อัจฉริยะ พา 3 ครอบครัวร้องสอบ ‘หมอ’ รพ.ดัง ทำคลอดเด็กดับเดือนเดียว 40 ศพ

3140
views

อัจฉริยะ พา 3 ครอบครัวร้องกระทรวงสาธารณสุข สอบสูตินรีแพทย์ รพ.สมุทรสาคร อ้างสถิติทำคลอดเด็กตายตั้งแต่ต้นปีนับร้อยศพ แค่ ก.ย.เดือนเดียว 40 ศพ ขีดเส้นรู้ผลใน 7 วัน ไม่งั้นหอบศพเด็กวางหน้าห้อง ‘อนุทิน’

เมื่อวันที่ 12 ต.ค. ที่กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม นำผู้เสียหาย 3 ครอบครัว ที่ฝากครรภ์และทำคลอดกับสูตินรีแพทย์ รพ.สมุทรสาคร คนเดียวกัน แต่ลูกกลับเสียชีวิตทั้งหมด มาร้องเรียน และขอความเป็นธรรมต่อ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.สาธารณสุข (สธ.)โดยมี นพ.สุระ วิเศษศักดิ์ รองปลัด สธ. นพ.กิตติ กรรภิรมย์ สาธารณสุขนิเทศก์ เขตสุขภาพที่ 5 นพ.อนุกูล ไทยถานันดร์ ผอ.รพ.สมุทรสาคร เป็นผู้มารับเรื่อง พร้อมระบุว่า มีการตั้งกรรมการสอบเรื่องนี้แล้ว ใช้เวลาไม่เกิน 3 เดือน พร้อมทั้งมีการพิจารณาการช่วยเหลือเยียวยาผู้เสียหายตามมาตรา 41 พ.ร.บ.หลักประกันสุขภาพแห่งชาติ

นายอัจฉริยะ กล่าวว่า การร้องขอเป็นธรรมให้กับผู้เสียหายทั้ง 3 ครอบครัว จากตัวเลขของมูลนิธิป่อเต็กตึ๊งพบว่า ภายในระยะเวลา 1 ปี ที่ รพ.สมุทรสาคร มีเด็กเสียชีวิตเกิน 100 ศพ แค่เดือน ก.ย.63 เพียงเดือนเดียว ก็เสียชีวิตมากถึง 40 ศพ เป็นไปได้อย่างไร ถามว่ามาตรฐานของ รพ.สมุทรสาคร อยู่ตรงไหน ศพทารกนั้นมีพ่อแม่ แต่ก็เอาไปปนกับศพเด็กไร้ญาตินานกว่า 7 เดือน แทนที่พ่อแม่จะได้นำศพไปประกอบพิธีทางศาสนา จึงมาร้องเรียนเพื่อขอให้ตั้งกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีทำไมถึงมีเด็กเสียชีวิตจากการทำของคลอดของแพทย์รายนี้ถึงมีจำนวนมาก พร้อมขอให้เร่งดำเนินการให้แล้วเสร็จภายใน 7 วัน มิฉะนั้น ตนจะนำศพทารกไปวางที่หน้าห้องนายอนุทิน ซึ่งวันนี้ก็นำศพมาด้วย แต่เกรงใจ

ด้าน ผู้เสียหายรายแรก กล่าวว่า ตนฝากครรภ์พิเศษที่คลินิกกับนายแพทย์รายนี้ และเข้ารพ.สมุทรสาคร คลอดเมื่อวันที่ 19 มี.ค.ที่ผ่านมา แต่รอคลอดอยู่นานก็ไม่มีใครมาดู จนต้องกลับมา รพ.อีกครั้งในวันรุ่งขึ้น แต่ก็ต้องนอนรออยู่กับคนไข้อนาถาจนน้ำคร่ำแตก ก็ไม่มีใครมาดูแล สุดท้ายลูกตนเสียชีวิต เพราะรกพันคอ ทั้งที่ตลอดเวลา 8 เดือนที่อุ้มท้องมาก็ปกติทุกอย่าง นอกจากนี้ หลังคลอด ตนต้องนอนอยู่ในห้องไอซียู เพราะตกเลือดมาก

ประกอบกับเป็นช่วงไวรัสโควิด-19 ระบาด รพ.ได้มากล่อมสามีตนว่า ให้ยกร่างทารกให้กับ รพ.เพื่อไปประกอบพิธี มีการสอบถามแล้วว่า ต้องเซ็นเอกสารอะไรหรือไม่ แต่ทาง รพ.ก็บอกว่า ไม่ต้องเซ็นอะไร ทางสามีคิดว่าจะนำร่างทารกไปเป็นอาจารย์ใหญ่จึงมอบให้ไป จนผ่านมา 7 เดือน ถึงรู้จากปากมูลนิธิป่อเต๊กตึ๊งว่า ศพลูกตนถูกนำไปรวมอยู่กับศพไร้ญาติกว่า 40 ศพ ทำให้ใจสลายมาก เพราะระยะทางไม่ไกล แต่กลับเอาศพลูกออกมาทำพิธีทางศาสนาไม่ได้

