สุราษฎร์ | ศาลอนุมัติหมายจับ 3 แกนนำบุกชิงตัวผู้ต้องหาลอบคราดหอย บังคับ ‘ประมงอำเภอ’ นั่งตากแดด

1536
views

ศาลจังหวัดสุราษฎร์ธานีได้อนุมัติหมายจับ 3 แกนนำชาวบ้านสุดเหิมเกริมนำชาวบ้านกว่า 100 คน เข้าปิดล้อม ตำรวจก่อนชิงตัวผู้ต้องหาจับสัตว์น้ำผิดกฎหมาย แถมบังคับ “ประมงอำเภอไชยา” นั่งตากแดดนาน 5 ชม.ต่อรองให้ประมงจังหวัดห้ามเอาผิด!

จากกรณี ประมงอำเภอไชยา จ.สุราษฎร์ธานี ร่วมกับตำรวจน้ำสุราษฎร์ธานีเข้าจับกุมเรือประมงลักลอบใช้เครื่องมือผิดกฎหมาย ด้วยการใช้ตะแกรงคราดในเขตประมงพื้นบ้านบริเวณแหลมซุย อ.ไชยา แล้วถูกกลุ่มชาวประมงพื้นบ้านประมาณ 100 คน ใช้เรือประมงกว่า 20 ลำ เข้าปิดล้อมเรือตรวจการณ์ของตำรวจน้ำ ที่กำลังลากจูงเรือของกลางผู้ต้องหา 3 คนกับเข้าฝั่ง ที่บริเวณปากแม่น้ำตาปี

ทั้งยังชิงตัวผู้ต้องหาพร้อมทำลายหลักฐานที่เป็นพยานในคดี เหตุเกิดเมื่อวันที่ 8 ก.ย.ที่ผ่านมา โดยนายนิรันดร์ พรหมควร ประมงอำเภอไชยา พร้อมด้วย พ.ต.ท.กนกพงษ์ สำราญใจ สว.ส.2 ตำรวจน้ำสุราษฎร์ธานี ผู้บังคับเรือตรวจการณ์ 78 เข้าแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวน สภ.เมืองสุราษฎร์ธานี ให้ดำเนินคดีกับแกนนำชาวประมงที่เข้าก่อเหตุ

ความคืบหน้าเมื่อวันที่ 11 ก.ย. พ.ต.อ.ศิริชัย สุขสาตต์ ผกก.สภ.เมืองสุราษฎร์ธานี เปิดเผยว่า ศาลจังหวัดสุราษฎร์ธานีได้อนุมัติหมายจับ นายอนุชา บินมูซา หรือ บังหมัดดำ อายุ 44 ปี, น.ส.วรรณดี เทศงาม อายุ 52 ปี และ นายสายันต์ ศักดิ์ทอง อายุ 37 ปี ทั้งหมดเป็นชาว จ.สุราษฎร์ธานี ตามหมายจับที่ จ.223/2563, จ.224/2563 และ จ.225/2563

ในความผิด 5 ข้อหา ฐาน “…ร่วมกันต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงานโดยใช้กำลังประทุษร้ายหรือขู่ว่าจะใช้กำลังประทุษร้าย, ร่วมกันข่มขืนใจเจ้าพนักงานให้ปฏิบัติการอันมิชอบด้วยหน้าที่หรือให้ละเว้นปฏิบัติการตามหน้าที่ โดยใช้กำลังประทุษร้าย หรือขู่เข็ญว่าจะใช้กำลังประทุษร้าย โดยร่วมกันตั้งแต่สามคนขึ้นไป, ร่วมกันกระทำด้วยประการใดให้ผู้ถูกคุมขังตามอำนาจของเจ้าพนักงานผู้มีอำนาจสืบสวนคดีอาญาหลุดพ้นจากการคุมขังไป โดยใช้กำลังประทุษร้าย หรือขู่เข็ญว่าจะใช้กำลังประทุษร้าย,

ร่วมกันช่วยผู้อื่นมิให้ต้องรับโทษหรือให้รับโทษน้อยลง ทำให้เสียหาย ทำลาย ซ่อนเร้น เอาไปเสียหรือทำให้สูญหายหรือไร้ประโยชน์ซึ่งพยานหลักฐานในการกระทำความผิด, ร่วมกันทำร้ายร่างกายเจ้าพนักงานซึ่งกระทำการตามหน้าที่ หรือเพราะเหตุที่จะกระทำ หรือได้กระทำการตามหน้าที่ และร่วมกันหน่วงเหนี่ยวหรือกักขังผู้อื่นหรือกระทำด้วยประการใดให้ผู้อื่นปราศจากเสรีภาพในร่างกาย…”

ทั้งนี้ แกนนำทั้ง 3 คน ได้นำเรือประมงพื้นบ้านพร้อมชาวบ้านจำนวนมากปิดล้อมเรือตรวจการณ์ 78 ตำรวจน้ำสุราษฎร์ธานี ทำการชิงตัว นายสมรักษ์ หวังสวัสดิ์ นายประเสริฐ การะพิทักษ์ และชายไทยไม่ทราบชื่อผู้ต้องหาที่ลักลอบทำประมงผิดกฎหมายนำเรือประมงใช้ตะแกรงคราดหอยบริเวณปลายแหลมซุย ต.พุมเรียง อ.ไชยา

ระหว่างที่เจ้าหน้าที่ลากจูงเรือประมงที่กระทำผิดพร้อมผู้ต้องหา 3 คน กลับเข้าฝั่งเพื่อส่งดำเนินคดีโดยกลุ่มผู้ถูกออกหมายจับได้ตัดเชือกผูกตะแกรงคราดสัตว์น้ำที่ใช้ทำผิดกฎหมายและตักสัตว์น้ำที่อยู่บนเรือของกลางทิ้งน้ำ เพื่อทำลายหลักฐาน

นอกจากนี้ยังใช้กำลังบังคับให้ นายนรินทร์ พรหมควร ประมงอำเภอไชยา นั่งตากแดดอยู่บนหัวเรือ 5 ชั่วโมง ห้ามมิให้ดื่มน้ำหรือใด ๆ เพื่อต่อรองให้ประมงจังหวัดเข้ามาพบไม่ให้ดำเนินคดีและยังได้เข้าทำร้ายร่างกายด่าทอ นายนรินทร์ พร้อมทำลายกระเป๋าสะพายเสียหาย โดยอาศัยกำลังชาวบ้านที่มีมากกว่าได้นำเรือประมงของกลางไปด้วย.

ดูต้นฉบับ >