กรมอุทยานฯ ล่อซื้อ “ซากเลียงผา” ขายผ่านเฟซบุ๊ก จับดำเนินคดีแล้ว 1 คน เตรียมขยายผล

812
views

ประจวบคีรีขันธ์ – วันที่ 18 พ.ย 63 เพจ ประชาสัมพันธ์ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ได้โพสต์ว่า… จับชายโพสขายกะโหลกและเขาเลียงผา ในเพจ Facebook ​หลังเจ้าหน้าที่ติดต่อขอซื้อ​ เตรียมขยายผลจับกุมเพิ่มเติม

เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการปราบปรามการกระทำความผิดด้านสัตว์ป่าและพืชป่า (ชุดเหยี่ยวดง) ร่วมปฏิบัติภารกิจตามที่ได้รับการประสานข้อมูลจากหน่วยเฉพาะกิจปฏิบัติการพิเศษผู้พิทักษ์อุทยานแห่งชาติและสัตว์ป่า (พญาเสือ) ว่ามีการประกาศขายกะโหลกส่วนหัว และเขาเลียงผา ส่วนหัวติดหนัง และเขาเลียงผา และหัวกะโหลกของหมีหมาในเพจเฟซบุ๊ก ซึ่งผู้โพสต์คือนายอภิชัย(ขอสงวนนามสกุล)

คณะเจ้าหน้าที่จึงได้ให้สายลับติดต่อขอซื้อซากสัตว์ป่าดังกล่าว ทั้ง​ 3​ ซากในราคา 10,000 บาท และได้โอนเงินค่ามัด จำนวนเงิน 1,000 บาท ให้กับบัญชีธนาคารกรุงไทย ของนายครรชิตพล (ขอสงวนนามสกุล) โดยนัดหมายรับส่งซากสัตว์ป่า ดังกล่าว บริเวณปั้ม ปตท. ตำบลทับสะแก อำเภอทับสะแก จังหวัดประจวบคีรีขันธ์

เมื่อวันที่ 16 พ.ย 63 เวลา 14.00 น. คณะเจ้าหน้าที่ประกอบด้วย​ หน่วยเฉพาะกิจปฏิบัติการพิเศษผู้พิทักษ์อุทยานแห่งชาติและสัตว์ป่า (พญาเสือ) ชุดปฏิบัติการปราบปรามการกระทำความผิดด้านสัตว์ป่าและพืชป่า (ชุดเหยี่ยวดง) และตำรวจ บก.ปทส. ได้ร่วมกันวางแผนจับกุม เมื่อถึงเวลานัดหมายได้มีชายทราบชื่อภายหลังคือ นายนายอภิชัย (ขอสงวนนามสกุล) ได้นำถุงกระสอบสีขาว-เขียวมัดปิดปากกระสอบมิดชิด เมื่อสายลับได้เปิดออกดูพบ ซากสัตว์ป่าสงวน และซากสัตว์ป่าคุ้มครอง จึงส่งสัญญาณให้คณะเจ้าหน้าที่ ที่เฝ้าสังเกตการณ์โดยตลอดเข้าตรวจยึด-จับกุม

จากการจับกุมเจ้าหน้าที่พบซากสัตว์ป่าสงวนจำพวกสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม ชนิดเลียงผา จำนวน 2 ซาก (ซึ่งทั้ง 2 ซากมีรอยคล้ายกระสุนปืน) ซากสัตว์ป่าคุ้มครองจำพวกสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม ชนิดหมีหมา จำนวน 1 ซาก​ (รวม 2 ชนิด 3 ซาก)

คณะเจ้าหน้าที่ได้ร่วมกันพิจารณาแล้ว เห็นว่าพฤติการณ์ดังกล่าว ของนายอภิชัย (ขอสงวนนามสกุล) เป็นการกระทำความผิดฐาน “ล่าสัตว์ป่าสงวนหรือสัตว์ป่าคุ้มครอง โดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่” ตามมาตรา 12 ประกอบมาตรา 89 วรรคสอง ถ้ากระทำต่อสัตว์ป่าสงวน ต้องระวางโทษจำคุก 3-15 ปี หรือ ปรับตั้งแต่​ 300,000 – 1,500,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ​ ฐาน “มีไว้ในครอบครองซึ่ง ซากสัตว์ป่าสงวน ซากสัตว์ป่าคุ้มครอง โดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่​” ตามมาตรา 17 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เหิน 5 ปี หรือ ปรับไม่เกิน 500,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ​ และฐาน “ร่วมกันค้าซากสัตว์ป่าสงวนและซากสัตว์ป่าคุ้มครองโดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่” ตามมาตรา 29 ประกอบมาตรา 89 วรรคสอง ถ้ากระทำต่อสัตว์ป่าสงวน ต้องระวางโทษจำคุก 3-15 ปี หรือ ปรับตั้งแต่ 300,000-1,500,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวนายนายอภิชัย (ขอสงวนนามสกุล) เป็นผู้ต้องหา พร้อมตรวจยึดซากสัตว์ป่าสงวนและซากสัตว์คุ้มครองดังกล่าวข้างต้น นำส่งพนักงานสอบสวน สถานีตำรวจภูธรทับสะแก อำเภอทับสะแก จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เพื่อดำเนินคดี รวมทั้งขอให้พนักงานสอบสวน ติดตามตัวนายครรชิตพลฯ มารับทราบข้อกล่าวหาเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป โดยมอบให้นางสาวเนตรนภา งามเนตร นักวิชาการป่าไม้ปฏิบัติการ เป็นผู้กล่าวโทษ และนายภาคภูมิ รัตนคช นักวิชาการป่าไม้ปฏิบัติการ เป็นพยาน สำหรับของกลางและอุปกรณ์การกระทำผิด ขออนุมัติพนักงานสอบสวนเก็บรักษา ณ ศูนย์พญาเสือเพื่อสืบสวนขยายผลต่อไป