ขณะที่ผู้เสียหายรายที่ 2 กล่าวว่า ตนฝากครรภ์พิเศษกับนายแพทย์ท่านนี้มาตลอด มีการตรวจและดูแลครรภ์ที่คลินิกของแพทย์รายนี้ทุกอย่างเป็นปกติ วันที่น้ำเดินก็มาที่คลินิกอีกครั้งหมอถามว่า เคยบอกหรือไม่ว่า ลูกมีภาวะหัวใจโต ก่อนจะให้ตนไป รพ.แต่ก็รอนาน 6 ชั่วโมง ทั้งที่บอกว่า ลูกมีภาวะหัวใจโต ส่วนตนก็หายใจเองไม่ได้ ต้องใส่เครื่องช่วยหายใจ ทำให้สงสัยว่า ทำไมถึงไม่รีบผ่าคลอด ทาง รพ.แจ้งว่า ตนไม่ใช่เคสฉุกเฉิน เพราะหากจะเรียกว่าฉุกเฉิน ต้องรอให้สายสะดือออกมาก่อน ทั้งนี้ หลังคลอดออกลูกกลับไม่กระดิก ร้องแค่ 2 ครั้ง ตัวซีด ปอดติดเชื้อ จนเสียชีวิต ตนคิดว่าหากผ่าคลอดให้ตนเร็ว ลูกก็คงไม่เป็นแบบนี้

ส่วนผู้เสียหายรายที่ 3 กล่าวว่า ตนมาคลอดที่ รพ.สมุทรสาคร ตามปกติ น้ำหนักแรกคลอด 3.2 กก. เพิ่งให้กินนม หลังจากนั้นอีก 3 ชั่วโมง พยาบาลนำตัวไปอาบน้ำ แต่หายไป 3 ชั่วโมง แฟนไปตามถึงได้รับการแจ้งว่า ลูกหายใจเองไม่ได้ อาการ 50 : 50 จนกระทั่งกลางดึกได้รับแจ้งว่า ลูกเสียชีวิต ทั้งที่ก่อนหน้านี้แพทย์บอกว่า ไม่มีสัญญาณใดๆ เด็กอาการปกติมาโดยตลอด จึงสงสัยว่าที่หายไปหลายชั่วโมง เอาไปทำอะไร ลูกเป็นอะไร

ทั้งนี้ นพ.อนุกูล ชี้แจงว่า กรณีของผู้เสียหายรายแรก อาจจะมีปัญหาเรื่องการสื่อสารไม่ตรงกัน ทำให้เข้าใจคลาดเคลื่อน เนื่องจากในช่วงนั้นแม่เด็กอยู่ในอาการวิกฤติ พ่อเด็กก็อยู่ในภาวะกังวล ประกอบกับเป็นช่วงการระบาดของไวรัสโควิด-19 จึงอาจจะไม่สะดวกในการประกอบพิธีทางศาสนา ทาง รพ.จึงให้การช่วยเหลือ โดยการนำศพไปเก็บไว้ที่ห้องเก็บศพ การเก็บศพผู้เสียชีวิตจากสาเหตุต่างๆ นั้น เป็นเรื่องปกติอยู่แล้ว โดยหากเป็นศพผู้ใหญ่จะเก็บไว้ 7 วัน ส่วนศพทารกจะเก็บไว้ได้นานกว่า ประมาณ 2 สัปดาห์ หากไม่มีญาติมารับ ก็จะมอบให้มูลนิธิฯ อย่างไรก็ตาม ต้องมีการตรวจสอบเรื่องการไม่ทำเอกสารเกี่ยวกับการรับ-ส่งศพเด็กต่อไป

นพ.อนุกูล กล่าวต่อว่า สำหรับตัวเลขทารกเสียชีวิตกว่า 40 ศพนั้น ตนไม่ทราบว่ารายละเอียดเป็นอย่างไร แต่จากข้อมูลของทาง รพ.สมุทรสาคร ไม่เหมือนกับของป่อเต็กตึ๊ง โดยพบว่า แต่ละเดือนจะมีทารกมาคลอด ประมาณ 600 ราย หรือ วันละประมาณ 20 คน เสียชีวิตภายใน 24 ชั่วโมงหลังคลอด เฉลี่ยวันละ 4 คน ซึ่งจากข้อมูลปี 63 พบว่า เดือน มิ.ย. เสียชีวิต 2 ราย ก.ค. 5 ราย ส.ค. 3 ราย ก.ย. 4 ราย ดังนั้น ตัวเลข 40 ศพ ที่กล่าวมานั้น ไม่แน่ใจว่าเป็นการเสียชีวิตจากสาเหตุอื่นหรือไม่ ทั้งนี้ นายแพทย์ที่ถูกร้องเรียนเป็นลูกจ้างรายปีของทาง รพ.สมุทรสาคร ดำเนินการจ้างตั้งแต่ปี 2554 แต่ขณะนี้ได้เลิกจ้างไปแล้ว ตั้งแต่เดือน ก.ย.ที่ผ่านมา การตรวจสอบข้อร้องเรียนคาดว่า ต้องใช้เวลาประมาณ 45 วัน เนื่องจากต้องรอผลการชันสูตรศพรายที่ 3 ก่อน.

ดูต้นฉบับ