โวย กยท. หักหลัง ยางแผ่น 80 บาท/กก.

2408
views

ชาวสวนยางแห่บรรทุกยางรถจอดคิวแน่น หวังได้ราคายาง 80 บาท/กก. ตามบอร์ด กยท.ส่งซิก แต่กลับโดนหักหลังหั่นราคากลางรับซื้อเองกว่า 6 บาท/กก. “วิสาหกิจ” จี้ผู้ว่าฯ ผิดชอบเซ่นราคายาง กก.ละ 100 บาท

เป็นที่ฮือฮาเมื่อวันหยุดที่ผ่านมาทั้งกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ รวมทั้งผู้บริหารการยางแห่งประเทศไทย (กยท.) ต่างโชว์พลังสามารถสกัดแผน 5 เสือทุบยาง พร้อมกับส่งสัญญาณถึงชาวสวนอย่างหนักว่าอย่านำยางไปขายตลาดกลางเอกชนให้นำมาขายที่ 6 ตลาดกลางยางพารา ในวันที่ 2 พฤศจิกายนนี้ การันตี ราคายางแผ่นรมควันถึงเป้าหมาย 80 บาท/กิโลกรัม ความคืบหน้าวันนี้ เป็นอย่างไรบ้าง

เรืองยศ เพ็งสกุล


เรืองยศ เพ็งสกุล

นายเรืองยศ เพ็งสกุล ประธานกลุ่มวิสาหกิจคนกรีดยางรายย่อยถ้ำพรรณรา (วคยถ.) จังหวัดนครศรีธรรมราช เผย จากการที่ผู้บริหารกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และบอร์ดการยางแห่งประเทศไทย (กยท.) ได้มีการตีฆ้องร้องป่าวประกาศกระแสยางแผ่นรมควันเมื่อวันที่ 31 ตุลาคม 2563 ที่ผ่านมา ห้ามไม่ให้ชาวสวนนำยางแผ่นรมควันไปขายกับตลาดกลางเอกชน เพื่อสกัดแผนอันชั่วช้าเพื่อหาประโยชน์จากคราบน้ำตาของชาวสวนยางนี้ ห้ามขายยางในช่วงเสาร์และอาทิตย์นี้โดยเด็ดขาด ให้ช่วยชะลอการขายยาง 2 วัน แล้วไปขายในตลาดกลางในวันจันทร์ที่ 2 พ.ย.2563 ขายยางแผ่นรมควันได้ในราคากิโลกรัมละ 80 บาท/กก.

จากกระแสข่าวดังกล่าวนี้ยางแผ่นรมควัน ทะลักเข้าตลาด ยางผมยังติดอยู่ในตลาดเลย ต้องขายลงวันพรุ่งนี้ เพราะยางปกติจะเข้าตลาดนครศรีธรรมราช อยู่ที่ ประมาณ 1 แสนตัน แต่วันนี้เข้ามามากกว่า 4 แสนตัน เพราะตลาดตกใจ บวกกับข่าว ผู้ว่าการฯ บอกว่า ราคายางจะถึง 100 บาท/กก. เมื่อเทียบราคากลางเมื่อวันศุกร์ (วันที่ 30 ต.ค.63) ที่ผ่านมา ราคากลาง สูงลิ่วเลย ให้ทิศทางกระแสยางราคาขึ้น

แต่พอวันเสาร์-อาทิตย์ ฝ่ายคุณสุนทร รักษ์รงค์ บอร์ด กยท. ก็ออกมาแจ้งข่าวว่าให้เกษตรกรนำยางมาขายที่ตลาดกลางยางพาราวันที่ 2 พ.ย.นี้ ว่าราคายางจะขึ้น 80 บาท/กิโลกรัมแน่นอน จึงทำให้ทุกคนแห่นำยางไปขายตลาดกลางกันหมดเลย ปรากฏว่าไปถึง ตลาดกลาง กยท.เปิด 6 ตลาด โดยการทุบราคากลางก่อนเปิดตลาดประมูลซื้อขายจริง จากราคายางแผ่นดิบ ณ วันที่ 30 ตุลาคม 2563 ราคา 74.25 บาท/กก. วันที่ 2 พฤศจิกายน 2563 ราคาปรับลงมา 70.25 บาท/กก. ปรับลด 4 บาท/กิโลกรัม

