ซุ่มยิงดับ หนุ่มชุมพรพนักงานสหกรณ์ “เสี่ยเงินกู้” ฉกทอง-เงินสด คาดฆ่าล้างหนี้

3260
views

หนุ่มชุมพร พนักงานบำบัดน้ำเสียสหกรณ์นิคม และยังเป็น “เสี่ยเงินกู้” ปล่อยเงินให้เพื่อนร่วมงาน รวมถึงชาวบ้านทั่วไป ถูกคนร้ายซุ่มยิงด้วยปืนลูกโม่ ดับคาบ่อบำบัด เมียเผยเลสทอง 4 บาท กับเงิน 4 หมื่นหายไป แต่อาจเป็นการเบี่ยงเบนประเด็น สาเหตุน่าจะมาจากฆ่าล้างหนี้

เวลา 09.30 น.วันที่ 11 ก.ย.63 พ.ต.ท.อำพล นุชนงค์ สว.(สอบสวน) สภ.ท่าแซะ ได้รับแจ้งเหตุมีคนถูกยิงตายภายในโรงงานสหกรณ์นิคมท่าแซะ จำกัด หมู่ที่ 5 ตำบลคุริง อ.ท่าแซะ จึงรายงานผู้บังคับบัญชาทราบ แล้วรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมด้วยพ.ต.อ.ธงชัย นุ้ยเจริญ ผกก.สภ.เมืองชุมพร พ.ต.อ.ธานี นาคหกวิคผกก.สส.ภ.จว.ชุมพร ตำรวจชุดสืบสวน สอบสวน เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน แพทย์เวรโรงพยาบาลท่าแซะ และหน่วยกู้ภัยมูลนิธิชุมพรการกุศลสงเคราะห์

ที่เกิดเหตุ เป็นโรงงานสหกรณ์ขนาดใหญ่ สกัดน้ำมันปาล์มและผลิตไบโอแก๊ส ตรวจสอบพบว่าบริเวณที่พักจุดควบคุมระบบอิเล็กทรอนิกส์ระบบบ่อบำบัดน้ำเสีย ที่อยู่ด้านหลังโรงงาน พบศพ นายสราวุธ หรือน้อง สังข์นิมิตร อายุ 40 ปี พนักงานตรวจสอบคุณภาพสิ่งแวดล้อมฝ่ายบ่อบำบัดน้ำเสีย สภาพศพนอนหงานหน้าเลือดแห้งเกรอะกรัง มีบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืนไม่ทราบชิด 2 นัด ที่ไหล่ขวาทะลุออกชายโครงซ้าย และกลางหลังทะลุชายโครงซ้าย ที่นิ้วนางขวาสวมแหวนทองคำหนัก 1 บาท เสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 5 ชั่วโมง ที่เกิดเหตุไม่พบปลอกกระสุนแต่อย่างใด

เจ้าหน้าที่ตรวจสอบบริเวณพงหญ้าข้างถังน้ำพลาสติกและถังน้ำมันขนาด 200 ลิตร ใกล้กับจุดที่พักควบคุมระบบบอิเล็กทรอนิกส์ ห่างจากจุดพบศพประมาณ 3 เมตร มีรอยเหยียบย่ำคาดว่าเป็นจุดที่คนร้ายมายืนซุ่มรอเป้าหมาย เจ้าหน้าที่จึงกันพื้นที่ไว้เป็นหลักฐาน

จากการสอบสวนนายสุขุม ทิพย์เบ็ญจะ อายุ 32 ปี หัวหน้าแผนกสิ่งแวดล้อมโรงงาน กล่าวว่านายสราวุธผู้ตายได้มาลงชื่อเข้าเวรทำงานช่วงเวลา 20.00 น.ของวันที่ 10 ก.ย.63 และจะออกงานช่วงเวลา 04.00 น.วันที่ 11 ก.ย.63 และช่วงเวลาประมาณ 02.00 น.ยามในโรงงานยังเห็นผู้ตายมาเอารถจักรยานปั่นขึ้นไปตรวจสอบบ่อบำบัดน้ำเสียที่จุดเกิดเหตุซึ่งมีอยู่ 4 บ่อ เพื่อตรวจสอบคุณภาพน้ำและโยนก้อน EM ปรับสภาพน้ำพร้อมดูแลแผงควบคุมระบบบำบัดน้ำเสีย โดยจะต้องปั่นรถจักรยานไปตรวจสอบเป็นระยะ ตามช่วงเวลาที่กำหนด

