คนร้ายไม่ทราบจำนวนบุกยิง 2 สามีภรรยากลางสวนยางที่สุราษฎร์ฯ เจ็บ 1 ดับ 1

1616
views

สุราษฎร์ธานี – สภ.โมถ่าย​ รับแจ้งเกิดเหตุ​ ในสวนยางบ้านห้วยตาหมิง (เกาะเสียด)​ หมู่​ที่6 ต.ปากหมาก อ.ไชยา​ จ.สุราษฎร์ธานีคนร้ายไม่ทราบจำนวนบุกยิง 2 สามีภรรยาขณะกรีดยางอยู่กลางสวนยางพาราดับ 1 สาหัส 1 คน หลังก่อเหตุอาศัยความมืดหลบหนีลอยนวล ด้านตำรวจเร่งสอบหาสาเหตุ

เมื่อเวลาประมาณ 00.30 น.วันนี้ (22 ธ.ค.) เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.โมถ่าย ได้รับแจ้งมีคนถูกยิงได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต ในสวนยางพารา ม.6 ต.ปากหมาก อ.ไชยา จ. สุราษฎร์ธานี จึงเข้าพื้นที่ตรวจสอบ พร้อมประสานให้หน่วยกู้ภัยมูลนิธิกุศลศรัทธา จังหวัดสุราษฎร์ธานี เข้าช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ ที่เกิดเหตุ พบ นส.มวล สาลี อายุ 39 ปี ถูกยิงเข้าที่ไหล่ด้านซ้าย และหัวเข่าด้านขวาอาการสาหัส จึงเร่งช่วยเหลือ และรีบนำตัวส่งโรงพยาบาลไชยา

นอกจากนั้น เจ้าหน้าที่ยังตรวจพบผู้เสียชีวิตจำนวน 1 ราย ห่างจากกระท่อมกลางสวนยางไปประมาณ 200 เมตร ทราบชื่อคือ นายน้อย สีสัญงาม อายุ 46 ปี สภาพถูกยิงด้วยอาวุธปืนไม่ทราบขนาดเข้าที่ศีรษะด้านขวา 1 นัด เสียชีวิตคาที่ ในที่เกิดเหตุไม่พบปลอกกระสุนปืน พบแต่เพียงปืนไทยประดิษฐ์ของผู้เสียชีวิต จำนวน 1 กระบอก ตกอยู่ใกล้ศพ และพบมีดกรีดยางพารา ของผู้ตายตกอยู่

เจ้าหน้าที่ได้สอบปากคำลูกสาวของผู้เสียชีวิต ที่นอนอยู่ในบ้านพักห่างจากที่เกิดเหตุประมาณ 200 เมตร บอกว่า เมื่อช่วงเวลา 20.30 น. มีผู้ชาย 2 คน มานั่งดื่มเหล้ากับผู้เสียชีวิตในขนำกลางสวนยางพารา ก่อนที่ลงไปกรีดยาง และเวลาประมาณ 21.30 น.ขณะที่ตนกำลังนอนอยู่ ได้ยินเสียงปืนดังขึ้นหลายนัด จึงได้ออกมาดูจนทราบว่ามีคนร้าย จำนวน 2 คน ไล่ยิงพ่อและแม่ที่กำลังกรีดยางอยู่จนบาดเจ็บและเสียชีวิตดังกล่าว ด้วยความตกใจ จึงวิ่งไปขอความช่วยเหลือเพื่อนบ้านที่กรีดยางอยู่ใกล้กัน

สำหรับผู้เสียชีวิตมีอาชีพกรีดยางพารา ซึ่งก่อนหน้านี้ มักชวนเพื่อนและรุ่นพี่ในหมู่บ้านนั่งดื่มเหล้าในขนำกลางสวนยางพาราด้วยกันเป็นประจำ และจะชอบพูดเสียงดังมีเหตุทะเลาะวิวาทกันบ้างบางครั้ง ก่อนเกิดเหตุ ผู้ตายได้ชวนเพื่อนมานั่งดื่มเหล้าและมีเรื่องขัดแย้งก่อนแยกย้ายกันกลับ เชื่อว่าผู้ที่ก่อเหตุอาจเป็นเพื่อนที่มาร่วมวงเหล้ากัน

โดยเบื้องต้นตั้งปมสังหารไว้ ขัดแย้งเรื่องธุรกิจ เหตุทะเลาะวิวาท และเรื่องแบ่งผลประโยชน์ไม่ลงตัว คาดว่าจะสามารถติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดีได้เร็วๆ นี้ สำหรับพื้นที่เกิดเหตุเป็นพื้นที่ห่างไกลตัวอำเภอ เส้นทางกันดารและลำบาก เจ้าหน้าที่ต้องใช้รถขับเคลื่อน 4 ล้อในการขึ้นไปยังที่เกิดเหตุ


「 บทความต้นฉบับ 」