เช่นเดียวกับยางแผ่นรมควันชั้น 3 ราคา วันที่ 30 ตุลาคม 2563 ราคา 80.96 บาท/กิโลกรัม ราคาลงวันที่ 2 พฤศจิกายน 2563 ราคา 75.31 บาท/กิโลกรัม ราคาปรับลงมา ราคา 5.65 บาท/กิโลกรัม แต่ปรากฏว่าราคาประมูลขายในตลาดกลางแผ่นรมควัน ถูกทุบราคา 6.69 บาท/กิโลกรัม ผมไม่เข้าใจ กยท.ว่าใช้ราคากลางอะไรอ้างอิง ยอมรับว่า 5 เสือมีข่าวว่าจะทุบราคาน้ำยางสด ซึ่งก็ลงจริง จากวันที่ 30 ตุลาคม 2563 ราคาน้ำยางสด 74.50 บาท/กิโลกรัม ราคา (2 พ.ย.63) ปรับลดราคาลงมาเหลือ 67 บาท/กิโลกรัม ปรับราคาลงมา 7.5 บาท/กิโลกรัม

“จรรยาบรรณของ กยท.ควรจะใช้ราคากลางตั้งต้นในวันที่ผ่านมาอ้างอิงเป็นราคากลาง แต่นำราคากลางเมื่อวาน เป็นราคาชี้นำ วันดีคืนดี กยท.กลับมาทุบราคายางเอง ผมเทียบให้ดูวันเปิดตลาด 2 วันนี้ ไม่แน่ใจว่าการทำมาตรฐานกลาง มาใช้เป็นราคาอ้างอิงอย่างไร ใช้นั่งเทียนกำหนดราคากลางหรือไม่ ผมอารมณ์เสียมาก แต่ที่รู้แน่ราคายางแผ่นรมควันชั้น 3 ที่ประมูลได้ 73.32 บาท/กก. ราคายางแผ่นที่รับปากว่าราคาจะได้หากนำไปขายตลาดกลาง 80 บาท/กิโลกรัม อยู่ไหน เป็นตลาดเดียวกันหรือไม่ การประมูลตลาดกลางส่วนใหญ่จะบวกลบ 1-2 บาท แล้ว การที่ กยท. เปิดตลาดกลางมาราคาที่ 75.31 บาท/กิโลกรัม ผมรู้ชะตาแล้วราคายางจะขายได้เท่าไร”

ที่ผ่านมาชี้นำตลาดมาตลอดว่าราคายางแผ่นรมควันจะได้ 100 บาท/กิโลกรัม แน่นอน ถ้าขายวันนั้นวันนี้ราคาจะขายได้เท่าโน้นเท่านี้ ที่ผ่านมาคุณหาเหตุผลอะไรราคาที่จะมาชี้นำตลาด แบบชี้โพรงให้กระรอก แต่ทิศทางคนละเรื่องกัน เลย อย่างนี้เกษตรกรตายกันหมด พรุ่งนี้ก็จะโดนทุบราคาอีก มาตรการที่เสนอไปก่อนหน้านี้ก็ไม่ทำสักเรื่องเลย ตั้งแต่ นายณกรณ์ ตรรกวิรพัท เป็นผู้ว่าการการยางแห่งประเทศไทย (กยท.) คนใหม่ที่เข้ามารับผิดชอบ ไม่เห็นได้ทำอะไรเป็นชิ้นเป็นอันเลย แต่ผมก็เชื่อว่าอยู่ได้เพราะเส้นใหญ่ แต่อยู่ใต้ความเดือดร้อนของพี่น้องเกษตรกร ทุกคนสาปแช่งกัน บอกมาได้อย่างไรว่าราคายางจะได้กิโลกรัมละ 100 บาท/กิโลกรัมแน่

