันที่ 23 ธ.ค. แจ้งว่าหย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงบริเวณทะเลจีนใต้ตอนล่าง คาดว่าจะเคลื่อนเข้าปกคลุมบริเวณอ่าวไทยและภาคใต้ในวันที่ 24 ธ.ค.

ประกอบกับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้มีกำลังแรง ทำให้ภาคใต้มีฝนตกเพิ่มขึ้นและมีฝนตกหนักถึงหนักบางพื้นที่ สำหรับคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยมีกำลังแรง มีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร กอปภ.ก.จึงได้ประสาน 13 จังหวัดภาคใต้และประจวบคีรีขันธ์ เตรียมพร้อมรับมือน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก น้ำล้นตลิ่ง และคลื่นลมแรงในช่วงวันที่ 24-26 ธ.ค. ดังนี้

พื้นที่เฝ้าระวังสถานการณ์น้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง 14 จังหวัด แยกเป็น ภาคกลาง 1 จังหวัด ได้แก่ ประจวบคีรีขันธ์ (อำเภอบางสะพาน อำเภอทับสะแก อำเภอบางสะพานน้อย) ภาคใต้ 13 จังหวัด ได้แก่ ชุมพร (อำเภอเมืองชุมพร อำเภอหลังสวน อำเภอละแม อำเภอพะโต๊ะ อำเภอสวี และอำเภอทุ่งตะโก)

สุราษฎร์ธานี (อำเภอเมืองสุราษฎร์ธานี อำเภอกาญจนดิษฐ์ อำเภอดอนสัก อำเภอไชยา อำเภอคีรีรัฐนิคม อำเภอท่าฉาง อำเภอบ้านนาสาร อำเภอบ้านนาเดิม อำเภอเคียนซา อำเภอเวียงสระ อำเภอพระแสง อำเภอพุนพิน อำเภอชัยบุรี และอำเภอวิภาวดี)

นครศรีธรรมราช (อำเภอเมืองนครศรีธรรมราช อำเภอพรหมคีรี อำเภอลานสกา อำเภอฉวาง อำเภอพิปูน อำเภอเชียรใหญ่อำเภอชะอวด อำเภอท่าศาลา อำเภอทุ่งสง อำเภอนาบอน อำเภอทุ่งใหญ่อำเภอปากพนัง อำเภอร่อนพิบูลย์อำเภอสิชล อำเภอขนอม อำเภอหัวไทร อำเภอบางขันอำเภอถ้ำพรรณรา อำเภอจุฬาภรณ์ อำเภอพระพรหม อำเภอนบพิตำ อำเภอช้างกลาง และอำเภอเฉลิมพระเกียรติ)

พัทลุง (อำเภอเมืองพัทลุง อำเภอกงหราอำเภอเขาชัยสน อำเภอตะโหมด อำเภอควนขนุน อำเภอปากพะยูนอำเภอศรีบรรพต อำเภอป่าบอน อำเภอบางแก้ว อำเภอป่าพะยอม และอำเภอศรีนครินทร์) สงขลา (อำเภอเมืองสงขลา อำเภอสทิงพระ อำเภอจะนะ อำเภอระโนด อำเภอกระแสสินธุ์ อำเภอรัตภูมิอำเภอสะเดา อำเภอหาดใหญ่ อำเภอนาหม่อม อำเภอควนเนียง อำเภอบางกล่ำ อำเภอสิงหนคร และอำเภอคลองหอยโข่ง)

ปัตตานี (อำเภอเมืองปัตตานี อำเภอโคกโพธิ์ อำเภอหนองจิก อำเภอมายอ อำเภอทุ่งยางแดงและอำเภอแม่ลาน) ยะลา (อำเภอเมืองยะลา อำเภอบันนังสตา อำเภอยะหา และอำเภอเบตง) นราธิวาส (อำเภอตากใบ อำเภอบาเจาะ อำเภอระแงะ อำเภอศรีสาคร อำเภอแว้งอำเภอสุไหงโก-ลก อำเภอสุไหงปาดี อำเภอจะแนะ และอำเภอเจาะไอร้อง)

ระนอง (อำเภอเมืองระนอง อำเภอกระบุรี อำเภอกะเปอร์) พังงา (อำเภอเมืองพังงา อำเภอคุระบุรี อำเภอกะปง อำเภอตะกั่วทุ่ง อำเภอตะกั่วป่า และอำเภอท้ายเหมือง) กระบี่ (อำเภอเขาพนม และอำเภอลำทับ) ตรัง (อำเภอเมืองตรัง อำเภอกันตัง อำเภอห้วยยอด อำเภอวังวิเศษ อำเภอนาโยง อำเภอรัษฎา และอำเภอหาดสำราญ) สตูล (อำเภอละงู และอำเภอมะนัง)

นายบุญธรรม กล่าวอีกว่า พื้นที่เฝ้าระวังสถานการณ์คลื่นลมแรง 6 จังหวัด ได้แก่ ชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช สงขลา ปัตตานี และนราธิวาส รวมถึงสั่งการศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขตในพื้นที่เสี่ยงภัยเตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์ภัยในช่วงดังกล่าวโดยจัดเจ้าหน้าที่ติดตามสภาพอากาศ ปริมาณฝนพร้อมวิเคราะห์ปัจจัยเสี่ยงและแนวโน้มสถานการณ์ภัยต่อเนื่องตลอด 24 ชั่วโมงโดยเฉพาะพื้นที่ลุ่มต่ำ พื้นที่ชุมชนเมือง พื้นที่ริมแม่น้ำลำคลอง ที่ลาดเชิงเขาและพื้นที่บริเวณชายฝั่งทะเล

อีกทั้ง จัดชุดเผชิญสถานการณ์วิกฤต (ERT)รถปฏิบัติการและเครื่องจักรกลสาธารณภัยให้พร้อมเผชิญเหตุและช่วยเหลือผู้ประสบภัยทันทีตลอดจนประสานหน่วยงานในพื้นที่ อำเภอ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นสร้างการรับรู้และแจ้งเตือนประชาชนให้ทราบสถานการณ์ภัยแนวทางการปฏิบัติตน และการอพยพไปยังจุดปลอดภัยผ่านทุกช่องทาง

รวมถึงเน้นย้ำให้ดูแลและประชาชนที่ได้รับผลกระทบ โดยเฉพาะด้านการดำรงชีพในเบื้องต้น เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน ทั้งนี้ ขอให้ประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยติดตามพยากรณ์อากาศและสถานการณ์ภัยอย่างใกล้ชิด ปฏิบัติตามประกาศเตือนภัยอย่างเคร่งครัดเพื่อพร้อมรับมือสถานการณ์ภัยที่อาจเกิดขึ้นสำหรับประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากสถานการณ์ภัยสามารถติดต่อได้ทางสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง

เครดิตแหล่งข้อมูล : ข่าวสด