นายสุขุม กล่าวต่อว่า หลังจากที่ตนมาทำงานตอนเช้าพบว่านายสราวุธผู้ตาย ยังไม่มาลงชื่อออกเวร ตนจึงโทรศัพท์ไปหาหลายครั้งแต่ไม่มีคนรับสาย จนกระทั่งตอนสายตนจึงปั่นจักรยานไปตรวจสอบที่บ่อบำบัดน้ำเสีย พบนายสราวุธนอนหมดสติอยู่เมื่อตะโกนเรียกก็ไม่รู้สึกตัว ตนเข้าใจว่าเป็นลม จึงรีบปั่นรถจักรยานกลับมาตามเพื่อนร่วมงานให้ขับรถยนต์ขึ้นรับตัวนำส่งโรงพยาบาล แต่เมื่อเข้าไปจะยกตัวพบว่านายสราวุธนอนตายตัวแข็งทื่อ และมีเลือดแห้งเกราะกรังไปทั่ว จึงได้แจ้งตำรวจมาที่เกิดเหตุดังกล่าว

ด้าน นางสุวรรณี สรวันเพ็ญ อายุ 38 ปี ภรรยา กล่าวว่า นายสราวุธ สามีตน ก่อนมาทำงานได้ใส่สร้อยข้อมือหนัก 4 บาท 1 เส้น และนำเงินสดติดตัวมาด้วย 4 หมื่นบาท หลังถูกยิง ทรัพย์สินดังกล่าวได้หายไป เหลือเพียงแหวนทองคำ 1 บาท สวมคาอยู่ที่นิ้วนางข้างขาว 1 วง ซึ่งสามีตนนอกจากทำงานที่โรงงานแห่งนี้แล้วยังปล่อยเงินกู้ให้กับพนักงานในโรงงานและชาวบ้านทั่วไป รายละหลักพัน ถึงแสนบาท มีลูกหนี้เงินกู้อยู่หลายราย

นางสุวรรณีกล่าวต่อว่า ก่อนสามีถูกยิงตาย ได้พูดให้ฟังว่ามีปัญหากับลูกหนี้อยู่ 2-3 ราย ที่กู้เงินไปแล้วไม่ค่อยใช้คืน โดยล่าสุดมีลูกหนี้คนหนึ่ง ยังไม่จ่ายหนี้เก่าที่กู้ไปแล้วนับแสนบาท จะมาขอกู้เพิ่มอีก แต่สามีตนไม่ยอมให้ และได้ถูกข่มขู่บังคับสามีว่าจะต้องกู้เงินก้อนใหม่ให้ได้ว จนกิดมีปากเสียงกัน กระทั่งสามีถูกยิงตายดังกล่าว

สาเหตุ เบื้องต้น ตำรวจสันนิษฐานน่าจะมีปมเหตุมาจากเรื่องหนี้เงินกู้ ฆ่าล้างหนี้ เนื่องจากผู้ตายมีฐานะดีปล่อยเงินกู้มานาน มีลูกหนี้อยู่จมาก ส่วนทรัพย์สินที่คนร้ายนำติดตัวไปคาดว่าเพื่ออำพรางเบี่ยงเบนคดี หรืออาจมาจากความขัดแย้งส่วนตัว และไม่ตัดประเด็นความขัดแย้งกับเพื่อนร่วมงาน ส่วนคนร้ายคาดว่าจะรู้เส้นทางและความเคลื่อนไหวภายในโรงงานเป็นอย่างดี โดยย่องเข้ามาทางป่าละเมาะด้านหลังโรงงานบริเวณบ่อบำบัดน้ำเสียที่ติดกับที่ดินของชาวบ้าน ซึ่งไม่มี รปภ.ดูแล ซุ่มรอจังหวะที่นายสราวุธจะมาตรวจเวรที่บ่อบำบัดน้ำเสียตอนกลางดึก แล้วยิงด้วยอาวุธปืนลูกโม่แบบไม่สลัดปลอกกระสุน ก่อนจะหลบหนีไป ซึ่งเจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อติดตามจับกุมคนร้ายมาดำเนินคดีต่อไป.

ดูต้นฉบับ >