“ผมซื้อมา 74 บาท/กก. แล้วมาขาย 73 บาท/กก. วันนี้ต้องจอดคิวรอค้างคืนตลาดกลาง เพราะปริมาณยางมามาก ตลาดกลางรับไม่ไหวเพราะคุณสร้างกระแส ชี้กระแส ถ้าทำไม่ได้ก็อยู่เฉยๆให้เงียบดีกว่า แล้วมานั่งคิดเอาเองว่าราคายางขึ้น ไม่ได้คุยกับกลุ่มทุนเลย แทนที่จะออกข่าวว่ากระแสยางปั่นขึ้นไป เตือนเกษตรกรว่าเป็นราคาหลอก อย่าไปเชื่อ แต่คุณกับประกาศออกมาเป็นกระแสชี้นำ เป็นคนละเรื่องกันเลย เหมือน กยท.สมคบคิดกับพ่อค้าหรือไม่ จงใจช่วยกันทุบราคายางเกษตรกรให้ตายด้วยซ้ำไป เรียกว่าหลอกล่อออกมาให้พ่อค้าทุบราคา”

นายเรืองยศ กล่าวอีกว่า แล้วต่อไปผมจะไปเชื่อใครได้พูดออกมา ไม่ใช่เด็กเลี้ยงแกะ อนุบาล หรือ ไม่ใช้ผู้บริหารที่รับผิดชอบยางพารา หรือ เป็นตาสีตาสาที่ไม่รู้อะไรเกี่ยวกับยางพารา ผมจะไม่ว่าสักคำ แต่คุณอยู่ในวงการยางพารา ต้องพูดออกมาแบบรับผิดชอบ อย่างนี้ต้องลาออก ต่อไปผู้บริหาร กยท.เป็นแบบนี้จะเชื่อใครได้ ราคายางเป็นแบบนี้ ผมเหลือแต่ตัว แล้วก็หัวใจ ก่อนหน้านี้ขาดทุนมา 2 ปี ตอนนี้ราคายางพอได้นิดหน่อย กยท.กลับหลอกออกมาขาย ให้กลุ่มทุนทุบราคาอีก กลับไปสู่สภาพเดิม”

ด้านการยางแห่งประเทศไทย (กยท.) รายงานสถานการณ์ราคายาง ณ วันที่ 2 พฤศจิกายน 2563 ราคากลางเปิดตลาดยางแผ่นดิบอยู่ที่ 70.25 บาท/กก. ยางแผ่นรมควันอยู่ที่ 75.31 บาท/กก. ส่วนราคาประมูลเฉลี่ย ณ ตลาดกลางยางพาราฯ ราคายางแผ่นดิบอยู่ที่ 70.26 บาท/กก. ราคายางแผ่นรมควันอยู่ที่ 73.32 บาท/กก. ราคายางได้รับปัจจัยกดดันจากค่าเงินบาทและค่าเงินเยนที่แข็งค่า เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ รวมถึงตลาดล่วงหน้าต่างประเทศปรับตัว ลดลงประกอบกับปริมาณปริมาณยางที่ออกสู่ตลาดมีมากขึ้น ราคาน้ำมันดิบปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง

อย่างไรก็ตาม เนื่องจากทางภาคใต้ของไทยมีฝนตกอย่างต่อเนื่อง เป็นอุปสรรคต่อการกรีดยางประกอบกับผู้ประกอบการภายในประเทศยังคงมีความต้องการยางในการส่งมอบ ยังคงเป็นปัจจัยที่ช่วยสนับสนุนราคายางได้ในระยะนี้ นักลงทุนยังคงต้องติดตามเศรษฐกิจโลกอย่างใกล้ชิด

ดูต้นฉบับ