จ.สงขลา – ตำรวจคอหงส์แจงคลิปล็อคคอ-ตบหน้าจับวัยรุ่น สุดท้ายถึงโรงพักจ๋อย รับซิ่งจริง โดน 9 ข้อหา
3 พฤศจิกายน 2563 ที่ จ.สงขลา ได้มีการแชร์ภาพเหตุการณ์ขณะตำรวจฝ่ายป้องกันปราบปราม สภ.คอหงส์ 2 นาย เข้าจับกุมชายวัยรุ่นคนหนึ่งในปั้มน้ำมันถนนลพบุรีราเมศวร์ ต.น้ำน้อย อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ที่รวมตัวกันขับรถซิ่ง และเกิดการยื้อยุดฉุดกระชากกันขึ้น เพราะวัยรุ่นคนนี้ไม่ยอมให้จับกุม และอ้างว่าถูกตำรวจตบหน้า พร้อมปฏิเสธว่าไม่ได้ขับรถซิ่ง และไม่ยอมให้ยึดรถ
โดยมีวัยรุ่นทั้งชายและหญิงอีกนับสิบคน เข้ามาห้อมล้อมตำรวจ แสดงความไม่พอใจต่อว่าตำรวจว่าทำเกินกว่าเหตุ บางคนบอกให้ถ่ายชื่อตำรวจเอาไว้ด้วย เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในช่วงคืนวันลอยกระทงที่ผ่านมา แต่สุดท้ายเหตุการณ์จบลงที่วัยรุ่นคนนี้ถูกตำรวจควบคุมตัวไป สภ.คอหงส์ พร้อมรถจักรยายนต์
ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ไปยัง สภ.คอหงส์ เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงเรื่องนี้ ได้รับการเปิดเผยจาก พ.ต.ท.นิสิต สาและ รองผู้กำกับการปราบปราบ สภ.คอหงส์ ว่า ในคืนเกิดเหตุตำรวจได้เข้าแผนดูแลความสงบเรียบร้อยคืนวันลอยกระทง ซึ่งในพื้นที่ สภ.คอหงส์ มีการจัดงานลอยกระทง 10 จุด โดยเฉพาะการรวมกลุ่มกันแข่งรถ และมาพบกลุ่มรถซิ่งนับ 100 คน รวมตัวกันแข่งรถบนถนนลพบุรีราเมศวร์ หน้าสหกรณ์ออมทรัพย์ครูสงขลา ตำรวจจึงได้เปิดไฟวาบ ทำให้กลุ่มวัยรุ่นแยกย้ายกันหลบหนี บางส่วนหนีไปทางสงขลา บางส่วนก็หนีเข้าปั้มน้ำมัน
จากนั้นตำรวจได้ไล่ติดตามเข้าไปในปั้มน้ำมัน พบกับวัยรุ่นกลุ่มนี้ราว 10 คัน อยู่ในปั้ม จึงได้เข้าจับกุม แต่พยายามขับหนีจนเกี่ยวกันล้มและควบคุมตัวได้ 1 คน ตามภาพที่อยู่ในคลิป ซึ่งตอนนั้นตำรวจมีเพียง 2 นาย และไม่ได้ทำร้ายร่างกายตามที่มีการโพสต์ หลังชุลมุน สุดท้ายตำรวจควบคุมตัวชายวัยรุ่นคนนี้มาสอบสวนที่ สภ.คอหงส์ และทำบันทึกจับกุม
จากการสอบสวน วัยรุ่นรายดังกล่าว ยอมรับสารภาพว่า ได้ร่วมอยู่กลุ่มรถซิ่งจริง และในไลน์ก็มีหลักฐานการนัดหมายแข่งรถกันในบริเวณจุดเกิดเหตุด้วย และเมื่อตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดภายในปั้มน้ำมันก็เป็นหลักฐานสำคัญที่มัดตัวเพราะมีภาพอยู่ในกลุ่มรถซิ่งด้วย เจ้าตัวจึงยอมรับสารภาพ และอ้างว่าไม่รู้จักกับคนที่ถ่ายคลิปและนำมาโพสต์
พ.ต.ท.นิสิต กล่าวว่า คดีนี้ตำรวจได้แจ้งข้อหาดำเนินคดีวัยรุ่นรายนี้ถึง 9 ข้อหา คือ 1.ร่วมกับพวกที่หลบหนีแข่งรถในทางสาธารณะโดยผิดกฎหมาย 2.ร่วมกับพวกที่หลบหนีรวมกลุ่มหรือมั่วสุมหรือจัดให้มีการรวมกลุ่มอันน่าจะเป็นการนำไปสู่การแข่งจันรถยนต์หรือรถจักรยานยนต์ 3.ขับขี่รถจักรยานยนต์โดยไม่มีใบอนุญาตขับขี่ 4.ขับขี่รถจักรยานยนต์ไม่สวมหมวกนิรภัย 5.ไม่ติดแผ่นป้ายแสดงการเสียภาษี 6.ใช้รถไม่เสียภาษีประจำปีภายในกำหนด 7.ดัดแปลงสภาพรถ 8.ใช้รถท่อไอเสียมีเสียงดัง 9.อุปกรณ์ส่วนควบไม่ครบถ้วน(กระจกมองหลัง) และส่งฟ้องศาลดำเนินคดี โดยวัยรุ่นรายนี้ได้ยื่นประกันตัวในชั้นศาล
“ในส่วนของผู้ที่นำคลิปมาโพสต์ตำรวจกำลังอยู่ระหว่างการตรวจสอบว่าเข้าข่ายความผิดหมิ่นประมาทหรือโพสต์เกินกว่าเหตุ ซึ่งตำรวจอาจดำเนินคดีตามกฎหมาย ซึ่งเข้าข่ายความผิด พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์” พ.ต.ท.นิสิต กล่าว
